ครม. ไฟเขียวเปิดเสรีการค้าการบริการด้านการเงิน เปิดทางต่างชาติถือหุ้นบริษัทจัดการลงทุนได้100%


เพิ่มเพื่อน    

7 พ.ย. 2562 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบพิธีสารอนุวัติ (เอกสารให้ดำเนินการตาม) ข้อผูกพันการเปิดเสรีการค้าการบริการด้านการเงิน ฉบับที่ 8 ภายใต้กรอบความตกลงว่าด้วยการค้าบริการของอาเซียน และจะนำเสนอรัฐสภาพิจารณาให้ความเห็นชอบ เนื่องจากเข้าข่ายมาตรา 178 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญ

ทั้งนี้ สาระสำคัญของพิธีสารอนุวัติดังกล่าว คือ เป็นการขยายความร่วมมือด้านการค้าบริการระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน โดยลดหรือยกเลิกข้อจำกัดที่เป็นอุปสรรคต่อการค้าบริการภายใต้กรอบอาเซียนให้มากกว่าที่เปิดเสรีตามกรอบองค์กรการค้าโลก (World Trade Organization: WTO) และประเทศสมาชิกจะให้สิทธิประโยชน์ตามตารางข้อผูกพันแก่ประเทศสมาชิกอื่น ตามหลักการให้การปฏิบัติเยี่ยงชาติที่ได้รับความอนุเคราะห์ยิ่ง รวมถึงการดำเนินการภายใต้กรอบการรวมตัวภาคการธนาคารของอาเซียน ที่ระบุให้ประเทศสมาชิกตั้งแต่สองประเทศหรือมากกว่านั้นอาจดำเนินการเจรจาและตกลงเปิดเสรีสาขาการธนาคารของตน โดยแต่ละประเทศสมาชิกที่เข้าร่วมการเจรจาอาจสรุปผลการเจรจา ณ เวลาใดก็ได้

สำหรับข้อผูกพันในร่างเอกสาร ฉบับที่ 8 นี้ เป็นการปรับปรุงข้อผูกพัน ใน 2 สาขา ได้แก่ 1.สาขาหลักทรัพย์ สาขาย่อยบริการจัดการลงทุน (Asset Management) เพื่อยกระดับ ข้อผูกพันให้เทียบเท่ากฎหมายและแนวปฏิบัติที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน (ใช้ตั้งแต่ปี 2555) โดยจะอนุญาตให้สัดส่วนการถือหุ้นของต่างชาติในบริษัทจัดการลงทุน ได้ถึง100% ของทุนที่ชำระแล้ว โดยยกเลิกเงื่อนไขเดิมที่กำหนดให้ต้องมีสถาบันการเงินที่จัดตั้งภายใต้กฎหมายไทยร่วมถือหุ้นอยู่ด้วยไม่น้อยกว่า 50% ของทุนที่ชำระแล้ว และ 2.ให้มีการเจรจาทวิภาคีเพื่อจัดตั้ง Qualified ASEAN Banks (QABs) ระหว่างประเทศไทยและสหพันธรัฐมาเลเซียเข้าสู่ตลาดระหว่างกันได้บนหลักการต่างตอบแทน และให้มีความยืดหยุ่นในการประกอบธุรกิจมากยิ่งขึ้น

“การปรับปรุงข้อผูกพันจะช่วยส่งเสริมการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจในเชิงลึกและกว้างขวางมากขึ้นของประเทศประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เปิดโอกาสให้เอกชนไทยสามารถขยายการค้าและการลงทุนในสาขาบริการด้านการเงินออกไปยังประเทศอาเซียนได้สะดวกยิ่งขึ้น” นางสาวรัชดา กล่าว

อย่างไรก็ดี ข้อผูกพันดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบธุรกิจการลงทุนอย่างมีนัยสำคัญ เพราะกฏหมายเรื่องการถือครองหุ้นในบริษัทจัดการลงทุนของประเทศไทยใช้ตั้งแต่ปี 2555 ผู้ประกอบการได้ปรับตัวมาระยะหนึ่งแล้ว ส่วนแบ่งตลาดของธุรกิจการลงทุน กว่า 95% ผู้ให้บริการเป็นบริษัทลูกของธนาคารพาณิชย์ไทย ส่วนการเจรจาเพื่อจัดตั้ง QABs จะเจรจาภายใต้กฏหมายที่มีอยู่ จึงไม่มีความจำเป็นต้องแก้ไขกฏหมายปัจจุบัน ยึดหลักสิทธิประโยชน์ในแต่ละคู่สัญญา แต่ละทวิภาคีจะมีสิทธิประโยชน์ที่แตกต่างกัน


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"