ชาวนาครบวงจร


เพิ่มเพื่อน    

            เวลาผ่านไปนานแค่ไหน คนที่มีความจริงใจ สนใจกับเรื่องนั้นๆ ก็จะยังติดตามตลอด เช่นเดียวกับ “หมอข้าว” แห่งพรรคประชาธิปัตย์ “นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม” อดีต ส.ส.พิษณุโลก ที่จนถึงวันนี้ยังเกาะติดเรื่องข้าวแทบทุกมิติ แม้คดีรับจำนำข้าวทุจริตจะจบไปแล้วก็ตาม 

            ล่าสุด “หมอวรงค์” แชร์ข้อมูลผ่านเฟซบุ๊กตัวเองเกี่ยวกับชีวิตชาวนาไว้อย่างน่าสนใจ โดยโพสต์ว่า      “ชาวนาที่เมืองจีน ไม่มีใครขายข้าวเปลือก มีแต่คนขายข้าวสาร วันนี้ผมมาเจอรูปแบบ และวิธีการที่น่าจะเหมาะสมกับวิถีชาวนาไทย พี่รักษ์ เสือเล็ก ทำนาเอง ตากข้าวเอง สีเอง ขายเอง ปลูกข้าวหอมจังหวัด (หอมมะลิที่ปลูกนอกพื้นที่รับรอง) ปกติขายได้เกวียนละหนึ่งหมื่นบาทเศษ มาตัดสินใจซื้อเครื่องสีข้าว ราคาเครื่องละ 15,000 บาท ตากข้าวเอง เก็บใส่ถุงปุ๋ย ไว้ในที่เก็บแบบง่ายๆ

          เมื่อสีข้าวได้ทั้งข้าวสาร ปลายข้าว รำและแกลบ ทุกอย่างขายได้หมด ได้เงินรวม 20,000 บาทเศษ ใช้เวลาแค่อาทิตย์เศษ คุ้มค่าลงทุนที่ซื้อเครื่องสีข้าว การสีก็ง่าย คนเดียวก็ทำได้ การขายก็ง่าย เพียงขายหน้าบ้าน และขายได้ทุกวัน ตอนนี้ข้าวที่ปลูกเองไม่พอขาย ต้องไปรับซื้อข้าวเปลือกมาสีขาย นี่ขนาดยังไม่ได้รับการช่วยเหลือจากรัฐ ถ้ารัฐใช้แผนช่วยซื้อข้าวจากชาวนา จะยิ่งสีไม่ทัน ที่สำคัญข้าวเหล่านี้ไม่ผ่านการรมยา สีเสร็จใส่ถุงขายทันที

          ผมคิดว่าแนวทางนี้น่าจะเป็นหนึ่งในแนวทางที่จะเปลี่ยนวิถีชาวนาไทยให้มาขายข้าวสาร แทนที่จะเป็นข้าวเปลือก ลงทุนไม่มาก ทำง่าย แต่ต้องลงแรง ขายข้าวเปลือกได้หนึ่งหมื่น แต่ขายข้าวสารได้สองหมื่น”

            เรื่องราวดีๆ แบบนี้ ป่าวประกาศให้รัฐบาลรับทราบและสานต่อโมเดลชาวนาแบบด่วนๆ

                                                                                                            มินนี่เมาธ์


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"