พวกหมออยากตายแบบไหน?


เพิ่มเพื่อน    

 

      งานวิจัยเกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยงของโรคเรื้อรังต่างๆ ที่ยาวนานที่สุดในโลก โดยกลุ่มผู้เข้าร่วมงานวิจัย คือบรรดาแพทย์ที่จบจาก Johns Hopkins University ตั้งแต่ปี 1946-1964 จำนวน 1,337 คน

      โดยคำถามที่ส่งไปให้แพทย์เหล่านี้จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ทุกปี ช่วงแรกๆ จะเป็นคำถามเกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยงต่อโรคเรื้อรังต่างๆ แต่พอผ่านไปได้ 50 ปี คุณหมอเหล่านี้ก็อายุปาเข้าไป 70-80 กันแล้ว รูปแบบคำถามก็เปลี่ยนไป ครั้งนี้ถามว่า

        ในฐานะแพทย์ ได้วางแผนอย่างไรเมื่อถึงวาระสุดท้ายของตัวเอง

      โดยให้สถานการณ์สมมติว่า… ถ้าเกิดเจ็บป่วย…ด้วยโรคเรื้อรังที่รักษาไม่หาย …และสมองเสียหาย …จนจำคนรู้จักไม่ได้ …สื่อสารกับคนอื่นไม่รู้เรื่อง (ตัวอย่างเช่น ภาวะ Alzheimer รุนแรง หรือสมองเสื่อมมากๆ) แต่ไม่ตาย ถ้าประคับประคองไปเรื่อยๆ ก็สามารถมีชีวิตอยู่ได้อีกนาน

      ปรากฏว่า คำตอบที่น่าสนใจมาก

      กล่าวโดยสรุปคือ ...

      ไม่ต้องการ CPR 90% (ไม่ต้องการให้ปั๊มหัวใจ 90%)

      ไม่ต้องการเครื่องช่วยหายใจ 80% 

      ไม่ต้องการสายให้อาหาร 80%

      ไม่ต้องการการฟอกไต 80%

      ไม่ต้องการการผ่าตัด 80%

      ไม่ต้องการ invasive test 80% 

      ไม่ต้องการเลือด 80%

      ไม่ต้องการสารน้ำ 60%

      ไม่ต้องการยาปฏิชีวนะ 60%

      สรุปคือ ส่วนใหญ่ไม่ขออะไรเลย มีแค่เพียงสิ่งเดียวที่หมอเหล่านี้ต้องการ คือ...ยาแก้ปวด เพื่อจากไปอย่างสงบถึง 80%

        อ่านเรื่องราวนี้แล้ว...รู้สึกอย่างไรคะ???

      คิดตามกันบ้างหรือยังว่า เราควรจะเขียนพินัยกรรมชีวิต เผื่อเหลือเผื่อขาดไว้ให้ลูกหลานได้รับทราบรับรู้ความต้องการของตัวเองบ้าง..ดีกว่า เพราะชีวิตมันไม่มีอะไรแน่นอน อย่างกรณี "ดร.เดือนเด่น" ก็เป็นหนึ่งตัวอย่างของโศกนาฏกรรมชีวิต ตอกย้ำว่า คนเราไม่มีอะไรที่คาดคิดว่าจะเกิดหรือไม่เกิด

        มองให้เป็นธรรมะ มันก็ทำให้เราตื่นรู้และใช้ชีวิตไม่อยู่ในความประมาทได้ แต่ถ้าพิจารณาในชีวิตทางโลกแล้ว ตอนนี้บ้านเรานั้นก็มีกลุ่ม "ตื่นรู้ ก่อนตาย" ที่ให้ข้อมูลและกระตุ้นเตือนให้ทุกคนฝึกตาย ก่อนตายจริงไว้ก่อน และรู้จักการฝึกตายอย่างสงบ มีเกียรติ ไม่ต้องมีสายระโยงระยาง อันเป็นการตายตามธรรมชาติ

      อยากจะบอกว่ากลุ่มในลักษณะนี้ มีคุณหมอนั่นแหละเป็นหัวหอกสำคัญ ทำงานร่วมกับนักกฎหมาย เพราะเมื่อถึงวาระสุดท้ายของชีวิต เราทุกคนควรมีสิทธิ์เลือกว่าจะตายอย่างไร.

                                                       

        "ป้าเอง"


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"