เมืองเวนิสของอิตาลีวัดระดับน้ำขึ้นสูงสุดเมื่อคืนวันอังคารได้ถึง 1.87 เมตร ซึ่งสูงที่สุดในรอบ 53 ปี ทำให้หลายพื้นที่ของเมืองจมอยู่ใต้น้ำ

ชาวเมืองเวนิสและนักท่องเที่ยวเดินบนสะพานยกระดับพ้นน้ำในเมืองรีวาเดกลีเชียโวนีของนครเวนิส ภายหลังน้ำขึ้นสูงเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน / AFP

    ศูนย์ติดตามระดับน้ำขึ้นเมืองเวนิสแถลงว่า เมื่อค่ำวันอังคารที่ 12 พฤศจิกายน วัดระดับน้ำขึ้นสูงสุดได้ 1.87 เมตร ตั้งแต่มีการบันทึกสถิติระดับน้ำขึ้นเมื่อปี 2466 เวนิสเผชิญน้ำขึ้นสูงสุดเมื่อปี 2509 โดยน้ำขึ้นสูงถึง 1.94 เมตร

    ลุยจี บรุนญาโร นายกเทศมนตรีเมืองเวนิส โพสต์ทางทวิตเตอร์ว่า เรากำลังเผชิญน้ำขึ้นสูงผิดธรรมดา เจ้าหน้าที่ทุกคนถูกส่งไปช่วยแก้ไขเหตุฉุกเฉินและประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้น และจะประกาศสถานการณ์ภัยพิบัติของเมือง น้ำท่วมผิดปกติที่เกิดขึ้นเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ น้ำท่วมครั้งนี้จะทิ้งคราบน้ำไว้อย่างถาวร

    สื่ออิตาลีรายงานว่า น้ำท่วมเวนิสเมื่อวันอังคารทำให้มีผู้เสียอย่างน้อย 2 ราย ที่เกาะเพเลสตรีนีในทะเลเอเดรียติก ชายวัย 78 ปีเสียชีวิตจากโดนไฟฟ้าชอร์ตขณะพยายามเปิดปั๊มน้ำเพื่อดูดน้ำที่เข้าท่วมบ้านของเขา

    บริเวณจัตุรัสเซนต์มาร์กของเมืองเวนิส ซึ่งเป็นส่วนที่ต่ำที่สุดของเมือง เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่โดนน้ำท่วมหนักสุด จากบันทึกเผยว่า น้ำท่วมวิหารเซนต์มาร์กมาแล้ว 5 ครั้งตั้งแต่เริ่มก่อสร้างเมื่อ 1,200 ปีก่อน ปีแอร์เปาโล คัมโปสตรินี สมาชิกสภาวิหารเซนต์มาร์กเผยว่า สิ่งที่น่าวิตกคือเกิดน้ำท่วมใหญ่ขึ้นถึง 3 ครั้งในรอบ 20 ปีที่ผ่านมา ล่าสุดคือเมื่อปีที่แล้ว

    สำนักอุตุนิยมวิทยาอิตาลีแถลงว่า เมื่อวันอังคารเกิดพายุฝนตกหนักและน้ำท่วมทางภาคใต้ของอิตาลี รวมถึงเมืองตารันโต, บรินดิซีและมาเตรา และเมืองพอซซัลโลและโนโตบนเกาะซิซิลี.