จบไปแล้วสำหรับการประชุม “สุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 35” และการประชุมที่เกี่ยวเนื่อง เมื่อ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานอาเซียนส่งค้อนต่อไปให้  “เหวียน ซวน ฟุก” นายกรัฐมนตรีเวียดนาม แต่ดูเหมือนแวดวงการเมืองในไทย โดยเฉพาะ “พรรคเพื่อไทย” ยังไม่ยอมจบ เพราะในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร “จิราพร สินธุไพร” ส.ส.ร้อยเอ็ด ก็ได้ตั้งกระทู้ถามสดถึงกรณีมหาอำนาจอย่าง “จีน-สหรัฐ” ไม่ส่งผู้นำสูงสุดมาร่วม ซึ่งเป็นการรับไม้ต่อก่อนหน้านี้ที่โทรโข่งของพรรคทั้ง “อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด” และโดยเฉพาะ “ หมวดเจี๊ยบ” ร.ท.สุณิสา ทิวากรดำรง ที่ถึงกับให้ “F” ในการทำหน้าที่ประธานของ “ลุงตู่” เลยทีเดียว ...๐

แหม! ไม่อยากตำหนิติติง เพราะเมื่อเป็น “พรรคฝ่ายค้าน” ก็ต้องทำหน้าที่วิพากษ์วิจารณ์ตรวจสอบ แต่มันก็ต้องดูด้วยว่าเรื่องไหนเหมาะสมเพียงใด ไม่ใช่แค่ “หายใจ” หรือ “ตด” ก็เป็นความผิดไปหมด ที่สำคัญ “พรรคเพื่อไทย” ที่เป็นเนื้อคู่กระดูกคู่กับ “แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ” หรือ “นปช.” ซึ่งไปปิดล้อมการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่โรงแรมรอยัล คลิฟ บีช รีสอร์ท เมืองพัทยา เมื่อปี 2552 นั้น น่าจะหมดความชอบธรรมในการวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องนี้ ไหมเอ่ย ดูขนาด “พรรคอนาคตใหม่” หรือบรรดาพวกชอบเย้วๆ ทั้งหลายอย่าง “เอกชัย หงส์กังวาน” หรือแม้เครือข่าย “น้องโบว์” ยังสงบเสงี่ยมทำหน้าที่ประเทศเจ้าบ้านที่ดีเลยนะจ๊ะ  ไม่แปลกใจที่ผลโพลล่าสุดเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาถึงให้คะแนนพรรคฝ่ายค้านลดต่ำลงเรื่อยๆ จนจะกลายเป็น “ฝ่ายแค้น” ไปแล้ว ...๐

กลับมาร้อนแรงอีกครั้งสำหรับปัญหา “ไฟใต้” เมื่อแนวร่วมขบวนการแบ่งแยกดินแดนบีอาร์เอ็นวางแผนเข้าโจมตีป้อมยามจุดตรวจ ชรบ.ทางลุ่ม หมู่ 5 ต.ลำพญา อ.เมือง จ.ยะลา จนทำให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 15 ราย และบาดเจ็บ 5 ราย ซึ่งประเมินกันว่าเป็นการแก้แค้นเอาคืนจากกรณีเจ้าหน้าที่วิสามัญฆาตกรรมแนวร่วม 2 ศพ และจับกุมผู้เกี่ยวข้องที่ต้องสงสัยกว่า 10 คนที่ ต.ปะเสยะวอ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เมื่อสัปดาห์ก่อน!!! แต่ก็มี “ขาเมาธ์” คิดมากลากโยงว่าใช่เป็นผลของพรรคการเมืองไหนหรือไม่อย่างไรที่ไปลงพื้นที่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ในเร็วๆ นี้ ที่อาจเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ความรุนแรงที่บรรเทาเบาบางลงกลับมา “ปะทุ” ขึ้นอีกครั้ง ...๐

