"ในหลวง" โปรดเกล้าฯ พระราชทานเพลิงศพเหยื่อไฟใต้ 9 ราย ที่วัดลำพะยา ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจของ ปชช. ประธานสมาพันธ์ไทยพุทธชายแดนใต้หวั่นเป็นปัญหาใหญ่ ไม่ใช่โจรธรรมดา หลัง BRN เปิดตัว จี้รัฐมีมาตรการบังคับใช้กฎหมาย "บิ๊กป้อม" ปัดไม่รู้แถลงการณ์ BRN ของจริงหรือไม่ ลั่นต้องดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม "ชวน" ห่วงสถานการณ์จ่อลงพื้นที่เร็วๆ นี้ สั่ง ส.ส.ปชป.ศึกษาปัญหาจากอดีตเพื่อช่วยยับยั้งไฟใต้
เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเพลิงศพเจ้าหน้าที่ของรัฐและราษฎรที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์คนร้ายยิงถล่มป้อมจุดตรวจ ชรบ.ทางลุ่ม หมู่ที่ 5 ต.ลำพะยา อ.เมืองฯ จ.ยะลา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 15 ราย โดยในเวลา 15.00 น. ที่วัดสิริปุณณาราม (วัดลำพะยา) ต.ลำพะยา อ.เมืองฯ จ.ยะลา นายชัยสิทธิ์ พานิชพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ได้เป็นประธานในพิธีพระราชทานเพลิงศพผู้วายชนม์ทั้ง 9 ราย
ในการนี้ ได้มีการอ่านหมายรับสั่ง สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และประวัติผู้วายชนม์ทั้ง 9 ราย จากนั้นประธานนำดอกไม้จันทน์จุดไฟจากเทียนชนวนในตะเกียง แล้ววางไว้บนพานรองหน้าหีบศพผู้วายชนม์ ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจของประชาชนที่มาร่วมหลายพันคน ซึ่งทางวัดได้เปิดให้ประชาชนที่มาร่วมไว้อาลัยครั้งสุดท้าย ได้วางดอกไม้จันทน์หน้าหีบศพผู้วายชนม์จนเสร็จสิ้น
นายพงษ์พันธ์ จันทร์เล็ก ประธานสมาพันธ์ไทยพุทธจังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้สัมภาษณ์ว่า เหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้พี่น้องชาวไทยพุทธในพื้นที่มีความตื่นตัวว่าเป็นภัยใกล้ตัว เมื่อก่อนไม่รุนแรงเท่านี้ แต่เหตุการณ์นี้ถือว่ารุนแรง ตนเองในฐานะประธานสมาพันธ์ไทยพุทธจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ยื่นหนังสือให้กับรัฐมนตรีประจำสำนักนายก เมื่อวันที่ 7 พ.ย.ที่ผ่านมา ว่าให้มาดูแลพี่น้องชาวไทยพุทธ และให้มีมาตรการ โดยเสนอให้กำหนดนโยบายให้กำนันผู้ใหญ่บ้านให้ร่วมรับผิดชอบมากกว่านี้ เน้นกำนันผู้ใหญ่บ้าน ไม่ว่าจะเป็นไทยพุทธหรือไทยมุสลิม รวมทั้งให้คอเต็บ บิหลั่น และผู้นำศาสนา เข้ามามีส่วนร่วมในการรับผิดชอบด้วย เพราะอยู่ในชุมชน จะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร ก็ได้เสนอไปยังท่านนายกรัฐมนตรีผ่านรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ก็จะขอรอดู 1 สัปดาห์ว่าผลจะออกมาอย่างไร ทางสมาพันธ์ไทยพุทธจังหวัดชายแดนภาคใต้ก็จะออกมาเคลื่อนไหวอีกครั้งหนึ่ง
“สิ่งที่เป็นห่วงที่สุดคือจุดอ่อนของพี่น้องชาวไทยพุทธ เกรงว่ากลุ่มคนร้ายจะไปปฏิบัติการกับคนไทยพุทธที่เป็นจุดอ่อนที่อยู่ห่างไกล ที่ไม่มีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปคุ้มครอง แต่เรื่องนี้ได้แจ้งไปยังเจ้าหน้าที่แล้ว และท่านแม่ทัพภาคที่ 4 ก็สั่งการให้กระจายกำลังแล้ว ส่วนความคิดที่จะให้ทหารเข้ามาตั้งฐานปฏิบัติการในชุมชนชาวไทยพุทธทุกพื้นที่นั้น ก็ทราบว่าได้มีการดำเนินการแล้ว อย่างเช่นพื้นที่ลำพะยา ก็มีการเข้ามาตั้งหลายจุดแล้ว คิดว่าเจ้าหน้าที่รัฐคงจะดูแลกันได้ แต่อยากให้รัฐมีมาตรการในการบังคับใช้กฎหมาย เพราะตอนนี้บีอาร์เอ็นเปิดตัวแล้วว่า 15 ศพเป็นผลงานของบีอาร์เอ็น ซึ่งถือว่าเป็นปัญหาใหญ่แล้ว ไม่ใช่โจรธรรมดา” นายพงษ์พันธ์กล่าว
ประธานสมาพันธ์ไทยพุทธจังหวัดชายแดนภาคใต้กล่าวอีกว่า สำหรับเหตุการณ์ในครั้งนี้ จะเห็นว่าเขาดำเนินการกับชุมชนพุทธเข้มแข็ง เพราะตำบลลำพะยาถือว่าเป็นชุมชนเข้มแข็งที่เราไม่ได้เฝ้าระวัง ส่วนพื้นที่ที่ยังเป็นห่วงในขณะนี้คือพื้นที่ ต.ตาชี อ.ยะหา จ.ยะลา ซึ่งได้มีการประสานเจ้าหน้าที่ให้เข้าไปดูแลแล้ว
ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการจับกุมคนร้ายก่อเหตุบุกยิง ชรบ. เสียชีวิต 15 ราย ว่าอยู่ระหว่างการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ ขณะนี้ยังเป็นเพียงผู้ต้องสงสัย และยืนยันว่าจะต้องได้ความคืบหน้าอย่างแน่นอน
สวนกรณีกลุ่มบีอาร์เอ็นออกแถลงการณ์ยอมรับแนวร่วมในพื้นที่เป็นผู้กราดยิง ชรบ.พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ก็ว่าไป ดำเนินการไปตามกระบวนการยุติธรรม เราได้เบาะแส 2 คนแล้ว กำลังสอบสวนอยู่ จะเป็นของใครพวกใครก็ว่ากันไป
เมื่อถามว่า จากแถลงการณ์ดังกล่าวแสดงว่าผู้ก่อเหตุเป็นแนวร่วมบีอาร์เอ็นจริงหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่รู้ ต้องเข้ากระบวนการยุติธรรมก่อน ใครมารับก็จะไปบอกได้อย่างไร ส่วนการออกแถลงการณ์เช่นนี้จะกระทบขวัญกำลังใจในพื้นที่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่กระทบ เพราะยังไม่รู้ว่าเป็นของใคร จะกระทบอย่างไร
พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้าเหตุการณ์กราดยิงฐาน ชรบ. 15 ศพว่า เจ้าหน้าที่ต้องเร่งรัดการสืบสวนสอบสวนอยู่แล้ว ส่วนสถานการณ์ในพื้นที่ยังอยู่ในช่วงเฝ้าระวังหรือไม่นั้น น่าจะเรียบร้อยดี กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ภาค 4 ส่วนหน้า ดูแลอยู่ และนายกฯ ก็ไม่ได้กำชับอะไรเพิ่มเติมในเรื่องนี้
ที่รัฐสภา นายแทนคุณ จิตต์อิสระ คณะทำงานนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า จากเหตุการณ์คนร้ายยิงชรบ.ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 15 รายนั้น นายชวนห่วงใยสถานการณ์ที่เกิดขึ้น จึงได้สั่งให้คณะทำงานลงพื้นที่ภาคใต้ เพื่อติดตามและให้กำลังใจกับครอบครัวผู้สูญเสีย และนายชวนเตรียมลงพื้นที่เร็วๆ นี้ พร้อมประณามการก่อเหตุขอแสดงความไว้อาลัยกับครอบครัวผู้สูญเสียที่ได้เสียสละเพื่อบ้านเมือง และขอให้กำลังใจญาติผู้สูญเสียด้วย นอกจากนี้ นายชวนยังกำชับคณะทำงานให้ติดตามข่าวสารใกล้ชิด และให้ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ในพื้นที่ร่วมระดมสมอง ระดมความคิดช่วยแก้ปัญหานี้ โดยนายชวนได้ให้นโยบายว่าต้องศึกษาจากปัญหาในอดีตที่ผ่านมา รวมถึงนโยบาย และข้อเรียกร้องต่างๆ เพื่อช่วยกันยับยั้งสถานการณ์ที่อาจก่อให้เกิดความสูญเสียแก่ประชาชน
"นายชวนขอฝากไปยังพี่น้องในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่าฝ่ายนิติบัญญัติไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยจะพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อแก้ปัญหานี้โดยระดมผู้เชี่ยวชาญ ผู้มีประสบการณ์และออกกฎหมาย รวมทั้งกำกับและบังคับใช้กฎหมายให้เกิดความยุติธรรม" นายแทนคุณกล่าว.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |