13พ.ย.62-นายอำนาจ วิชยานุวัติ รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (รองปลัด ศธ.) รักษาราชการเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาฯ กพฐ.) กล่าวถึงกรณีที่นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) มีนโยบายให้ยกระดับการเรียนการสอนภาษาอังกฤษให้แก่นักเรียนทุกคน และต้องการให้มีการขับเคลื่อนโรงเรียน 2 ภาษาในกลุ่มโรงเรียนประจำอำเภอและโรงเรียนคุณภาพประจำตำบล ประมาณ 2,000 แห่ง ว่า เรื่องนี้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) พร้อมขับเคลื่อนตามนโยบายดังกล่าวอย่างเต็มที่ โดยจะมีการเปิดห้องเรียน Mini English Program (MEP) ในกลุ่มโรงเรียนประจำอำเภอและโรงเรียนคุณภาพประจำตำบล ตามที่ รมว.ศธ. ต้องการให้มีโรงเรียนสอนภาษาเกิดขึ้น เพื่อทำให้เด็กได้เรียนรู้ทักษะภาษาอังกฤษได้มากขึ้นในกลุ่มโรงเรียนเหล่านี้ แต่การดำเนินการในเรื่องนี้ยังมีข้อจำกัดของหลักเกณฑ์การเปิดห้องเรียน MEP เช่นโรงเรียนจะต้องมีคะแนนทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (โอเน็ต) สูงขึ้นอย่างน้อย 3 ปี ซึ่งประเด็นนี้ ตนมองว่าเป็นอุปสรรค เนื่องจากโรงเรียนเหล่านี้ยังไม่ได้เริ่มจัดการเรียนการสอน ดังนั้นจะนำมาผลคะแนนโอเน็ตจากตรงไหนมาทำ โดยจากนี้ สพฐ.จะปลดล็อคแก้หลักเกณฑ์ดังกล่าวนี้ และจะส่งหลักเกณฑ์การปรับปรุงแก้ไขแล้วไปยังคณะกรรมการรับนักเรียนระดับจังหวัดพิจารณาในการเปิดห้องเรียน MEP เพื่อให้การขับเคลื่อนห้องเรียน MEP ทำได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป

"นอกจากนี้ สพฐ.จะฟื้นศูนย์พัฒนาการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ (ERIC) ประจำจังหวัด โดยจะส่งเสริมและสนับสนุนให้ศูนย์ ERIC นี้ ให้เป็นศูนย์พัฒนาหลักสูตรด้านการจัดกระบวนการเรียนรู้เกี่ยวกับภาษาอังกฤษ พร้อมกับการพัฒนาครูและนักเรียน โดยศูนย์นี้จะมีการทดสอบระดับความรู้ภาษาอังกฤษของครูและนักเรียนด้วยว่าอยู่ในระดับไหนหรือขาดทักษะภาษาในด้านไหน เพื่อจะได้เติมเต็มความรู้ภาษาอังกฤษได้อย่างตรงจุด รวมถึงจะมีการประเมินภาษาอังกฤษโดยตามกรอบอ้างอิงร่วมสหภาพยุโรป (Common European Framework Reference on Language : CEFR) ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลที่ใช้อธิบายระดับความเชี่ยวชาญทางภาษา ทั้งนี้ไม่ต้องกังวลว่าเมื่อมีการรับนักเรียนจะมีการแย่งเด็กเข้าเรียนเกิดขึ้น เพราะเป็นคนละกลุ่มเป้าหมาย อีกทั้งการดำเนินการเรื่องนี้จะเป็นการกระจายโอกาสทางการศึกษาและสร้างความเสมภาคทางการศึกษาให้เกิดขึ้น"เลขาฯ กพฐ.กล่าว