สภาผู้แทนราษฎรมีคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ทั้งสิ้น 35 คณะ แต่ ดูเหมือนห้วงเวลานี้ กมธ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบของ “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส” หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ส.ส.สมัยแรก เป็นชื่อฮิตติดลมบนที่สุดใน 35 กมธ.เสียแล้ว ซึ่งก็เรียกว่ามีทั้งคนชังและชอบแบบไม่น้อยหน้ากันว่าใครมีมากกว่าใคร แต่แน่ๆ คือ ทำให้ดูภาพ กมธ.ปราบโกงเหมือนจะทำงานมากที่สุด!!! ทั้งที่หากดูเนื้อหามันก็ไม่ต่างจากตามราวีและสางแค้นการเสียรังวัดทางการเมืองซะมากกว่า ...๐ งานนี้จึงไม่แปลกที่พรรคพลังประชารัฐจะต้อง ส่งมือเตะตัดขาแบบสมน้ำสมเนื้อกับ “เสรีพิศุทธ์” อย่าง “สิระ เจนจาคะ” และ “ปารีณา ไกรคุปต์” เข้าไปนั่ง กมธ. แทนที่ ส.ส.พลังประชารัฐที่ไขก๊อกเพราะเอือมระอาการใช้อำนาจของประธาน กมธ.ที่ “ติดหนวด” และดึงดันยิ่งกว่าการใช้มาตรา 44 เสียอีก ...๐

พิโธ่! แค่เริ่มต้นศึกษาแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 ก็เห็นอาการของ “ปัญหา” ออกมาแล้ว โดยเฉพาะ การโยนหินถามทางในการเสนอชื่อ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และอดีตนายกฯ มานั่งเป็นประธาน กมธ.วิสามัญศึกษาแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะจากซีกพรรค พปชร. ซึ่งดูเหมือนจะค้านหัวชนฝาในการเสนอชื่อ “หนุ่มมาร์ค” มากกว่าบรรดา 7 พรรคร่วมฝ่ายค้านเสียอีก ที่นั่งอยู่บนภูดูการแก่งแย่งชิงดีกัน ...๐ หันมากลับมามองเรื่องสังคมที่ช่วงนี้ฮอตฮิต อย่าง “แชร์” และ “ลิขสิทธิ์” กันบ้าง เพราะมีข่าวเรื่องการถูก “หลอกลวง” กันมากเสียเหลือเกิน ซึ่งอาจถึงเวลาที่ต้องมีการทบทวนกฎหมายทั้งในเรื่องการเล่นแชร์ให้มีบทลงโทษมากขึ้นหรือไม่อย่างไร ในขณะเรื่อง “ลิขสิทธิ์” ก็น่าจะทบทวนถึงการใช้ช่องโหว่และช่องว่าง รวมถึงกรณีตัวแทนลิขสิทธิ์ทั้งหลายแหล่ ควรจะต้องมีการควบคุมดูแลมากน้อยเพียงใดก็น่าจะดี ...๐

ทิ้งท้ายด้วยข่าวประวัติศาสตร์ทางการเงินกันบ้าง เมื่อ “คณะกรรมการนโยบายการเงิน” หรือ กนง. มีมติ 5 : 2 เสียง ลดดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% เหลือ 1.25% ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงวิกฤติการเงินโลก หรือวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์เมื่อปี 2551 เลยทีเดียว อยากจะบอกว่า เมื่อลดดอกเบี้ยนโยบายแล้ว ทั้ง กนง.และ ธปท.ควรหันมาใส่ใจให้มากๆ ในเรื่องของส่วนต่างดอกเบี้ยบ้างก็น่าจะดี เพราะไม่อย่างนั้นไม่ว่าจะลดดอกเบี้ยจนถึงขั้นติดลบก็ไม่ช่วยอะไรหรอกจ้ะ หากส่วนต่างยังสูงปรี๊ดขนาดนี้ ...๐

...ท.ศักดิ์