เกิดเหตุซ้ำซาก วัยรุ่น 2 กลุ่มดื่มกินเมามายมีเรื่องตะลุมบอนกันในร้านอาหาร ส่งคนเจ็บไปรักษาตัวที่ รพ. พรรคพวกยังตามไปอาละวาดเกิดศึกยก 2 ในห้องฉุกเฉินต่อหน้าตำรวจ ผบ.ตร.สั่งดำเนินคดีเฉียบขาด ผู้ว่าฯ สั่ง ผอ.รพ.เข้าแจ้งความเอาผิดกลุ่มผู้ก่อเหตุแล้ว เล็งฟันร้านเหล้าด้วย
    เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 10 พฤศจิกายนนี้ พ.ต.ท.รุ่งเกียรติ นาทัย สารวัตรสอบสวน สภ เมืองอ่างทอง รับแจ้งเหตุกลุ่มวัยรุ่นยกพวกตีกันมีผู้ได้รับบาดเจ็บ บริเวณร้านอาหารชื่อดังแห่งหนึ่ง ริมถนนสายอ่างทอง-อยุธยา ต.บางแก้ว อ.เมือง จ.อ่างทอง ซึ่งผู้บาดเจ็บทั้งสองฝ่ายถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอ่างทอง จึงนำกำลังเดินทางไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ แต่ระหว่างนั้นได้รับแจ้งจากทางโรงพยาบาลอ่างทอง ขอกำลังตำรวจไประงับเหตุวัยรุ่น 2 กลุ่มก่อเหตุทะเลาะวิวาทภายในห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล
    เมื่อตำรวจเดินทางไปถึง รพ.อ่างทอง พบวัยรุ่น 2 กลุ่ม ฝ่ายละกว่า 10 คน ยังก่อเหตุชุลมุนในห้องฉุกเฉิน และเมื่อเห็นตำรวจก็มิได้เกิดความยำเกรง เนื่องจากตำรวจที่เดินทางไปมีไม่กี่นาย จึงต่างตะโกนด่าทอใส่กัน ถึงขั้นก่อเหตุวิวาทอีกครั้งจนเกิดความชุลมุน ตำรวจต้องวิทยุขอกำลังเสริม ใช้เวลากว่า 30 นาทีจึงควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ โดยกลุ่มวัยรุ่นแยกย้ายพาผู้ได้รับบาดเจ็บไปรักษาตัวอีกโรงพยาบาล
    ขณะที่นายสุรเชษฐ์ พุนธนาคม อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36 หมู่ที่ 4 ต.ศาลาแดง อ.เมือง จ.อ่างทอง พนักงานโรงงานคู่กรณี หลังทำแผลเสร็จเรียบร้อยแล้วได้เดินทางพาร่างกายที่บอบช้ำ ที่ศีรษะมีบาดแผลฉีกขาดจากการถูกตีหลายแผล ต้องเย็บ 13 เข็ม เดินทางเข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.เมืองอ่างทอง โดยให้การว่า  ก่อนเกิดเหตุตนเองและครอบครัวรวม 8 คน ไปสังสรรค์กันที่ร้านอาหารดังกล่าว สาเหตุน่าจะมาจากที่หลังจากดื่มกินจนเมาได้ที่แล้ว คนเกิดปวดปัสสาวะ จึงเดินไปเข้าห้องน้ำ ขากลับเดินมาที่โต๊ะเกิดไปเดินสะดุดขากลุ่มวัยรุ่นอีกฝ่าย จนทำให้เกิดความไม่พอใจ มีการชกต่อยกันในร้านจนทั้ง 2 ฝ่ายได้รับบาดเจ็บ และออกมารุมทำร้ายที่บริเวณหน้าร้าน ก่อนที่ทั้ง 2 ฝ่ายจะถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่เพื่อนวัยรุ่นกลุ่มคู่อริได้เดินทางตามมาที่โรงพยาบาล และได้ก่อเรื่องเข้าไปชกต่อยรุมทำร้ายระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังช่วยเหลือ ทั้งที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจเข้ามาระงับเหตุ แต่ยังไม่เกรงกลัวกฎหมาย
    ตำรวจอยู่ระหว่างตรวจสอบหาหลักฐาน รวมทั้งตรวจภาพจากกล้องวงจรปิด ทั้งที่บริเวณร้านอาหารและที่โรงพยาบาล เพื่อหาตัวคนผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
    ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. กล่าวว่า ได้รับรายงานจาก สภ.เมืองอ่างทอง ว่า เมื่อวันที่ 10 พ.ย.62 เวลาประมาณ 01.00 น. ได้รับแจ้งเหตุมีวัยรุ่นยกพวกตีกันจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ เหตุดังกล่าวเกิดบริเวณร้านอาหารชื่อดังแห่งหนึ่ง ริมถนนสายอ่างทอง-อยุธยา ต.บางแก้ว อ.เมือง จ.อ่างทอง โดยกลุ่มคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่าย ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอ่างทองเพื่อทำการรักษาตัว จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องจึงรีบไปตรวจสอบ ระหว่างนั้นได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลอ่างทอง ว่ากลุ่มคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายได้ตามมาก่อเหตุทำร้ายกันและมีปากเสียงบริเวณหน้าห้องฉุกเฉิน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าไประงับเหตุจนสามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ จากนั้นกลุ่มวัยรุ่นทั้ง 2 จึงแยกย้ายกัน ก่อนพาคนเจ็บทั้ง 2 ฝ่ายแยกย้ายไปรักษากันคนละที่
    พ.ต.อ.กฤษณะกล่าวว่า ที่ผ่านมามีการก่อเหตุความรุนแรงในสถานพยาบาลต่างๆ มาแล้วหลายครั้ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้นำตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างถึงที่สุดทุกราย ทั้งนี้ ขอฝากเตือนไปยังพี่น้องประชาชน ว่าการใช้อารมณ์ในการแก้ไขปัญหาอาจนำมาซึ่งความสูญเสียต่อชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สิน และนำไปสู่การละเมิดต่อกฎหมายบ้านเมือง นอกจากจะส่งผลเสียต่อตนเองและผู้อื่นแล้ว อาจถูกดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งทำให้ทั้งเสียเวลาและมีประวัติตามมา
    “การกระทำในลักษณะดังกล่าวนั้นไม่สมควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง เพราะอาจกระทบต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล ที่อยู่ระหว่างการช่วยเหลือรักษาผู้ป่วยรายอื่น หรือทำให้ทรัพย์สิน อุปกรณ์ทางการแพทย์ของโรงพยาบาลได้รับความเสียหายได้ และอาจส่งผลกระทบต่อผู้ป่วย หรือประชาชนรายอื่นที่เข้ามาใช้บริการภายในโรงพยาบาล ดังนั้น การจะทำสิ่งใดขอให้มีสติ และใช้วิจารณญาณก่อนจะลงมือกระทำ เพราะเมื่อกระทำไปแล้วอาจนำมาซึ่งความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้อื่น ซึ่งไม่สามารถย้อนกลับไปแก้ไขได้” รองโฆษก ตร.กล่าว และว่า คดีนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. สั่งการให้พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี สอบสวนดำเนินคดีเอาผิดผู้ก่อเหตุทุกรายอย่างเคร่งครัด
    ต่อมา นายเรวัต ประสงค์ ผวจ.อ่างทอง เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้มีคำสั่งให้ผู้อำนวยการโรงพยาบาลอ่างทองเข้าแจ้งความเอาผิดกับกลุ่มวัยรุ่นแล้ว และเร่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดเอาตัวผู้ก่อเหตุมาลงโทษให้ได้ ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่อุกอาจ ก่อเหตุวิวาทในโรงพยาบาลซึ่งเป็นสถานที่รักษาผู้ป่วย จึงต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาด ส่วนเรื่องร้านเหล้า ได้มีคำสั่งให้ปลัดจังหวัดอ่างทองลงพื้นที่ตรวจสอบ ส่วนทางด้านกฎหมาย จะเข้าปรึกษาอัยการเกี่ยวกับข้อกฎหมายและจะดำเนินคดีอย่างเข้มงวด.