แฉเบื้องลึกพปชร.สกัด'มาร์ค'นั่งปธ.แก้รธน.แค้นฝังใจเหตุไม่หนุน'บิ๊กตู่'เป็นนายกฯ


เพิ่มเพื่อน    

 

8พ.ย.62-ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)เสนอชื่อ นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานกรรมาธิการวิสามัญศึกษาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 นั้น กรณีดังกล่าวเป็นมติจากการประชุมวงเล็กซึ่งเกิดขึ้นภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)เสร็จสิ้น โดยมีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม พร้อมด้วยแกนนำระดับรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ เป็นต้น ซึ่งมีการหารือเรื่องการคัดสรรบุคคลที่เหมาะสมเป็นประธานกมธ.ฯ
โดยเบื้องต้นได้ข้อสรุปว่า จะต้องเป็นนายสุชาติ เพราะมีความเหมาะสมในทุกด้าน นายสุริยะ และนายสมศักดิ์ จึงมีการต่อสายไปหานายสุชาติ แต่นายสุชาตินั้นไม่ต้องการที่จะรับผิดชอบในตำแหน่งนี้ เพราะมองว่าเนื้องานในรัฐสภามีค่อนข้างมาก และไม่ต้องการเป็นเป้าให้หลายฝ่ายโจมตีถึงความไม่เป็นกลาง ทำให้ท่าทีล่าสุดของนายสุชาติยังอยู่ในสถานะแบ่งรับแบ่งสู้
อย่างไรก็ตาม พรรคพลังประชารัฐนั้นต้องการที่จะรักษาตำแหน่งประธานกมธ.ชุดนี้เอาไว้ในฐานะแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และไม่ต้องการให้ตำแหน่งประธานกมธ.ตกไปอยู่ในมือพรรคประชาธิปัตย์ เพราะเกรงว่าอาจจะกระทบต่อหลักการในรัฐธรรมนูญที่ผ่านการลงประชามติรับรองของประชาชน ดังนั้น หากนายสุชาติไม่รับตำแหน่งนี้ ก็อาจจะต้องหาบุคคลภายนอกที่มีประสบการณ์และมีความเป็นกลางเข้ามาดำเนินการเพื่อให้ได้การยอมรับจากทุกฝ่าย แต่สุดท้ายเรื่องนี้ยังไม่มีมติจากพรรค จึงต้องรอดูว่าในการประชุมส.ส.ของพรรคในสัปดาห์หน้า พรรคจะมีมติออกมาเช่นไร
นอกจากนี้แกนนำพลังประชารัฐเปิดเผยด้วยว่า พรรคพลังประชารัฐ คงไม่ยอมให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มาดำรงตำแหน่งประธานกมธ.อย่างแน่นอน เพราะท่าทีของนายอภิสิทธิ์นั้นชัดเจนว่าไม่เอารัฐธรรมนูญฉบับนี้มาตั้งแต่ต้น ประกอบกับไม่สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี จึงเชื่อว่าแนวทางการทำงานร่วมกันนั้นคงเป็นไปได้ยาก นี่คืออีกหนึ่งสาเหตุที่พรรคพลังประชารัฐต้องพยายามรบเร้าให้นายสุชาติยอมรับตำแหน่งประธานกมธ.ฯ
อย่างไรก็ตาม หากพรรคประชาธิปัตย์ยังดึงดันที่จะสนับสนุนนายอภิสิทธิ์เป็นประธานกมธ.ฯ ให้ได้ ทางออกเดียวคือพรรคประชาธิปัตย์จะต้องไปรวมเสียงกับพรรคร่วมฝ่ายค้าน ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจริงพรรคพลังประชารัฐจะใช้เสียงในสัดส่วนของคณะรัฐมนตรี ที่ทำให้เสียงของรัฐบาลมีมากกว่าเป็นการตอบโต้แทน อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าสุดท้ายแล้วหากแกนนำพรรคพลังประชารัฐและพรรคประชาธิปัตย์ได้จับเข่าคุยกันถึงความจำเป็นแล้ว จะทำให้พรรคประชาธิปัตย์เข้าใจและยอมถอยให้ในที่สุด


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"