กำนันไข่เปิดปากสารภาพฆ่า 3 ศพแม่-ลูก-หลาน เหตุเพราะแค้นคบกับผู้ตายเหมือนญาติ อ้างรู้จักสาวไทยผัวตายในต่างประเทศ ขอยืมเงินก้อนใหญ่ไปเป็นค่าวิ่งเต้นขายที่มูลค่า 50 ล้าน หลงเชื่อให้ยืมกว่า 10 ล้าน พอทวงกลับเบี้ยว แถมด่าเจ็บ "อยากโง่เอง" ถึงหน้ามืดชักปืนไล่ยิงทุกคนที่ขวางหน้าไม่ว่าผู้ใหญ่หรือเด็ก
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 10 พฤศจิกายนนี้ พล.ต.ต.วิมล พิทักษ์บูรพา ผบก.ภ.จ.ชุมพร เดินทางไปยัง สภ.เมืองชุมพร นำตัวกำนันไข่ หรือนายสุนันท์ รามดร อดีตกำนันตำบลขุนกระทิง อ.เมือง จ.ชุมพร ออกมาจากห้องควบคุมผู้ต้องหาเพื่อสอบปากคำเพิ่มเติมร่วมกับ พ.ต.ท.วิชัย แสงวิเชียร รอง ผกก. (สอบสวน) สภ.เมืองชุมพร ในคดีที่กำนันไข่บุกยิงแม่-ลูกและหลานเสียชีวิต 3 ศพ
เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเช้าวันเสาร์ที่ผ่านมา กำนันไข่ หรือนายสุนันท์ รามดร อายุ 65 ปี อดีตกำนันตำบลขุนกระทิง บุกทวงหนี้กว่า 10 ล้านบาท ที่บ้านเลขที่ 9/2 หมู่ 7 ต.ขุนกระทิง อ.เมือง จ.ชุมพร แล้วเกิดมีปากเสียงกันอย่างรุนแรงกับนางจินดา ทองพรหม อายุ 61 ปี ลูกหนี้ แล้วใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. จ่อยิงนางจินดา เจ้าของบ้าน และนางพรทิพย์ ทองพรหม อายุ 38 ปี ลูกสาว จนตายคาที่บริเวณโต๊ะรับแขกหน้าบ้าน จากนั้นบุกเข้าไปในบ้านจ่อยิงเด็กหญิงนัยปพร ภูวิชิต อายุ 13 ปี นักเรียนชั้น ม.1 ลูกสาวของนางพรทิพย์ ขณะนั่งกินข้าวอยู่ในครัวเพื่อเตรียมจะไปเรียนพิเศษที่โรงเรียนในตัวเมืองชุมพร ตายคาจานข้าว ส่วนพี่สาวอายุ 15 ปี และน้องชายอายุ 12 ปี ซึ่งนั่งกินข้าวอยู่ด้วยกันวิ่งหลบหนีออกประตูหลังบ้านได้ทัน ขณะที่กำนันไข่ยิงไล่หลัง แต่ไม่ถูก ทำให้รอดตายอย่างหวุดหวิด
กำนันไข่ให้การว่า ตนกับนางจินดาเป็นเพื่อนบ้านที่สนิทกันเหมือนญาติ ช่วงแรกๆ เคยมาหยิบยืมเงินครั้งละแสนสองแสนไปลงทุนทำสวนทุเรียน ตนก็ให้ไปไม่มีปัญหาอะไร จนกระทั่งเมื่อปี 2557 นางจินดาและนางสาวพรทิพย์สองแม่ลูกได้มาอ้างชื่อบุคคลที่ 3 ชื่อว่า “นางกนกวรรณ” หรือนก ได้สามีอยู่ประเทศสหรัฐอเมริกา และสามีชาวต่างชาติได้เสียชีวิตลง จึงต้องการจะขายมรดกที่ดินมีมูลค่ากว่า 50 ล้านบาท เพื่อนำเงินกลับมาทำธุรกิจในประเทศไทย แต่เงินค่าใช้จ่ายในการดำเนินการขายที่ดินไม่พอ จึงขอยืมตนเพื่อนำไปให้นางกนกวรรณก่อน โดยมีการโทรศัพท์โอนสายให้ตนพูดคุยกับนางกนกวรรณด้วย ตนก็เห็นว่าเขาจะขายที่ดินนำเงินกลับมาทำธุรกิจที่ประเทศไทย โดยครั้งแรกตนให้ยืม 2 แสนบาท จ่ายเงินสดผ่านทางนางจินดาโดยไม่ได้ทำสัญญาเงินกู้ยืมแต่อย่างใด เพราะเชื่อใจกัน จนกระทั่งครั้งต่อๆ มาทั้งสองแม่ลูกก็มาอ้างปัญหาต่างๆ นานา และยังให้นางกนกวรรณโทร.มาพูดคุยขอยืมเงินอีกหลายครั้ง อ้างว่ายังขายที่ไม่ได้
