พลาสติก ความที่ใช้งานสะดวกง่าย ทำให้เป็นที่นิยมใช้อย่างแพร่หลาย ทั้งร้านค้า ครัวเรือน รวมถึงอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในปัจจุปันล้วนทำจากพลาสติกทั้งสิ้น โดยเฉพาะถุงพลาสติกที่ใช้กันอย่างแพร่หลายทั้งภาคครัวเรือน และภาคอุตสาหกรรม ทำให้พลาสติกกลายเป็นขยะที่ถูกทิ้งเกลื่อนกลาดในทุกๆ วันทั่วโลก โดยเฉลี่ยถุงพลาสติกจะเป็นขยะที่มีปริมาณมากที่สุด รองลงมาจะเป็นหลอดเครื่องดื่ม ฝาพลาสติก และภาชนะบรรจุอาหาร ซึ่งจากปัญหาขยะพลาสติกล้นโลก
แม้ว่าพลาสติกที่ใช้แล้วและถูกทิ้งเป็นขยะพลาสติก ส่วนหนึ่งถูกนำกลับมาใช้อีกโดยในลักษณะต่างๆ กัน และอีกส่วนหนึ่ง ถูกนำไปกำจัดทิ้ง โดยวิธีการต่างๆ การนำขยะพลาสติกไปกำจัดทิ้ง โดยการฝังกลบ เป็นวิธีที่สะดวก แต่มีผลเสียต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้เพราะโดยธรรมชาติพลาสติกถูกย่อยสลายได้ยาก จึงทับถมอยู่ในดิน และนับวันยิ่งมีปริมาณมากขึ้น ตามปริมาณการใช้พลาสติก
จะเห็นได้จากผลการสำรวจของสถาบันพลาสติก พบภาคอุตสาหกรรมไทยผลิตเม็ดพลาสติก 5.5 ล้านตันต่อปี เพื่อนำไปผลิตพลาสติกบรรจุภัณฑ์ (Packaging) โดยปี 2561 พบผลิตพลาสติกบรรจุภัณฑ์ (Packaging) ประมาณ 2 ล้านตันต่อปี ซึ่งเป็นการผลิตถุงพลาสติกทุกชนิดประมาณ 1.1 ล้านตันต่อปี แต่นำมารีไซเคิลได้เพียง 5% เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่ยังแยกขยะไม่ถูกวิธี โดยเฉพาะถุงพลาสติก
ทำให้เกิดปัญหาขยะพลาสติกเกิดขึ้นทั้งบนดินและในน้ำ กลายเป็นขยะที่สะสมจนเกิดอันตรายกับสิ่งมีชีวิต จะเห็นได้จากที่ผ่านมานั้นเรามักจะพบเห็นสัตว์น้ำ สัตว์ทะเลหลากหลายชนิด มักตายด้วยถุงพลาสติก เพราะมันคิดว่าเป็นอาหารจึงกินเข้าไป เหมือนกับเหตุการณ์ที่ทำให้คนเสียใจกันทั้งประเทศ คือเหตุการณ์มาเรียม พะยูนตัวน้อยตาย เพราะกินพลาสติกเข้าไป
ดังนั้น โดยรวมแล้วพลาสติกอาจก่อให้ผลกระทบต่อ... สิ่งแวดล้อม มลภาวะเกิดเป็นพิษ ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน อันตรายต่อสัตว์และสิ่งมีชีวิตอื่นๆ และยังทำให้เกิดการอุดตันตามท่อระบายน้ำ และอีกหลายๆ สาเหตุที่เกิดขึ้น เพราะต้องใช้เวลานานถึง 450 ปีจึงย่อยสลายพลาสติกได้
สำหรับประเทศไทย ถือเป็นเรื่องที่น่าใจหายมากๆ ซึ่งในแต่ละปีจะพบว่าคนไทยสร้างขยะพลาสติกและโฟมมีมากถึง 2.7 ล้านตันต่อปี หรือเฉลี่ย 7,000 ตันต่อวัน ทำให้ไทยติดอันดับที่ 6 ของประเทศที่มีขยะพลาสติกมากที่สุดในโลก
