(ลูกหลานนั่งจับกลุ่มให้ผู้สูงอายุเล่าประสบการณ์ชีวิต ช่วยกระชับความผูกพันและกระตุ้นสมองคนวัยเก๋า)
เริ่มเข้าฤดูหนาว อากาศเย็นลง นอกจากดูแลสุขกายโดยทั่วไปของผู้สูงอายุแล้ว การที่คนวัยเก๋าได้หมั่นขยับเขยื้อนร่างกาย หรือหากิจกรรมที่ส่งเสริมสุขภาพร่วมกับลูกหลานนั้น ย่อมเป็นสิ่งที่ดีต่อสุขภาพเช่นเดียวกัน จริงอยู่ที่คนวัยเก๋าย่อมมีงานอดิเรกที่หลากหลาย แต่ถ้ามีลูกหลานคอยกระตุ้นให้ท่านมีกิจกรรมทำ ย่อมสะท้อนให้เห็นว่าสมาชิกในครอบครัวไม่ได้ทอดทิ้งให้ปู่ย่าตายายอยู่บ้านตามลำพัง อีกทั้งยังช่วยกระชับความผูกพันได้เป็นอย่างดี
(ผอ.ชำนาญ หลีล้วน)
ผอ.ชำนาญ หลีล้วน ผู้อำนวยการ รพ.ส่งเสริมสุขภาพตำบลดอนกระเบื้อง จ.ราชบุรี มีคำแนะนำเกี่ยวกับการทำกิจกรรมกับปู่ย่าตายายในช่วงหน้าหนาว ที่ช่วยบรรเทาอากาศหนาวเย็นไว้น่าสนใจว่า “กิจกรรมที่ลูกหลานสามารถทำร่วมกับผู้สูงวัยในช่วงที่บ้านเรากำลังเข้าสู่อากาศหนาว คือ “การออกกำลังกายด้วยกัน” ทั้งนี้เป็นผู้สูงอายุไม่แข็งแรงมากนัก และป้องกันการหกล้มของคนสูงวัย ก็แนะนำให้ยืนแกว่งแขนอยู่กับที่ โดยให้ได้ประมาณ 100, 60 หรือ 50 ครั้ง ตามที่ร่างกายของคนวัยนี้สามารถทำได้ เป็นต้นว่า แกว่งแขนโดยการตวัดจากข้างหน้ามาข้างหลัง และถ้าจะให้ดีนั้นก็สามารถเปิดเพลงที่ชอบคลอไปด้วย ก็จะยิ่งทำให้การออกกำลังกายเพลิดเพลิน เพราะอันที่จริงแล้วประโยชน์ของการแกว่งแขนนั้นจะช่วยลดความดันโลหิตสูงได้ อีกทั้งช่วยโรคเบาหวาน ลดน้ำตาลในเลือด เพราะทำให้ร่างกายเผาผลาญ แต่ถ้าหากผู้สูงอายุท่านนั้นยังแข็งแรง ก็แนะนำให้ลูกหลาน “เดินจ๊อกกิ้งกับปู่ย่าตายาย” ในช่วงเช้าก่อนไปทำงาน หรือเป็นเช้าวันหยุดเสาร์และอาทิตย์ก็ได้เช่นกัน หรือแม้แต่การ “พาผู้สูงวัยเดิมชมวิวหรือทุ่งดอกไม้” ก็จะช่วยเติมความสดชื่นได้ โดยเฉพาะช่วงหน้าหนาวที่บางพื้นที่จะมีอากาศเย็นสดชื่นในช่วงเช้า แต่ควรเลือกสถานที่ชมวิวดังกล่าวให้ห่างไกลจากถนน เพื่อป้องกันรถยนต์เฉี่ยวชน
(พาผู้สูงอายุเดินชมวิวหรือดูดอกไม้ กิจกรรมรับลมเย็นช่วงหน้าหนาวที่ทำให้ผู้ใหญ่รู้สึกสดชื่น)
ครอบครัวไหนที่ชอบทำอาหารประทานร่วมกัน ก็แนะนำให้ “ลูกหลานเข้าครัวปรุงอาหารกับผู้สูงวัย” ก็เป็นสิ่งที่ทำได้ง่ายๆ และเป็นเรื่องที่ใกล้ตัว ที่สำคัญสิ่งที่ลืมไม่ได้นั้น คือการที่ลูกหลานจะต้องไม่ทิ้งคนแก่ แต่ให้ทำอะไรร่วมกันก็ได้ เพราะนั่นจะทำให้คนวัยเก๋ารู้สึกว่าตัวเองนั้นมีคุณค่า รวมถึงการสิ่งเสริมสุขภาพคนวัยนี้ด้วย “กิจกรรมเช็กตัวเองเพื่อป้องกันโรคหลอดเลือดสมองตีบ” โดยการให้ลูกหลานลองฝึกให้คุณตาหรือคุณพ่อติดกระดุมเสื้อและแกะกระดุมเสื้อเอง เพราะกิจกรรมนี้เป็นการช่วยฝึกสมอง ป้องกันโรคหลอดเลือดสมองตีบได้ ซึ่งถ้าหากผู้สูงอายุทำช้า แต่ถ้าหมั่นฝึกฝนกิจกรรมนี้ไปเรื่อยๆ และบ่อยๆ ก็จะเป็นการป้องกันตัวเองจากโรคดังกล่าวตั้งแต่เนิ่นๆ แต่ทั้งนี้สิ่งสำคัญเลยคือ การที่บุตรหลานจะต้องอธิบายให้กับคุณตาคุณยายฟังว่า กิจกรรมดังกล่าวไม่ใช่การดูถูกคนวัยเก๋า และไม่ใช่เรื่องที่ไร้สาระและไม่มีประโยชน์ แต่เป็นการฝึกสมองและช่วยฝึกกล้ามเนื้อให้หยิบจับสิ่งต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ก็จะทำให้ผู้สูงวัยเข้าใจและยอมร่วมมือทำกิจกรรมนี้อย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากคนสูงวัยจะค่อนข้างขี้น้อยใจ แต่ถ้าหากเป็นผู้สูงอายุที่เป็นผู้หญิงนั้น การที่ “ลูกหลานนำลูกหินใส่กระป๋องและให้ผู้สูงวัยเทออกมานับ” ซึ่งกิจกรรมนี้จะช่วยฝึกสมาธิและป้องกันโรคซึมเศร้า
(หน้าหนาวอากาศเย็น ผู้สูงอายุควรงดเว้นการดื่มสุรา)
เนื่องจากว่าครอบครัวไทยจะค่อนข้างมีความผูกพันกันระหว่างปู่ย่าตายายและลูกหลาน ดังนั้นการที่ “ลูกหลานนั่งจับกลุ่มให้ผู้สูงอายุเล่าประสบการณ์ที่ภาคภูมิใจให้ฟัง” ก็จะช่วยทำให้คนแก่รู้สึกภูมิใจ โดยเฉพาะเรื่องที่ทำนั้นเป็นสิ่งที่ดี นั่นไม่เพียงทำให้คนวัยเก๋ารู้สึกว่าตัวเองไม่ถูกดูถูกแล้ว ความดีที่เคยทำในอดีตบางเรื่องอาจเป็นสิ่งที่เหลือเชื่อ แต่ถ้าคุณตาคุณยายได้มีโอกาสเล่าประสบการณ์ที่ดีๆ ให้ลูกหลานฟัง แน่นอนว่าจะช่วยทำให้ท่านรู้สุขใจ ส่วนทางกายภาพนั้นจะทำให้สมองของท่านได้คิดจากการรื้อฟื้นเรื่องราวในอดีตได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญยังช่วยกระชับความผูกพันของคนสองวัยได้ด้วยกิจกรรมนี้ ส่วนกิจกรรมที่ผู้สูงอายุควรงดเว้นในช่วงอากาศหนาวเย็น คือการไม่ดื่มสุราหรือสารเสพติดต่างๆ กระทั่งต้องไม่ลุกๆ นั่งๆ อย่างรวดเร็ว เพราะอาจทำให้รู้สึกหน้ามืดและเป็นลมได้”.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |