16 มี.ค.61-   สื่อต่างประเทศรายงานว่า “สตีเฟน ฮอว์กิง”    ผู้เชี่ยวชาญด้านฟิสิกส์ทฤษฎีและจักรวาลวิทยาประจำมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ นักฟิสิกส์ชื่อดังระดับโลกชาวอังกฤษ ผู้ศึกษาเรื่องหลุมดำอย่างลึกซึ้ง  เจ้าของผลงานหนังสือปี 1988 “A Brief History of Time”  เสียชีวิตลงแล้วอย่างสงบขณะมีอายุได้ 76 ปี

นางลูซี นายโรเบิร์ต และนายทิม ฮอว์กิง แถลงว่า ฮอว์กิงเสียชีวิตอย่างสงบเมื่อช่วงรุ่งสางของวันพุธ (14 มี.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น 

บุตรทั้ง 3ของนายฮอว์กิงยกย่องบิดาเป็นนักวิทยาศาสตร์ผู้ยิ่งใหญ่ และบุคคลทรงคุณค่าแก่มนุษยชาติ ซึ่งผลงานและทฤษฎีที่นายฮอว์กิงคิดค้นขึ้น จะคงอยู่ต่อไปตราบชั่วกาลนาน

"เราเศร้าใจอย่างสุดซึ้งที่บิดาผู้เป็นที่รักของพวกเราได้จากเราไปแล้วในวันนี้”

ฮอว์กิงมีชื่อเต็มว่า “สตีเฟน วิลเลียม ฮอว์กิง” เกิดเมื่อวันที่ 8 ม.ค. 2485 ที่เมืองอ็อกซ์ฟอร์ด ในวัยเด็กเข้าเรียนหนังสือที่โรงเรียนเซนต์แอลแบน จากนั้นเข้าศึกษาต่อสาขาคณิตศาสตร์และฟิสิกส์จากมหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ด และรับปริญญาตรี เกียรตินิยมอันดับ 1 เมื่อปี พ.ศ. 2505 

ต่อมาได้เข้าศึกษาที่ทรินิตีคอลเลจ มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ในสาขาจักรวาลวิทยา และได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตเมื่อปี พ.ศ. 2509 หลังจากนั้นก็ได้รับการคัดเลือกเป็นนักวิจัยที่มหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ด

เขาเอาชนะคำคาดการณ์ของแพทย์ที่ระบุว่า เขาจะมีชีวิตอยู่ได้อีกแค่ไม่กี่ปีหลังจากการเริ่มเป็นโรคเซลล์ประสาทสั่งการเสื่อมรูปแบบหนึ่ง (กล้อมเนื้ออ่อนแรงจนต้องนั่งรถเข็นมาตลอดจนเสียชีวิต) เมื่อปี 2507 ในวัยเพียง 22 ปี 

ชีวประวัติบางช่วงบางตอนของนายฮอว์กิง เคยได้รับการถ่ายทอดเป็นภาพยนตร์เรื่อง “เดอะ เธียรี ออฟ เอฟวรีติง” เมื่อปี 2557 โดยเอ็ดดี เรดเมย์น สวมบทบาทเป็นศ.ดร.ฮอว์กิง และเฟลิซิตี โจนส์ รับบทนางเจน ฮอว์กิง ภรรยาคนแรก ซึ่งเรดเมย์นได้รับรางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย

ฮอว์กิง เชื่อว่ามนุษย์ต่างดาวมีจริง และวันหนึ่งจะเดินทางมาเยือนโลก 

"หากเอเลียนมาหาเรา ผลที่เกิดขึ้นจะเหมือนกับเมื่อครั้งโคลัมบัส (Christopher Columbus) ขึ้นฝั่งที่อเมริกา ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อชาวอเมริกันพื้นเมืองเลย" 

นอกเขายังเตือนว่า ปัญญาประดิษฐ์ หุ่นยนต์ อาจพัฒนาไปสู่การเป็นอาวุธทรงพลัง หรืออาจขัดแย้งกับมนุษย์ได้.