จากปัญหาที่เกิดขึ้นนั้น ทำให้ภาครัฐและเอกชนรณรงค์ลดการใช้ถุงพลาสติก โดยเริ่มจากการงดแจกถุงพลาสติกเป็นบางวันให้กับลูกค้าที่ใช้บริการในห้างสรรพสินค้าหลายแห่ง ซึ่งเริ่มดำเนินการมาประมาณ 1 ปีแล้ว ล่าสุดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) โดยกรมส่งเสริมคุณภาพและสิ่งแวดล้อม ที่เชิญผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้ารายใหญ่ ทั้งค้าส่ง ค้าปลีก และร้านสะดวกซื้อมาประชุมร่วมกันเมื่อวันที่ 6 ก.ย.2562 โดยมี รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วราวุธ ศิลปอาชา เป็นประธานร่วมรับฟังความคืบหน้าและข้อเสนอจากภาคเอกชนด้วย
จากผลการประชุมดังกล่าว ได้ข้อสรุปว่าภาคเอกชนรายใหญ่ของประเทศไทยกว่า 43 บริษัท ทั้งห้างสรรพสินค้าและร้านค้าสะดวกซื้อรายใหญ่ เพื่อขอความร่วมมือหยุดจ่ายและจำหน่ายถุงพลาสติกในประเทศ คาดว่าจะเริ่มได้ทันทีในวันที่ 1 มกราคม 2563 แต่ยกเว้นถุงใส่ของร้อนที่ยังผ่อนผันให้อยู่ คาดว่าจะสามารถลดปริมาณขยะพลาสติกในประเทศลงได้จำนวนมาก
พร้อมทั้งตั้งเป้าหมายให้ประเทศไทยปลอดถุงพลาสติกทั้งหมดภายในปี 2564 เนื่องจากปัจจุบันนี้ภาคอุตสาหกรรมหันมาทำเศรษฐกิจหมุนเวียนในภาคบรรจุภัณฑ์มากขึ้น เริ่มตั้งแต่การออกแบบและผลิตบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งส่งเสริมให้รีไซเคิลอย่างครบวงจร ใช้สินค้าจากการรีไซเคิล ให้คัดแยกและรวบรวมวัสดุรีไซเคิล
อย่างไรก็ตาม จากเป้าหมายของรัฐบาลนั้น ขณะนี้มีผู้ประกอบการห้างร้านหลายรายร่วมมืองดถุงพลาสติก อาทิ เซเว่นอีเลฟเว่น เริ่มแคมเปญรณรงค์ลดใช้ถุงพลาสติกเดือนกรกฎาคม 2561 จนถึงวันที่ 5 ก.ย.2562 พบว่าเซเว่นฯ ที่มีกว่า 11,000 สาขา มีลูกค้างดรับถุงพลาสติก 663 ล้านใบ ตั้งเป้าสิ้นปี 62 ไม่รับถุงแตะ 1,000 ล้านใบ, “แม็คโคร” ดึงผู้ประกอบการ 3 ล้านราย ร่วมลด-เลิกใช้โฟม นอกจากนี้ยังมีโลตัส, บิ๊กซี, ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล
ต้องยอมรับว่าปัญหาเรื่องขยะพลายสติกนั้นพูดกันมานาน แต่ก็ยังไม่สามารถที่จะแก้ไขปัญหาได้ เพราะพฤติกรรมในชีวิตประจำวันไม่เปลี่ยน ขยะพลาสติกที่อยู่บนถนนกลายไปเป็นขยะในน้ำ ขยะในทะเล ก็ยังมีเหมือนเดิม จนส่งผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมทั้งบน อากาศ ในดิน ในน้ำ ดังนั้นคงต้องกลับมาคิดกันว่า ขณะนี้ถึงเวลาแล้วที่การใช้ชีวิตประจำวันของคนไทยจะต้องเปลี่ยนไป คัดแยกขยะ ทิ้งให้ลงถัง
และง่ายๆ เพียงแค่ลดการใช้ถุงพลาสติก ไม่ใช้ภาชนะบรรจุภัณฑ์ประเภทกล่องโฟม และหันมาใช้วัสดุที่ทำมาจากวัสดุทางธรรมชาติแทน ช่วยเซฟโลกและสิ่งมีชีวิตได้อีกหลายชีวิตเลยทีเดียว....... 1 ม.ค.63 เลิกใช้ถุงพลาสติก.
บุญช่วย ค้ายาดี
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |