ส.ว.หญิงยึดเก้าอี้ผู้นำโบลิเวีย 'โมราเลส' จวกรัฐประหารอีแอบ


เพิ่มเพื่อน    

นางจีไนน์ อาเยซ รองประธานวุฒิสภาโบลิเวียวัย 52 ปี แต่งตั้งตนเองเป็นประธานาธิบดีชั่วคราวของโบลิเวียเมื่อวันอังคาร เพื่อยุติภาวะสุญญากาศผู้นำภายหลังเอโบ โมราเลส ลาออกจากตำแหน่งเมื่อวันอาทิตย์แล้วเผ่นไปลี้ภัยการเมืองที่เม็กซิโกเมื่อวันจันทร์ ด้านโมราเลสประณามเป็น "รัฐประหารอีแอบ" สหรัฐออกคำเตือนด้านการเดินทาง

จีไนน์ อาเยซ ประธานาธิบดีชั่วคราวของโบลิเวีย โบกมือทักทายผู้สนับสนุนจากระเบียงของทำเนียบประธานาธิบดี ในกรุงลาปาซ เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2562 / AFP

    รายงานเอเอฟพีเมื่อวันพุธที่ 13 พฤศจิกายน 2562 กล่าวว่า สมาชิกรัฐสภาของโบลิเวียถูกเรียกให้เข้าประชุมเมื่อวันอังคารเพื่อรับรองการลาออกของโมราเลสอย่างเป็นทางการ และยืนยันการแต่งตั้ง ส.ว.จีไนน์ อาเยซ เป็นประธานาธิบดีชั่วคราว แต่สมาชิกมาไม่ครบองค์ประชุม โดยเฉพาะฝ่ายหนุนโมราเลส ที่ไม่ยอมเข้าร่วม ทำให้อาเยซตัดสินใจประกาศแต่งตั้งตนเองดำรงตำแหน่งนี้ และต่อมาศาลรัฐธรรมนูญก็ให้การรับรอง

    "เราจะต้องการเลือกตั้งใหม่โดยเร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้" อาเนซกล่าวต่อที่ประชุมรัฐสภา ซึ่งมีแต่ผู้แทนที่คัดค้านโมราเลส โดยเธอรับปากด้วยว่าจะตั้งรัฐบาลชุดใหม่ภายในวันที่ 22 มกราคม

    อาเยซเป็นตัวเลือกอันดับแรกที่จะรับตำแหน่งนี้ ภายหลังรองประธานาธิบดีอัลบาโร การ์เซีย ลีเนรา, ประธานวุฒิสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่รัฐธรรมนูญกำหนดให้รักษาการตำแหน่งประธานาธิบดี พร้อมใจกันลาออกตามโมราเลส

    ด้านโมราเลส ทวีตภายหลังเดินทางด้วยเครื่องบินของกองทัพเม็กซิโกไปถึงเม็กซิโกเมื่อคืนวันจันทร์ ประณามว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็น "การก่อรัฐประหารต่ำทรามที่สุดและหลบๆ ซ่อนๆ มากที่สุดในประวัติศาสตร์" และเรียกอาเยซว่าเป็น "ส.ว.ฝ่ายขวาที่กระหายรัฐประหาร" เธอประกาศตั้งตนเป็นประธานาธิบดีชั่วคราวท่ามกลางพวกเดียวกันโดยที่สภาไม่ครบองค์ประชุม

    อดีตประธานาธิบดีฝ่ายซ้ายวัย 60 ปี ประกาศด้วยว่าเขาจะต่อสู้ต่อไป แม้ว่าเขาจะไม่ได้อยู่ในประเทศแล้ว และขอบคุณประธานาธิบดีอันเดรส มานูเอล โลเปซ โอบราดอร์ พันธมิตรฝ่ายซ้ายของเขาในเม็กซิโก ที่ "ช่วยชีวิตเขา"

    โบลิเวียตกอยู่ในภาวะวิกฤติจากการประท้วงรุนแรงตลอด 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา นับแต่การเลือกตั้งประธานาธิบดีวันที่ 20 ตุลาคม เกิดการปะทะกันระหว่างฝ่ายสนับสนุนกับฝ่ายต่อต้านโมราเลสและกองกำลังฝ่ายความมั่นคง หลังจากโมราเลสลาออกแล้วสถานการณ์ก็ยังไม่สงบ ผู้สนับสนุนโมราเลสพากันชุมนุมในเมืองหลวง

    ฮวน ลันชีปา อัยการสูงสุด กล่าวเมื่อวันอังคารว่า มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์รุนแรงนับแต่วันเลือกตั้งเพิ่มเป็น 7 คน จากเดิม 3 คน

    เมื่อวันอังคาร กองกำลังฝ่ายความมั่นคง ซึ่งรวมถึงทหารที่ถูกส่งมาเสริมกำลังของตำรวจ ได้ออกรักษาการณ์ในกรุงลาปาซ ขณะที่ผู้สนับสนุนโมราเลสชุมนุมกันที่จัตุรัสซานฟรานซิสโกใกล้รัฐสภา เจ้าหน้าที่ยิงแก๊สน้ำตาขับไล่ผู้ประท้วงที่ปะทะกันบนท้องถนนในเมืองหลวงทันทีที่การประชุมสภายุติลง

    คาร์ลอส เมซา ผู้ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสายกลาง ที่พ่ายแพ้เลือกตั้งอย่างน่ากังขา ทวีตแสดงความยินดีกับอาเยซ ส่วนลูอิซ เฟร์นันเดซ คามาโช ผู้ทรงอิทธิพลในฝ่ายค้านที่เป็นผู้นำในระดับภูมิภาคที่จังหวัดซานตาครูซ ประกาศยุติการนัดหยุดงานประท้วงและปิดถนนยาวนาน 3 สัปดาห์แล้ว

    เดิมเมื่อวันอาทิตย์โมราเลสยอมให้มีการเลือกตั้งใหม่หลังจากองค์การรัฐอเมริกา (โอเอเอส) ระบุว่าการเลือกตั้งครั้งนี้มีสิ่งผิดปกติในหลายด้าน แต่ต่อมาผู้บัญชาการเหล่าทัพและตำรวจประกาศเลิกสนับสนุนเขาและขอให้เขาลาออก เจ้าหน้าที่ในรัฐบาลและรัฐมนตรีรวมหลายสิบคนพากันลาออกตามและแห่ขอลี้ภัยในสถานทูตหลายแห่ง

    อีกด้าน รัฐบาลสหรัฐออกคำเตือนพลเมืองอเมริกันให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปโบลิเวีย, สั่งให้ครอบครัวของนักการทูตเดินทางออกจากโบลิเวีย และอนุญาตให้ลูกจ้างที่ไม่มีภารกิจฉุกเฉินเดินทางออกมาได้.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"