ในที่สุดก็มีบรรทัดฐานสำหรับ “ทั่นผู้ทรงเกียรติ” เสียที เมื่อ “ศาลรัฐธรรมนูญ” มีคำวินิจฉัยในคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยื่นเรื่อง กรณีสมาชิกภาพของ “นวัธ เตาะเจริญสุข” ส.ส.ขอนแก่น เขต 7 พรรคเพื่อไทย สิ้นสุดลงหรือไม่อย่างไร เนื่องจากการต้องคำพิพากษาของศาลจังหวัดขอนแก่นลงโทษประหารชีวิต ในคดีจ้างวานฆ่า “สุชาติ โคตรทุม” อดีตปลัด อบจ.ขอนแก่น และถูกคุมขังโดยศาลอุทธรณ์ภาค 4 ว่า สิ้นสุดสภาพตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค. ที่ศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งก็ต้องบอกว่าอะไรจะบังเอิญขนาดนั้น เพราะดันเป็นวันคล้ายวันเกิดของ “นวัธ” เสียนี่กระไร ...๐

การวินิจฉัยของ “ศาลรัฐธรรมนูญ” ในประเด็น “นวัธ” สัปดาห์นี้คงไม่สร้างความฮือฮาเท่าใดนัก เพราะแนวโน้มก็ชัดมาตั้งแต่ต้น  แต่ในสัปดาห์หน้าในวันที่ 20 พ.ย. ซึ่งศาลจะวินิจฉัยคดีกรณี “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ถือหุ้นสื่อ ซึ่งไม่ว่าผลการวินิจฉัยจะออกมาอย่างไรก็เชื่อว่าทำให้ “คนที่อยู่เป็น” และ “คนที่อยู่ไม่เป็น” รวมถึง “ปุถุชนคนธรรมดา” ได้มีเรื่องเมาธ์มอย กันสนุกปากแน่ๆ ...๐

ล่าสุด “โหรเก่งกาจ” หรือ “เก่งกาจ จงใจพระ” ประธานมูลนิธิทรงคุณธรรมก็ออกมาทำนายดวงเมืองแล้ว โดยเฉพาะกรณีของพรรค “ส้มหวาน” ที่ฟันแบบไม่กั๊กว่า “ถูกยุบแน่นอน”!!! ส.ส. 80 เสียงของพรรคเขารู้ตัวแล้ว พรรครัฐบาลก็ตกปลาในอ่าง ใครก็อ่านเกมออก ส.ส.ย้ายเข้าพรรคพลังประชารัฐสัก 30-40 เสียง และย้ายเข้ามาพรรคภูมิใจไทยอีก งานนี้คงไม่ต้องรอลุ้นนานว่า “โหรเก่งกาจ” จะยังแม่นเหมือนเดิมหรือไม่ ...๐

หันมาเรื่องของ “ที่ดิน” ที่อีนุงตุงนังกันบ้าง เพราะจุดเริ่มต้นมาจาก “ปารีณา ไกรคุปต์” ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นำชาวราชบุรีไปทวงที่ดิน 500 ไร่ของ “นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ” มารดาของนายธนาธร ที่ ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี แต่สุดท้ายบูมเมอแรงก็ย้อนกลับมาที่ “ปารีณา” ในส่วนของฟาร์มไก่ 1,700 ไร่เศษ ซึ่งเป็นที่ดินในท่วงทำนองเดียวกัน งานนี้ต้องเรียกว่า หมัดต่อหมัดกันเลยทีเดียว และที่สำคัญจะเป็นการพิสูจน์ด้วยว่าใครเป็น “ทองแท้ที่ไม่กลัวไฟ” กันแน่ ...๐

แต่ที่ตลกไม่ออกคือ ดูเหมือนคนที่เช็กบิล “ปารีณา” กลับไม่ใช่คนของพรรคส้มหวานเหมือนในโลกออนไลน์แต่ประการใด แต่กลับเป็น “เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ” อดีตสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติเสียนี่ รวมทั้ง “อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด” โฆษกพรรคเพื่อไทย ที่ออกมาสำทับว่า “ปารีณา” ไม่ได้อยู่ในเรดาร์ชีวิตของ 2 อดีตนายกรัฐมนตรีเลย แหม! แล้วทำไมในเวทีประชุมสภาผู้แทนราษฎรเวลา “น้องเอ๋” อภิปรายพาดพิงถึงอดีตนายกฯ หนีคุก บรรดาไพร่ราบพลเลวทั้งหลายถึงพาเหรดออกมาแก้ต่างกันเล่า อย่างนี้จะบอกไม่อยู่ในเรดาร์ได้อย่างไร ...๐

แล้วก็ไม่ใช่ มีเพียงพรรคเพื่อไทยที่ออกมาเป็นหัวหมู่ทะลวงฟัน “ปารีณา” เท่านั้น ยังมี “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส” หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบที่โดดมาร่วมตรวจสอบฟาร์มเลี้ยงไก่ “น้องเอ๋” ด้วย หลังจากได้ “ปะ-ฉะ-ดะ” ในการประชุม กมธ.ปราบโกงกันมายกหนึ่งแล้ว ซึ่งใครได้ดูคลิปตั้งแต่ต้นจนจบหรืออ่านเนื้อหาวิวาทะกันระหว่างทั้งคู่ คงรู้กันดีว่า ใครกันแน่ที่ “ขู่” และใครที่ “เตือน” งานนี้ขาเมาธ์เขาปิดกันให้แซ่ดว่าเข้าทำนอง “แก่เพราะกินข้าว เฒ่าเพราะอยู่นาน” จริงๆ นะทั่นผู้ชม ...๐

ช่างพลิกไปพลิกมาอย่างมากสำหรับ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ที่เมื่อเร็วๆ นี้ โพลยังยกให้เป็นรัฐมนตรีที่มีผลงานแบบคะแนนตีคู่ “ลุงตู่” กันมาเลยทีเดียว แต่ยามนี้จะเรียกว่า “พระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรก” จากคนรอบข้างและบริวารข้างกายก็ว่าได้  เพราะมีเรื่องระหองระแหงกับสื่อค่ายบางนาถึงขั้นนำไปอภิปรายในสภากันเลยทีเดียว ซ้ำร้าย “ป.ป.ช.” ยังมาชี้มูลความผิดกรณี “สินบน” โรงไฟฟ้าขนอมเข้าไปอีก เรียกว่าช่างประจวบเหมาะอะไรกันซะขนาดนั้น ...๐

ทิ้งท้ายด้วยข่าว “ชิม ช้อป ใช้” เฟส 3 กันบ้าง หลังจากติดลมบนมาแล้วในเฟส 1 และ 2 แต่ดูท่าในเฟส 3 นั้นอาจเกิดอาการหัวทิ่มสะดุดก็เป็นได้ เพราะดูเหมือนผู้วางแนวคิดเฟส 3 ครานี้มิได้เข้าใจใน “พฤติกรรม” ของชาวบ้านร้านถิ่นแต่ประการใด ที่สำคัญกลับไม่ได้นำบทเรียนความสำเร็จจากเฟส 1 และ 2 มาใช้ งานนี้เชื่อได้เลยว่าการลงทะเบียนในวันที่ 14 พ.ย. ซึ่งเป็นวันแรก จะไม่สวยหรูเหมือนเฟสก่อนๆ หรือโครงการท่องเที่ยวแน่ๆ ...๐

...ท.ศักดิ์