ฮื่ออ์อ์อ์...ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า เมื่อไหร่ถึงจะได้ฤกษ์ ได้เวลา สำหรับการเลือกตั้งถิ่น อย่าง เลือกผู้ว่าฯ กทม. ซะที เห็นข่าวว่าท่านนายกฯ บิ๊กตู่ ท่านบอกว่า ได้สั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการแล้ว แต่จะมีความหมายว่าเมื่อไหร่ ตอนไหน ก็คงต้องเดาๆ กันเอาเอง โดยเท่าที่ฟังเขาเดาๆ เห็นว่าน่าจะปีหน้า แต่จะกลางปี ปลายปี ก็ยังสรุปลำบาก...
--------------------------------------------------
แต่ก็นั่นแหละ...อย่างน้อยก็น่าจะพอช่วยๆ ให้เกิดการผ่อนคลายบรรยากาศ จากกระแสความเป็นไปทางการเมืองในช่วงหลังๆ นี้ ที่ออกจะเป็นอะไรที่ จืดสนิทติดทนนาน พอๆ กับน้ำล้างศีรษะ ท่านขุนน้อย (น้ำล้างหัวล้าน) ได้มั่ง เพราะสภาวะการโรมรันพันตูทางการเมือง ไม่ว่าจะโดยซีกฝ่ายค้าน หรือฝ่ายรัฐบาล คงต้องยอมรับว่า...มันออกไปทางคล้ายๆ บรรดาพวกแฟนบอลประเภทชอบ ลุ้นผีแดง แมนฯ ยูฯ อะไรทำนองนั้น คือออกจะกร่อยแล้ว กร่อยอีก ทั้งฝืด ทั้งฟ่าม ไปด้วยกันทั้งสองฝ่ายนั่นแหละ...
-------------------------------------------------
การที่พอได้มีโอกาส...ได้ลุ้น ได้เชียร์ ผู้ที่จะอาสาสมัครเข้ามาเป็นผู้ว่าฯ กทม. ไม่ว่าจะเป็นชายผู้กล้ามใหญ่ที่สุดในปฐพี ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ หญิงเหล็กผู้ผ่านศึกเหนือ เสือใต้ ผู้สามารถทวงคืนสมบัติของชาติกลับคืนมาให้ประชาชน อย่าง รสนา โตสิตระกูล หรือชายผู้โด่งดังในอเมริกาแต่ดันมาตกอับในเมืองไทย อย่าง ทอม เครือโสภณ ฯลฯ อะไรต่อมิอะไรเหล่านี้ อย่างน้อย...ก็อาจพอช่วยสร้างอารมณ์แบบแฟนบอลประเภทที่ชอบ ลุ้นหงส์ลิ้วพรุน (ลิเวอร์พูล) ได้มั่ง คืออย่างน้อยก็พอได้ซี้ดๆ ซ้าดๆ เอาไว้ก่อน ส่วนจะจบฤดูกาลในแบบไหน แนวไหนนั้น คงต้องค่อยไปว่ากันอีกที...
--------------------------------------------------
ไม่งั้น...การต้องมาลุ้น บิ๊กตู่ บิ๊กป้อม บิ๊กป๊อก ไม่ก็ต้องหันไปลุ้น ธนาธร ปิยบุตร เสรีพิศุทธ์ ฯลฯ หรืออาจเตลิดเปิดเปิงไปถึงขั้นต้องหันไปลุ้น เต้-มงคลกิตติ์ เอาเลยถึงขั้นนั้น สู้หันไปดู บอลวัด น่าจะเข้าท่ากว่าเป็นไหนๆ คือถึงจะ เล่นแรง มีทั้งเสียบขาหน้า ขาหลัง ดึงเสื้อ สับศอก ถ่มถุย เอาหัวโขก สารพัด แต่โดยคุณภาพแล้ว...ก็น่าจะจัดไปทางประเภทบอลหลังวัดซะเป็นหลักใหญ่ ไม่ได้มีชั้น มีเชิง ไม่ได้แสดงออกถึงศิลปะ ความสามารถ ในการออกบอล จ่ายบอล การประสานงานกันในทีม ชนิดสามารถขึ้นลงกันเป็นแผงๆ พร้อมที่จะสกัดกั้นและพร้อมจะตอบโต้แบบเคาน์เตอร์ แอตแทก ได้แบบตื่นตะลึงไปทั้งสนาม...
-----------------------------------------------
และโดยที่บรรยากาศความเป็นไปทางการเมือง มันออกไปทางกร่อยๆ หรือจืดสนิทติดทนนาน ยิ่งขึ้นเรื่อยๆ อันนี้..ต้องเรียกว่าไม่น่าจะเป็นผลดีมากมายซักเท่าไหร่ เพราะมันไม่ถึงกับสามารถเรียกได้ว่าเป็น ความสงบเรียบร้อย ตามมาตรฐานที่ใครต่อใครอยากจะให้เป็นไปเช่นนั้น คือแม้ว่าโดยผิวหน้ามันจะออกไปทาง สงบเงียบหงอย ก็จริงอยู่ แต่ลึกๆ ลงไปกว่านั้น มันออกจะเป็นอะไรที่อึมครึม เชี่ยวกราก แกว่งไป-แกว่งมา สวิงไป-สวิงมา อยู่ไม่น้อย อันอาจนำไปสู่ ความเบื่อหน่าย ในแนวเดียวกับที่อดีตนักเขียนรางวัลโนเบลชาวเยอรมัน นาย ไฮน์ริช เบิลล์ หรือ โบลล์ ก็แล้วแต่จะเรียก แกสรุปเอาไว้ทำนองว่า การปฏิวัติมีพื้นฐานมาจากความเบื่อหน่าย อะไรประมาณนั้น...
-------------------------------------------------
การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ซึ่งอาจไม่ได้เกี่ยวกับความเป็น ฝ่ายค้าน หรือ ฝ่ายรัฐบาล โดยตรงซักเท่าไหร่นัก และเผลอๆ อาจก่อให้เกิดฝ่ายกลางๆ ฝ่ายมัชฌิมาปฏิปทา ที่ไม่คิดจะสวิงไป-สวิงมาในด้านหนึ่ง ด้านใด ไม่ได้คิดจะแหกทวารดมเพื่อสูดกลิ่นมาดามหอมชื่นใจ ฝ่ายรัฐบาล ไม่ได้โกรธ เกลียด เคียดแค้น อาฆาตพยาบาททหาร เผด็จการ จนกลายสภาพเป็น ฝ่ายแค้น เอาง่ายๆ จึงอาจถือเป็น รูระบาย หรือช่องทางระบายลมผ่าน ที่อาจช่วยให้สถานการณ์บ้านเมืองโดยรวม มันไม่เกิดอาการท้องเฟ้อ เรอเปรี้ยว ได้มั่งไม่มากก็น้อย...
-------------------------------------------------
หรืออาจพอช่วยให้ประชาธิปไตยแบบไทยๆ หรือ ประชาธิปไตยแบบไฮบริด มันไม่ถึงกับต้องกลายเป็นโรคบิด หรือโรคลำไส้ ไปก่อนกำหนดการ ยังพอออกขวา-ออกซ้าย ลดแรงปะทะจากสิ่งที่มันแกว่งไป-แกว่งมา สวิงไป-สวิงมา ไม่ต่างไปจากกระแส คลื่นใต้น้ำ ที่นับวันจะเชี่ยวกราก ไหลเร็ว ไหลแรง ไปตามความอึมครึมของแต่ละฉากสถานการณ์ ช่วยลดอาการเหวี่ยงซ้าย-เหวี่ยงขวาของลูกตุ้มนาฬิกา ให้มันออกไปทางกลางๆ แม้แต่เล็กๆ น้อยๆ ก็ยังดี...
------------------------------------------------
ด้วยเหตุนี้นี่เอง...เลยต้องชักสะพานแหงนเถ่อรอคอยการเลือกตั้งท้องถิ่น เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. แบบชนิดใจจด ใจจ่อ เป็นอย่างยิ่ง เพราะเอาเข้าจริงๆ แล้ว...การเลือกตั้งที่ว่านี้มันคงไม่ใช่เป็นแค่ การเมืองท้องถิ่น แต่เพียงล้วนๆ โดยเฉพาะถ้าหากมันพอได้ช่วยให้เกิดการเปลี่ยนบรรยากาศ เกิดช่องทางระบาย ความน่าอึดอัด น่าเบื่อหน่าย ของ การเมืองระดับชาติ ได้มั่ง ก่อนที่มันจะเกิดการสั่งสมสิ่งที่ถือเป็น พื้นฐานแห่งการปฏิวัติ มากมายเกินไปกว่านี้...
----------------------------------------------
ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Victor Hugo (อีกครั้ง)... “An invasion of armies can be resisted, but not an idea whose time has come. - การบุกรุกของกองทัพนั้น สามารถต้านทานได้ แต่การบุกรุกของความคิด เมื่อเวลามาถึง ไม่มีใครอาจต้านทานได้...”
-----------------------------------------------
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |