โวยนิติสงครามทำลายศัตรู


เพิ่มเพื่อน    

 อนาคตใหม่ดิ้นปั่นกระแส "อยู่ไม่เป็น" นัดสาวก 16 พ.ย.ก่อนศาล รธน.ชี้ชะตา "ธนาธร" 4 วัน "ช่อ" พ้อ อนค.ไม่ถนัดเอาตัวรอด "ปิยบุตร" โวยใช้ กม.-กระบวนการยุติธรรมทำลายล้างศัตรูการเมือง พปชร.ตอกกลับเลิกสร้างกระแสผู้มีอำนาจกลั่นแกล้ง

    ภายหลังเพจเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ของพรรคอนาคตใหม่ได้โพสต์ข้อความเมื่อวันที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมา  ระบุว่า "16 พฤศจิกายน รอฟังรายละเอียดเพิ่มเติมในเร็ววันนี้ #อยู่ไม่เป็น" พร้อมเปลี่ยนภาพพื้นหลังเป็นสีดำ มีข้อความสีขาวว่า "อยู่ไม่เป็น" 16 พ.ย.62 โดยหลังจากนั้นนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ได้โพสต์เฟซบุ๊กและทวีตภาพดังกล่าวเช่นกัน จนกลายเป็นประเด็นร้อนแรงทางการเมือง และแฮชแท็กดังกล่าวได้ขึ้นอันดับ 1 ในทวิตเตอร์นั้น
    เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ ได้ติดแฮชแท็ก #อยู่ไม่เป็น  พร้อมทวีตข้อความว่า "#อนาคตใหม่ ไม่ถนัดเอาตัวรอด ไม่เชี่ยวชาญหมากล้อมเก็บแต้มการเมือง เรารู้แต่ว่าเราสร้างพรรคเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศไทย ให้คนไทยเท่าเทียมกัน พาประเทศไทยเท่าทันโลก  ยุติรัฐประหารซ้ำซาก ถ้าไม่ทำทั้งหมดนี้ก็ไม่จำเป็นต้องมีอนาคตใหม่ #อยู่ไม่เป็น 16 พ.ย.นี้เจอกันค่ะ"
    นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในหัวข้อ "จาก Warfare สู่ Lawfare" ว่า Lawfare เป็นการนำคำว่า "Law" มาผสมกับคำว่า "-fare" และล้อไปกับคำว่า  "Warfare" ซึ่งหมายถึง "การสงคราม" ดังนั้น "Lawfare" จึงแปลได้ว่า "นิติสงคราม" หรือ "สงครามทางกฎหมาย" Lawfare คือ การนำกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมมาใช้เป็นเครื่องมือในทางการเมือง มีเป้าประสงค์ในทางการเมือง เพื่อปราบปรามศัตรูทางการเมืองหรือฝ่ายตรงข้าม Warfare ใช้อาวุธยุทโธปกรณ์ประหัตประหารห้ำหั่นกันเพื่อเอาชนะสงคราม แต่ Lawfare ใช้ "กฎหมาย" เป็นอาวุธ
    Lawfare เป็นแนวโน้มใหม่ของโลก หลายประเทศนำมาใช้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในลาตินอเมริกา  Lawfare ทำงานโดยอาศัยการผสมผสานกันระหว่าง "ศาล" และ "สื่อ" หนึ่งคือ นำประเด็นทางการเมืองไปอยู่ในมือศาล อีกหนึ่งคือ นำคดีการเมืองในศาลไปอยู่ในมือสื่อ
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีการสอบถาม ส.ส.อนาคตใหม่ถึงแฮชแท็กดังกล่าว แต่ได้รับคำตอบเพียงว่าให้รอฟังวันที่ 16 พ.ย. ในขณะที่วันที่ 20 พ.ย. ศาลรัฐธรรมนูญได้นัดฟังคำวินิจฉัยคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้วินิจฉัยสมาชิกภาพการเป็น ส.ส.ของนายธนาธรว่าสิ้นสุดลงหรือไม่ จากกรณีการถือครองหุ้นในธุรกิจสื่อ บริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด 
    พล.ท.พงศกร รอดชมภู รองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) โพสต์ผ่านเฟชบุ๊กตอนหนึ่งว่า อุดมการณ์ทางการเมืองของพรรคอนาคตใหม่คือ Social Democrat เป็นแนวทางแบบในยุโรป ซึ่งประเทศที่ใช้แนวทางนี้คือกลุ่มสแกนดิเนเวีย ประเทศในกลุ่มนี้ใช้การปกครองแบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขทั้งสิ้น ชื่อไทยๆ ว่าสังคมนิยมประชาธิปไตยนี้ความหมายคือ ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย นั่นคือหลักประกันในเสรีภาพทางการเมือง แต่ขณะเดียวกันในทางเศรษฐกิจต้องคำนึงถึงส่วนรวมหรือสังคม ไม่ว่าจะเฉพาะในพรรค หรือสังคมทั้งในและนอกประเทศควบคู่กันไปเสมอ  ดังนั้นสมาชิกพรรคและนักการเมืองในพรรคอนาคตใหม่จึงพึงคิดถึงเพื่อนร่วมอุดมการณ์และสังคมส่วนรวมมากกว่าผลประโยชน์ส่วนตนเสมอ ถ้าใครที่จะสมัครเข้ามาเป็นสมาชิกพรรค แล้วคิดว่าเสรีภาพส่วนตนเหนือกว่าส่วนรวมและเพื่อนร่วมอุดมการณ์ ก็สามารถเลือกไปเป็นสมาชิกพรรคการเมืองที่มีอุดมการณ์ไปในแนวทางเดียวกันกับตนเองน่าจะเหมาะกว่า
    ทางด้าน น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม.และรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีนายปิยบุตรออกมาตั้งคำถามต่อสังคมที่เชื่อว่า นายธนาธร ตัวนายปิยบุตร รวมทั้งพรรคอนาคตใหม่กระทำความผิดฝ่าฝืนกฎหมายจริงและต้องรับโทษ หรือผู้มีอำนาจมองว่าเป็นอันตราย ตัดสินจากเหตุผลใดนั้นว่า ข้อเท็จจริงที่ว่านายธนาธรและนายปิยบุตรทำผิดจริงหรือไม่ กระจกที่ส่องอยู่ในใจคงจะสะท้อนออกมาได้ และถ้าอยากให้ประชาชนรับรู้และเข้าใจความจริงที่อยู่ในใจ ควรจะให้ข้อมูลตอบคำถามพิสูจน์ตนเองให้ชัดเจน เช่นในวันไต่สวนคดีของศาลรัฐธรรมนูญตามกระบวนการยุติธรรมนี้ นายธนาธรมีสิทธิ์เต็มที่ที่จะให้การนำสืบพยานหลักฐาน ให้ถ้อยคำเพื่อพิสูจน์ในปัญหาข้อเท็จจริงต่างๆ แต่กลับไปให้การตอบคำถามในหลายประเด็นเพียงว่าจำไม่ได้ ทั้งๆ ที่ศาลได้ให้เวลาเตรียมตัวและนายธนาธรเองเป็นผู้เรียกร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญทำการไต่สวนมาโดยตลอด
     นอกจากนี้อยากถามเจตนาที่แท้จริงในการตั้งคำถามของนายปิยบุตร เพราะประชาชนไม่แน่ใจว่านายปิยบุตรต้องการคำตอบหรือต้องการสร้างกระแสต่อสังคม ว่าความผิดต่างๆ ของนายธนาธรและนายปิยบุตรเกิดจากผู้มีอำนาจมองว่าทั้งสองคนนี้เป็นอันตราย หากนายปิยบุตรมีเจตนาเพียงสร้างกระแสก็ขอให้เลิกทำเสีย 
    ที่ห้องพิจารณา 805 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ คดีหมายเลขดำ อ.1729/2562 ที่พรรคเสรีรวมไทย โดย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ เป็นจำเลย ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา  มาตรา 326, 328
     กรณีเมื่อวันที่ 13 พ.ค.62 จำเลยแถลงข่าวว่า "การต่อสู้ทางการเมืองครั้งนี้อาจมองในแง่หนึ่งได้ว่า เป็นการต่อสู้ระหว่างฝ่ายเอาสถาบันกับไม่เอาสถาบัน ดังนั้นสมาชิกพรรคของเราจะมีมติให้เราเลือกข้างที่รักษาสถาบัน โดยพรรคพลังธรรมใหม่จึงต้องประกาศจุดยืนตามเสียงข้างมากของสมาชิกพรรคทั่วประเทศที่จะเข้าร่วมกับพรรคพลังประชารัฐในการจัดตั้งรัฐบาล" หมายความว่า เหตุที่จำเลยและสมาชิกพรรคของจำเลยไม่เข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับโจทก์และพรรคการเมืองอื่นๆ รวม 7 พรรค แต่ไปเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ ทำให้ประชาชนทั่วไปในสังคมเข้าใจว่าโจทก์เป็นพรรคการเมืองที่ไม่เอาสถาบัน เพราะความจริงแล้วโจทก์และสมาชิกพรรคทุกคนมีความจงรักภักดีเทิดทูนต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
     วันนี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ โจทก์ไม่ได้เดินทางมาศาล โดยมอบหมายผู้รับมอบอำนาจโจทก์เดินทางมาเป็นพยานขึ้นเบิกความต่อศาล พร้อมทีมทนายความ ส่วน นพ.ระวี จำเลย ไม่ได้เดินทางมาศาลเช่นกัน เนื่องจากเป็นการนัดไต่สวนมูลฟ้อง จำเลยไม่จำเป็นต้องเดินทางมาศาล โดยได้มอบหมายให้ทีมทนายความเดินทางมาร่วมกระบวนการพิจารณาและร่วมซักค้านพยานโจทก์
     เมื่อศาลออกนั่งบัลลังก์ ได้ทำการไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ โดยผู้รับมอบอำนาจโจทก์เป็นพยานขึ้นเบิกความและตอบคำถามซักค้านทนายความจำเลย จำนวน 1 ปาก พยานยืนยันว่าไม่มีพรรคการเมืองใดประกาศไม่เอาสถาบัน หลังการไต่สวนเสร็จสิ้นแล้ว ศาลได้นัดฟังคำสั่งว่าคดีมีมูลตามฟ้องหรือไม่ในวันที่ 11 ธ.ค.นี้ เวลา 10.00 น. ทั้งนี้ ทนายความโจทก์และทนายความจำเลยยังได้พูดคุยกันถึงแนวทางไกล่เกลี่ยด้วย
     ภายหลังเสร็จสิ้น นายอำนวย เซลามัน หัวหน้าฝ่ายกฎหมายและกรรมการบริหารพรรคพลังธรรมใหม่ ในฐานะทนายความจำเลย เปิดเผยว่า ทนายโจทก์และทนายจำเลยได้พูดคุยกัน ทนายโจทก์แถลงว่าอยากให้จำเลยยืนยันว่าข้อความที่โจทก์นำมาฟ้องเป็นคดีนี้ ไม่ได้แถลงพาดพิงไปถึงโจทก์ ซึ่งจำเลยยืนยันว่าไม่ได้แถลงพาดพิงไปถึงพรรคเสรีรวมไทย หรือ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ศาลได้ให้โจทก์กับจำเลยไปพูดคุยปรับความเข้าใจกัน จำเลยยินดีที่จะแถลงว่าไม่ได้พาดพิง ซึ่งจะไปเรียนหัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ หากพูดคุยกันแล้วเข้าใจกันได้ น่าจะยุติคดีได้.
 
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"