กกพ. มอบของขวัญปีใหม่ เคาะตรึงค่าเอฟที คงเดิมที่ -11.60 สตางค์


เพิ่มเพื่อน    

12 พ.ย.2562 น.ส.นฤภัทร อมรโฆษิต เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ในฐานะโฆษก กกพ. เปิดเผยว่า   คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) มีมติให้คงอัตราค่าไฟฟ้าผันแปร (ค่าเอฟที) สำหรับการเรียกเก็บจากประประชาชนงวดเดือนม.ค. - เม.ย. 2563 จำนวน -11.60 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยอยู่ที่ 3.64 บาทต่อหน่วย​ (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) คาดว่าจะใช้เงินประมาณ 6,869 ล้านบาท ในการบริหารจัดการเพื่อรักษาค่าเอฟทีให้อยู่ในระดับเดิม

"แนวโน้มปัจจัยหลายตัวที่ส่งผลกระทบต่อค่าเอฟทีปรับตัวดีขึ้นกว่างวดก่อน อาทิ ราคาก๊าซที่มีแนวโน้มลดลง อัตราแลกเปลี่ยนที่แข็งค่าขึ้น ถึงแม้จะยังไม่ทำให้ค่าเอฟทีปรับลดลงได้ในทันที แต่ก็ทำให้ กกพ.สามารถบริหารจัดการค่าเอฟทีได้ดีขึ้น เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพของประชาชน รวมถึงหนุนภาวะเศรษฐกิจโดยรวมให้ปรับตัวดีขึ้น และเพื่อดูแลค่าครองชีพประชาชน กกพ.จึงมีมติคงค่าเอฟทีอีกงวดหนึ่งส่งผลให้มีการตรึงค่าเอฟทีในระดับดังกล่าวตั้งแต่ต้นปี2562 รวม 4 งวดหรือตลอด 16 เดือน"น.ส.นฤภัทรกล่าว

ทั้งนี้การบริหารจัดการค่าเอฟทีงวดนี้ได้นำเงินมาจากค่าปรับกรณีโรงไฟฟ้าไม่สามารถปฏิบัติได้ตามสัญญาและกรณีขาดส่งก๊าซธรรมชาติ​ จำนวน​ 264.97 ล้านบาท​ และส่วนที่เหลืออีก​6,604 ล้านบาท​ มาจากการกำกับฐานะการเงินให้เป็นไปตามเกณฑ์ที่​ กกพ.กำหนด​ ซึ่งเป็นผลมาจากการประมาณการค่าเชื้อเพลิงในงวดปัจจุบัน(ก.ย.-ธ.ค.2562)​เทียบกับราคาเชื้อเพลิง​ณ​ ปัจจุบัน​ ยังต่ำกว่าที่ประมาณการที่ตั้งไว้​ และทำให้ยังมีเงินคงเหลือในการบริหารจัดการค่าเอฟที

สำหรับปัจจัยที่ส่งผลดีต่อค่าเอฟทีให้ปรับตัวดีขึ้นจากงวดก่อนได้แก่ อัตราแลกเปลี่ยนเดือนก.ย.อยู่ที่ 30.60 บาทต่อเหรียญสหรัฐหรือแข็งค่าขึ้นกว่าช่วงที่ประมาณการในงวดเดือนก.ย. - ธ.ค. 2562 ซึ่งใช้อัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ยเดือน​ พฤษภาคม​ 2562​ ที่​31.80 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ราคาเชื้อเพลิงการผลิตไฟคาดว่าในงวดถัดไปจะอยู่ที่ 266.69 บาทต่อล้านบีทียูปรับตัวลดลงจากงวดที่ผ่านมา 23.70 บาทต่อล้านบีทียู ราคาถ่านหินนำเข้าเฉลี่ยโรงไฟฟ้าเอกชนลดลงจากงวดที่ผ่านมา 267.71 บาทต่อตัน  ขณะที่ความต้องการพลังงานไฟฟ้าช่วงม.ค.-เม.ย.63เท่ากับ 65,724 ล้านหน่วยปรับเพิ่มขึ้นจากก.ย.-ธ.ค.62   เท่ากับ 64,195 ล้านหน่วย​หรือเพิ่มขึ้น​2.38 %ตามสภาพความต้องการไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากเข้าสู่ฤดูร้อน

"งวดพ.ค.-ส.ค.63 นั้นในส่วนของเชื้อเพลิงมีทิศทางที่น่าจะลดลงจากระดับราคาน้ำมันที่จะสะท้อนมายังราคาก๊าซฯแต่ก็ต้องติดตามหลายปัจจัย ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อค่าเอฟทีให้ปรับขึ้นหรือลงได้ตลอดเวลา"น.ส.นฤภัทรกล่าว

ส่วนความคืบหน้าโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์สำหรับประชาชน (โซลาร์ภาคประชาชน) ที่ให้ครัวเรือนผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์บนหลังคาเน้นใช้เองก่อนที่เหลือสามารถเสนอขายไฟเข้าระบได้ ราคา 1.68 บาทต่อหน่วยเป็นระยะเวลา 10 ปีนำร่อง 100 เมกะวัตต์นั้นขณะนี้มีผู้ยื่น 900 กว่ารายคิดเป็นจำนวน 4.85 เมกะวัตต์ อย่างไรก็ตามจะมีการปรับเปลี่ยนเงื่อนไขการรับซื้อหรือไม่นั้นคงจะต้องรอนโยบายจากภาครัฐเป็นสำคัญ


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"