กำนันไข่กล่าวว่า ตนมีอาชีพทำสวนทุเรียนกว่า 30 ไร่ ขายผลผลิตได้ปีละ 3-4 ล้านบาท ตลอดเวลา 5 ปี ทั้งสองแม่ลูกใช้วิธีพูดจาว่านล้อมตน อีกทั้งยังให้หญิงที่ชื่อนางกนกวรรณโทร.มาอ้อนวอนขอยืมเงินอีกหลายครั้ง ซึ่งตนเป็นคนขี้สงสาร ก็ให้ยืมครั้งละ 1 แสนบ้าง 2 แสนบ้าง เมื่อนับรวมแล้วประมาณ 13 ล้านบาท โดยหวังว่าเขาจะขายที่ดินในต่างประเทศได้ เงินที่ยืมไปก็จะได้กลับคืนมาด้วย ระยะหลังตนมีปัญหาหนี้สินที่ไปกู้ยืมเพื่อนๆ มา และได้เอาโฉนดไปค้ำเงินกู้ไว้กับธนาคารแห่งหนึ่งกว่า 3 ล้านบาท กระทั่งระยะหลังตนเริ่มสงสัยและรู้สึกแปลกใจว่าทุกครั้งที่ตนขายทุเรียนได้ครั้งละ 3-4 ล้านบาท ทำไมคนชื่อนางกนกวรรณซึ่งอยู่ต่างประเทศจึงรู้ และโทร.มาอ้อนวอนขอยืมเงินตนตลอด ทั้งๆ ที่ตนไม่เคยเห็นหน้าและรู้จักมาก่อน และตนก็ใจอ่อนให้ยืม โดยนำเงินสดไปมอบให้กับนางจินดาเพื่อโอนไปให้ทุกครั้ง จึงมาคิดว่าคงถูกหลอก
จนกระทั่ง 2 วัน ก่อนเกิดเหตุ นางจินดาบอกว่านางกนกวรรณจะโอนเงินทั้งหมดประมาณ 10 ล้านบาทมาให้นางจินดาเพื่อคืนให้กับตน แต่ก็ไม่มีการโอนมาให้แต่อย่างใด ต่อมาวันเกิดเหตุตนบุกไปทวงถึงบ้านแล้วเกิดมีปากเสียงกัน แถมยังถูกด่าว่า “อยากโง่เอง ไปให้เขายืมทำไม และถ้าอยากได้ก็ไปฟ้องเอา” ตนโมโหสุดขีดจึงชักปืนยิงไม่ยั้ง โดยไม่ได้คิดว่าจะเป็นผู้ใหญ่หรือเด็ก เพราะความรู้สึกตอนนั้นอะไรขวางหน้ายิงหมด หลังเกิดเหตุได้สติจึงตัดสินใจเข้ามอบตัวที่ สภ.เมืองชุมพร
พล.ต.ต.วิมล พิทักษ์บูรพา ผบก.ภ.จ.ชุมพร กล่าวว่า มูลเหตุจูงใจในการก่อเหตุยิงกันตายในครั้งนี้มาจากมูลหนี้ประมาณ 10 ล้านบาท ส่วนพฤติกรรมตามที่ผู้ต้องหาอ้างในลักษณะดังกล่าวจะมีการกู้ยืมเงินกันจริงหรือไม่ หรืออาจจะเป็นการหลอกลวงฉ้อโกงกันอย่างไรก็ถือว่าเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ก็อยู่ที่ญาติของผู้ต้องหาจะไปดำเนินการเอง อย่างไรตาม ต้องรอสอบปากคำทางพยานและญาติของฝ่ายผู้ตายด้วย ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างโศกเศร้าและทำพิธีศพ แต่กรณีที่ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงผู้อื่นตายถือว่าพฤติกรรมโหดเหี้ยม เป็นความผิดทางอาญา ขณะนี้ได้แจ้งข้อกล่าวหากำนันไข่ ฐานฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา, พยายามฆ่าผู้อื่น, พกอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนไปในเมือง หมู่บ้าน โดยไม่ได้รับอนุญาตและมีเหตุอันควร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |