เปิดให้เข้าชมจนถึงช่วงโค้งสุดท้ายแล้วสำหรับนิทรรศการองค์ความรู้เกี่ยวกับการเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พ.ศ.2562 นิทรรศการยิ่งใหญ่แห่งปีที่ต้องไปชม ซึ่งทางกระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกับกระทรวงกลาโหม สำนักนายกรัฐมนตรี ได้รวบรวมความรู้พระราชพิธีบรมราชาภิเษก โบราณราชประเพณีของไทยที่สืบทอดมาแต่โบราณ และพระราชพิธีบรมราชาภิเษกพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรราธิบดีศรีสินทรมหาวชิรราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มาจัดแสดงให้ประชาชนได้ชมเป็นครั้งแรก ณ ท้องสนามหลวง งานนี้ ไม่ควรพลาดเลยจริงๆ จะได้สัมผัสถึงความอลังการของขบวนพยุหยาตราทางชลมารค
โดยนิทรรศการถูกจัดขึ้นภายในอาคารนิทรรศการ “เถลิงถวัลย์ราชสมบัติ สยามรัฐสีมา” แบ่งเป็น 3 ห้อง ได้แก่ ห้องที่ 1 “มหามงคลสมัยพระขวัญไผทเถลิงรัช” ที่เล่าถึงความเป็นมาพระราชพิธีบรมราชาภิเษกสมัยรัตนโกสินทร์ สืบเนื่องถึงพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรราธิบดีศรีสินทรมหาวชิรราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่จัดขึ้นตามโบราณราชประเพณี ตั้งแต่วันที่ 3-5 พฤษภาคมที่ผ่านมา ถือเป็นช่วงเวลาประวัติศาสตร์ที่สำคัญยิ่งของชาวไทย พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรราธิบดีศรีสินทรมหาวชิรราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระปฐมบรมราชโองการว่า “เราจะสืบสาน รักษา และต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป “ สร้างความปลื้มปีติแก่พสกนิกร
รูปแบบการนำเสนอเรื่องราวไม่ใช่แค่เดินอ่าน แต่เป็นการสร้างสรรค์นิทรรศการอย่างทันสมัยและน่าสนใจผ่านการฉายภาพพระราชพิธีบรมราชาภิเษกบนจอแอลอีดีแบบพาโนรามาขนาดใหญ่ 2x14 เมตร ,หนังสืออิเล็กทรอนิกส์, วีดิทัศน์พิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์จากทั่วประเทศ, ภาพถ่ายพระราชพิธีบรมราชาภิเษกอันทรงคุณค่า พร้อมห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้สนใจสืบค้นและศึกษาข้อมูลความรู้เกี่ยวกับพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เป็นความเร้าใจดึงดูดให้คนรุ่นใหม่เข้ามาเรียนรู้โบราณราชประเพณี เห็นผู้คนหนาแน่นและมีความสุขมากเวลาเข้าไปในห้องนี้
ตามมาด้วยห้องที่ 2 “นิรมิตเรืองนทีเถลิงหล้า” ไฮไลต์อยู่ที่เนรมิตรแสดงแสง สี เสียง และสื่อผสมเรื่องราวเกี่ยวกับความสุขของคนไทยใต้ร่มพระบารมีในหลวง รัชกาลที่ 10 ออกมาได้อย่างยิ่งใหญ่ โดยการฉายภาพ 3 มิติ เสมือนผู้ชมได้อยู่ร่วมในหน้าประวัติศาสตร์สำคัญของไทยจริงๆ ประกอบการแสดงศิลปวัฒนธรรมจากดารานักแสดงที่มีชื่อเสียง และการแสดงขบวนเรือพยุหยาตราทางชลมารคด้วยเรือพระราชพิธีจำลอง 52 ลำสุดงดงาม จัดรูปขบวนเรือ 5 ริ้ว ตามแบบแผนสืบมาแต่โบราณ ขบวนเรือเคลื่อนด้วยระบบสลิงค์ ลอยเลื่อนเป็นระยะอย่างช้าๆ ดูสง่างามเฉิดฉายบนท้องน้ำ ตรึงตาตรึงใจพร้อมกาพย์เห่เรือเฉลิมพระเกียรติ ประพันธ์โดย นาวาเอก ทองย้อย ที่มีบทเห่มีถ้อยคำและท่วงทำนองไพเราะก้องกังวาน ห้องนี้กลายเป็นเป้าหมายของผู้ชมทุกเพศทุกวัย รวมถึงนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยววัดวังบนเกาะรัตนโกสินทร์ ว่าจะต้องไปเช็คอินที่นี่ให้ได้ แต่ละวันมีผู้รอเข้าชมแต่ละรอบคึกคัก
ถัดมาห้องที่ 3 “ขบวนนาวาอารยศิลป์แผ่นดินสยาม” ที่จะเปิดประสบการณ์ใหม่ในการเรียนรู้ขบวนพยุหยาตราทางชลมารคตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาและสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ภาพขบวนเรือพยุหยาตราชลมารคจากอดีตถึงปัจจุบันผ่านจอแอลอีดีสุดทันสมัย ซึ่งเป็นประเพณีหนึ่งเดียวในโลกแสดงความร่ำรวยทางศิลปวัฒนธรรมของประเทศไทยอย่างไม่น้อยหน้าใคร และมีโชว์เครื่องดนตรีประกอบการเห่เรือในขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ดนตรีนั้นสำคัญทำให้จังหวะพายของฝีฟายกว่า 2,200 คน บนเรือพระราชพิธีทั้งหมด 52 ลำ พร้อมเพรียง แวะมาชมจะได้เห็นกลองแขก ปี่ชวา แตรสังข์มโหระทึก ภายในห้องมีเสียงกาพย์เห่เรือ พร้อมจำลองภาพเรือ 52 ลำ ประกอบคำบรรยายลักษณะและความสำคัญของเรือแต่ละลำ ตั้งแต่เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9 เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช เรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ ที่มีความประณีตวิจิตรงดงาม
อีกส่วนจัดแสดงที่ดึงดูดผู้ชมเป็นเครื่องแต่งกายฝีพายเรือพระที่นั่ง เรือดั้ง เรือแซง ถือเป็นศิลปะการแต่งกายที่ออกแบบสวยงาม ชวนมอง และทำให้กระบวนเรือสง่างามยิ่งขึ้น ในส่วนสาธิตงานประณีตศิลป์ที่เกี่ยวข้องกับเรือพระราชพิธี โดยสำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร มีประโยชน์ เห็นได้ชัดเจนกว่าจะสร้างเรือแต่ละลำต้องอาศัยช่างฝีมือดี ทั้งสลักเสลาโขนเรือ ปิดทองประดับกระจก แล้วยังมีส่วนผ้าม่าน รวมทั้งฉัตรที่ปักลวดลายอย่างละเอียดลออ กล่าวได้ว่า เป็นขุมทรัพย์งานศิลป์ของแผ่นดิน สำหรับทั้ง 3 ห้องภายในอาคารนิทรรศการ”เถลิงถวัลยราชสมบัติ สยามรัฐสีมา” จัดทำอารยสถาปัตย์และมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้พิการและผู้สูงอายุ สะท้อนความใส่ใจและการเปิดโอกาสให้ทุกคนเข้าถึงแหล่งเรียนรู้กลางท้องสนามหลวงแห่งนี้ ทุกห้องอนุญาตให้ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกได้ ไม่ต้องกังวล
กายนนท์ คำรอด นักเรียนโรงเรียนเบญจมราชูทิศ จ.จันทบุรี เผยความรู้สึกว่า เดินชมครบทั้ง 3 ห้องจัดแสดง เข้าใจคุณค่าของพระราชพิธีบรมราชาภิเษก และซาบซึ้งใจเป็นที่สุดเมื่อชมการแสดงแสง สี เสียงและสื่อผสม ห้องที่ 2 ภูมิใจในความเป็นไทย ขบวนเรือพยุหยาตราไม่สามารถหาชมได้ทั่วไป นิทรรศการนี้เป็นแหล่งเรียนรู้ขนบธรรมเนียมประเพณีไทยที่ยิ่งใหญ่ และจะเฝ้ารอชมพระราชพิธีจริงวันที่ 12 ธันวาคมนี้ อย่างแน่นอน
นอกจากชาวไทยที่ตื่นเต้นกับนิทรรศการนี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ได้ชมก็ไม่แพ้กัน นาตาลี มาจากประเทศสหรัฐ กล่าวชื่นชมนิทรรรศการว่า จัดได้ดีจริงๆ รู้สึกตื่นเต้นที่ได้รับความรู้เกี่ยวกับพระราชพิธีบรมราชาภิเษก วัฒนธรรมไทย และได้รู้ว่าขบวนพยุหยาตรา เป็นพระราชพิธีเบื้องปลาย
เช่นเดียวกับ วินเซ็นต์ และบูรนา มาไกลจากประเทศเยอรมัน บอกว่า ดีใจมากที่ได้ชมนิทรรศการและเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของพระมหากษัตริย์ไทย ยินดีจะบอกต่อความรู้ที่ได้รับเกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมไทย และพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของในหลวง รัชกาลที่ 10 การแสดงศิลปวัฒนธรรมก็สวยงามมาก มาจากภาคต่างๆของประเทศไทย ขอบคุณที่จัดนิทรรศการดีๆ มีภาษาอังกฤษให้กับชาวต่างชาติด้วย
ไฮไลต์ยังไม่หมดเท่านี้ ฝากติดตามตอนต่อไป จะพาไปพบกับการจัดแสดงเรือพระที่นั่งจำลอง 4 ลำ ประกอบการแสดงเห่เรือจากกองทัพเรือ และการแสดงม่านน้ำประกอบแสง สี เสียง เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อีกความยิ่งใหญ่ของนิทรรศการองค์ความรู้เกี่ยวกับการเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ส่วนใครที่ยังไม่ได้เที่ยวชม เหลือเวลาอีก 4 วัน นิทรรศการขบวนพยุหยาตราทางชลมารคสุดยิ่งใหญ่จัดแสดงถึงวันที่ 11 พฤศจิกายน 2562 ตั้งแต่เวลา 10.00-22.00 น. ณ ท้องสนามหลวง
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |