เผยกองทัพตุรกีจับกุมพี่สาวของอะบู บากัร อัลบักห์ดาดี อดีตผู้นำไอเอสที่ระเบิดฆ่าตัวตายเมื่อปลายเดือนตุลาคม ได้พร้อมกับสมาชิกในครอบครัวอีกหลายคนและกำลังสอบปากคำรีดเค้นข้อมูล เจ้าหน้าที่ระดับสูงระบุเป็นขุมทรัพย์ข้อมูลวงในไอเอส

    รายงานของสำนักข่าวเอเอฟพี เมื่อวันอังคารที่ 5 พฤศจิกายน 2562 อ้างคำกล่าวของเจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลตุรกีรายหนึ่งที่ขอสงวนนาม ว่ากองกำลังฝ่ายความมั่นคงของตุรกีสามารถจับกุมพี่สาวของบักห์ดาดีได้ระหว่างการบุกจู่โจมใกล้กับเมืองอาซัซภาคตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรียใกล้ชายแดนตุรกี หญิงคนนี้ซึ่งเขาระบุชื่อว่า รัสมิยา อาวัด อายุ 65 ปี ถูกจับพร้อมกับสามี, ลูกสะใภ้ และเด็ก 5 คน

    "เวลานี้ผู้ใหญ่ 3 คนกำลังถูกสอบปากคำ" เจ้าหน้าที่รายเดิมกล่าว พร้อมกับเสริมว่า การจับกุมพี่สาวของอดีตผู้นำกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส/ไอซิส) รายนี้อาจเป็นขุมทรัพย์ข่าวกรองเกี่ยวกับไอเอส สิ่งที่เธอรู้เกี่ยวกับไอเอสอาจช่วยขยายความเข้าใจเกี่ยวกับกลุ่มนี้ได้อย่างมีนัยสำคัญ และอาจช่วยให้จับกุมสมาชิกไอเอสเพิ่มมากขึ้น และยังช่วยให้ตุรกีปกป้องประเทศของตนและประเทศอื่นๆ ในยุโรปจากผู้ก่อการร้ายได้ดีขึ้น

    รามี อับเดล เราะห์มาน ผู้อำนวยการองค์กรสังเกตการณ์สิทธิมนุษยชนซีเรียยืนยันข่าวการจับกุมพี่สาวของบักห์ดาดีเช่นว่า เธอพร้อมด้วยสามี, ลูกสะใภ้ และหลานอีก 5 คน ถูกกองกำลังฝ่ายความมั่นคงของตุรกีจับกุมภายในค่ายแห่งหนึ่งชานเมืองอาซัซเมื่อคืนวันจันทร์ นอกจากนี้ตุรกียังจับกุมชาวอิรักอีก 4 คนไปด้วย แต่ยังไม่ชัดเจนว่าพวกเขาเกี่ยวข้องกับไอเอสหรือไม่

    เมื่อวันที่ 27 ตุลาคมที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศข่าวการเสียชีวิตของผู้นำไอเอสชาวอิรักรายนี้ ระหว่างที่หน่วยรบพิเศษของสหรัฐเปิดปฏิบัติการโจมตีที่ซ่อนของเขาในจังหวัดอิดลิบ ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรียเช้ามืดวันเดียวกันนั้น บักห์ดาดีจุดชนวนระเบิดฆ่าตัวตายเมื่อเขาหนีทหารไปจนมุมในอุโมงค์

    วันพฤหัสบดีที่แล้ว กลุ่มไอเอสออกแถลงการณ์เป็นเสียงบันทึกเผยแพร่ทางออนไลน์ ยืนยันว่า บักห์ดาดีผู้ตั้งตนเป็นกาหลิบแห่งคอลิฟะห์เมื่อปี 2557 เสียชีวิตลงแล้ว พร้อมขู่ว่าจะโจมตีสหรัฐเพื่อล้างแค้น คำแถลงประกาศด้วยว่าไอเอสได้แต่งตั้งอะบู อิบราฮิม อัลฮาเชมี อัลกูเรชี เป็นผู้นำคนใหม่

    หนึ่งวันภายหลังบักห์ดาดีเสียชีวิต ทางการตุรกีกล่าวว่า หน่วยข่าวกรองและกองทัพของตุรกีมีการติดต่อสื่อสารกับหน่วยข่าวกรองและกองทัพสหรัฐอย่างเข้มข้นในคืนปฏิบัติการ

    ช่วงแรกเริ่มของสถานการณ์ขัดแย้งในซีเรียเมื่อปี 2554 ตุรกีเคยถูกครหาว่าเปิดทางสะดวกให้พวกนักรบญิฮาดข้ามชายแดนเข้าซีเรีย เมื่อไอเอสกล้าแกร่งและก่อเหตุโจมตีในตุรกีหลายครั้ง ตุรกีก็เข้าร่วมกองกำลังผสมนานาชาติต่อต้านนักรบญิฮาดในปี 2558 กระทั่งคอลิฟะห์ของไอเอสล่มสลายเมื่อต้นปีนี้

    วันที่ 9 ตุลาคม ตุรกีเปิดปฏิบัติการรุกโจมตีข้ามชายแดนซีเรีย อ้างว่าเพื่อปราบปรามนักรบเคิร์ดกลุ่มวายพีจีที่เป็นกำลังหลักของกองกำลังชาวเคิร์ดที่โค่นล้มไอเอส พฤติการณ์ของตุรกีถูกตำหนิว่าบั่นทอนการต่อสู้เพื่อกำจัดสมาชิกไอเอสที่ยังหลงเหลือ

    ปฏิบัติการรุกของตุรกีครั้งนั้นเกิดภายหลังทรัมป์ประกาศถอนทหารอเมริกันหลายสิบนายพ้นที่มั่นบริเวณชายแดนซีเรีย โดยอ้างว่าเพื่อความปลอดภัยของทหารก่อนที่ตุรกีจะเปิดฉากบุก เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐเผยกับเอเอฟพีเมื่อวันจันทร์ว่า แม้จะถอนทหารจากชายแดนตอนเหนือของซีเรีย แต่จำนวนทหารอเมริกันในซีเรียยังคงเท่าเดิมที่เกือบๆ 1,000 นาย โดยส่วนใหญ่ทำหน้าที่คุ้มกันบ่อน้ำมันในจังหวัดดาอีร์เอซซอร์ พื้นที่ของชาวเคิร์ดทางตะวันออกของซีเรีย.