"บิ๊กตู่" ลงพื้นที่ราษีไศล ป่วน! เจอม็อบสมัชชาคนจนดักทวงสัญญา ตำรวจสกัดเจรจาไม่สำเร็จเกิดปะทะจนต้องเปลี่ยนจุดลง ฮ. นายกฯ วอนลดความขัดแย้ง ช่วยกันทำงานในนามพรรคประเทศไทย
ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน เวลา 07.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม พร้อม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย, นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์, นายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี, น.ส.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะ ออกเดินทางไปยังกองบิน 21 อ.เมืองฯ จ.อุบลราชธานี ก่อนเดินทางต่อไปยังกลุ่มวิสาหกิจชุมชนศูนย์ข้าวชุมชนบ้านอุ่มแสง ต.คู่ อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนคณะนายกฯ เดินทางไปถึง ที่บริเวณหน้าโรงเรียนราษีไศล อ.ราษีไศล ซึ่งเป็นสนามจอดเฮลิคอปเตอร์ชั่วคราว ได้เกิดเหตุปะทะกันระหว่างกลุ่มสมัชชาคนจนประมาณ 300 คนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ นานประมาณ 30 นาที แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ โดยกลุ่มสมัชชาคนจนเดินทางมาชุมนุมเพื่อยื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรี ในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนจากผลกระทบการก่อสร้างเขื่อนหัวนา, เขื่อนราษีไศล, เขื่อนปากมูล และเขื่อนสิรินทร เพื่อทวงสัญญาจากนายกฯ ตามที่มีข้อตกลงกันไว้ โดยขู่ว่าหากไม่ได้คำตอบที่พอใจจะปิดสนามเฮลิคอปเตอร์ จากนั้นกลุ่มสมัชชาคนจนได้ปักหลักรอพบนายกฯ ที่บริเวณหน้าโรงเรียนราษีไศล โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตั้งแถวคุมเข้มอย่างใกล้ชิด
ต่อมา นายประทีป กีรติเรขา รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ได้มาพบกับกลุ่มสมัชชาคนจนเพื่อรับทราบปัญหาและข้อเรียกร้องต่างๆ เพื่อจะได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เดิมคณะนายกฯ จะเดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์จากอุบลราชธานีมาลงที่โรงเรียนราษีไศล แต่เนื่องจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไม่สามารถเจรจากับกลุ่มสมัชชาคนจนที่ดักรอนายกฯ ได้ จึงเปลี่ยนจุดลงเฮลิคอปเตอร์ไปที่โรงเรียนหวายคำวิทยาแทน
จากนั้นเวลา 10.00 น. นายกฯ เดินทางด้วยรถยนต์หมายเลขทะเบียน กฉ 1111 ศรีสะเกษ มาถึงพื้นที่จัดงาน โดยมีคณะกรรมาธิการเกษตรและสหกรณ์ วุฒิสภา รวมถึงนายลักษณ์ วจนานวัช ส.ว. และอดีต รมช.เกษตรและสหกรณ์, นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ อดีต รมว.คมนาคม ในสมัยรัฐบาล คสช., นายพรศักดิ์ เจริญประเสริฐ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ร่วมต้อนรับด้วย
โดย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ขอบคุณพี่น้องชาวอีสานที่มาต้อนรับ ตนมาในนามลูกอีสาน พอรู้ว่าพวกเรามีความสุขตนก็มีความสุข ส่วนความทุกข์พยายามแก้อยู่ในรัฐบาลใหม่นี้ ทุกอย่างต้องสืบสานต่อไป ซึ่งหลายอย่างดีขึ้น หลายอย่างต้องปรับโครงสร้าง ทั้งนี้ ประเทศไทยไม่ได้มีปัญหาการเงินระดับมหภาค เราเป็นประเทศที่มีฐานะการเงินแข็งแกร่งมากที่สุดในอาเซียน ทุกคนไว้วางใจในระบบการเงินของเรา ซึ่งกองทุนสำรองระหว่างประเทศ 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ถือว่าสูงระดับต้นของโลก
ทั้งนี้ หากไม่หารายได้ใหม่ขึ้นมาอีกทาง แล้วเราต้องมาดูเรื่อง ข้าว ยาง อ้อย ปาล์ม จะเอาเงินจากที่ไหน เพราะทุกอย่างเราต้องมีงบประมาณทั้งสิ้น ทั้งเกษตร อุตสาหกรรม สังคม ต้องมีงบในการลงทุน วันนี้เราปรับการลงทุน รัฐลงทุนมากอย่างเดียวไม่พอ ภาคเอกชนต้องมาร่วมด้วย ถึงมีรูปแบบใหม่คือ PPP ไม่ได้เอื้อประโยชน์ใครทั้งสิ้น ขอให้เข้าใจ
"วันนี้ ส.ส. ส.ว.ก็ต้องช่วยกัน รัฐบาลก็ต้องช่วยกัน นักการเมืองไม่ว่าจะพรรคไหนก็ตาม พรรคนี้คือพรรคประเทศไทย ทุกคนต้องร่วมมือกันตรงนี้ในการขับเคลื่อนทุกมิติไปให้ได้ เรื่องทางการเมืองก็เป็นเรื่องทางการเมืองก็ว่ากันไป เป็นประชาธิปไตยก็ว่ากันไป เพราะฉะนั้นสิ่งที่ผมอยากจะขอพวกเราคือเราต้องลดความขัดแย้ง ลดปัญหาที่มีระหว่างกันให้ได้ ไม่ว่าจะรัก จะชอบ จะเกลียด ก็หยุดๆ กันไว้ก่อนบ้าง มันจะได้มีเวลาได้คิดอะไรใหม่ๆ เพื่อคนไทย" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
นายกฯ กล่าวว่า การทำเกษตรสมัยใหม่ต้องใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เปิดดูในโทรศัพท์ได้ มีข้อมูลทั้งหมด ถ้าเราดูแต่เรื่องความขัดแย้ง จะปวดหัวจะขัดกับเขาไปด้วย ร่วมโพสต์กับเขาไปด้วย ไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย ฝากไว้ด้วยแล้วกัน ตนห้ามใครไม่ได้อยู่แล้ว และเรื่องการบริหารจัดการน้ำ ได้คุยกับ รมว.มหาดไทยบนเครื่องบิน เห็นที่นาใน จ.อุบลราชธานียังไม่ได้ทำเลย อาจมีปัญหาเรื่องน้ำหรือไม่ กลัวจะหมดหน้าทำนา ให้ไปดูปัญหาอยู่ที่ไหน ตนห่วงตรงนี้ ถ้าทำนาไม่ได้จะทำอย่างไร แต่ในพื้นที่ศรีสะเกษมีการทำนามากขึ้นเรื่อยๆ เพราะอยู่ในระบบชลประทาน ใกล้เขื่อนราษีไศลส่งน้ำมา ซึ่งทั้งประเทศมีพื้นที่ในเขตชลประทานเพียง 30% นอกนั้นไม่มีแหล่งน้ำหรือเขื่อนที่ทำได้
"พร้อมจะทำแต่ทำไม่ได้ เพราะประชาชนยังไม่เห็นชอบ นั่นคือประชาธิปไตยของเรา แล้วใครบอกวันนี้ไม่เป็นประชาธิปไตย ไม่ใช่ผมนึกอยากจะทำอะไรก็ทำ ผมก็ต้องถามท่าน ถ้าท่านไม่เห็นชอบ ก็ทำไม่ได้ หลายคนก็หาว่าผมไม่ใช่ประชาธิปไตย ก็ฟังมาตลอดทุกเรื่อง สิ่งสำคัญคือดูแลพี่น้องเราได้อย่างไร เรื่องอื่นอย่าเพิ่งมาทะเลาะกันเลย" นายกฯ ระบุ
อย่างไรก็ตาม ในเรื่องน้ำทุกคนต้องปรับตัว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ตรัสไว้ เราบังคับธรรมชาติไม่ได้ ธรรมชาติเป็นคนบังคับเรา แต่เราต้องเรียนรู้จะอยู่กับธรรมชาติได้อย่างไร นั่นคือปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง รัชกาลที่ 10 ทรงให้สืบสานต่อเนื่องกันมา ขอให้ทำสิ่งที่รัชกาลที่ 9 ได้ทำไว้ อะไรที่ทำยังไม่ครบ ทำเสียให้ครบ อันไหนทำได้ทำ อันไหนไม่ได้ก็เปลี่ยนแปลงได้ นั่นแหละคือสิ่งที่พระมหากษัตริย์มีพระมหากรุณาธิคุณกับพวกเรา
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวด้วยว่า วันนี้ดีใจ มีคนมาตั้งกว่า 3,000 คน ดีใจที่มาจากทุกจังหวัด อยากให้สิ่งที่ตนพูดมาแล้วให้ทุกคนนำไปพูดกับคนอื่นด้วย แล้วให้สนับสนุนการทำงานของรัฐบาลเท่านั้น ตนบังคับให้ใครมารักมาชอบตนหมดไม่ได้อยู่แล้ว แต่ต้องดูความตั้งใจของตนของรัฐบาลเป็นอย่างไร สิ่งไม่ดีต้องมีอยู่ทุกแห่งในโลก อะไรไม่ดีมันก็มีอยู่ ถ้าเราไปจ้องแต่ตรงนั้นมันก็ลืมไปว่า ต้องมาทำอะไรตรงนี้ เพราะเสียเวลาโพสต์กันไปมา บางทีไม่ได้อะไรขึ้นมาเลย อย่าไปอ่านมากนัก เจ็บตา ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเรา จะไปเกลียดไปรักเขาทำไมก็ยังไม่รู้เหมือนกัน ขออย่างเดียวคือความร่วมมือเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ได้กล่าวขอบคุณและชื่นชมในพลังรักสามัคคีเช่นวันนี้ตลอดไป ก่อนจะถามชาวบ้านว่าขอได้หรือไม่ โดยชาวบ้านตอบว่าได้ พร้อมเสียงปรบมือ ก่อนที่นายกฯ กล่าวอีกว่า ขอบคุณมากๆ ขอบคุณจริงๆ มันทำให้นายกฯ มีกำลังใจ รัฐมนตรีก็มีกำลังใจ ข้าราชการก็มีกำลังใจ ถ้าทุกคนว่ากันไปมา ไม่เกิดอะไรขึ้นเลย
จากนั้น นายกฯ ได้เปิดโรงอบเมล็ดพันธุ์ข้าวและทดสอบระบบการคัดคุณภาพข้าว และเยี่ยมชมกิจกรรมการดำเนินงานต่างๆ ได้แก่ การส่งสริมการเกษตรในรูปแบบแปลงใหญ่จังหวัดศรีสะเกษและจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นิทรรศการ Fair Trade ของผู้ค้าที่ไม่หวังผลกำไรตอบแทน ของกลุ่มวิสาหกิจชุมชน กิจกรรมการส่งเสริมการปลูกพืชทางเลือก ของศูนย์วิจัยพืชสวนศรีสะเกษ กิจกรรมการดำเนินงานของ Young Smart Farmer จังหวัดศรีสะเกษ กิจกรรมเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมทางการเกษตร
ทั้งนี้ ก่อนที่นายกฯ จะเดินทางกลับ ได้แวะทักทายครูและเด็กนักเรียนโรงเรียนหวายคำวิทยา พร้อมกับกล่าวว่า เราเป็นคนไทยต้องรักกัน และต้องซื่อสัตย์ ขยัน อดทน รวมถึงครูประจำชั้นต้องสอนแนวทางใหม่ สอนหลักคิดไปด้วย เพราะการสอนแล้วสอบใช้ไม่ได้ เราต้องสอนเด็กว่าสิ่งที่เรียนไปนั้นเอาไปใช้ประโยชน์หรือเอามาใช้ทำงานในชีวิตได้อย่างไร ก่อนจะร่วมถ่ายภาพหมู่และเซลฟีอย่างเป็นกันเอง.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |