เค้นสอบแม่มณีหลังปูดข้อมูล "เฮียกู้" นายทุนใหญ่มีเอี่ยว ตำรวจคุ้มกันเข้มระหว่างคุมตัวฝากขัง ขณะที่สองผู้ต้องหาตัดสินใจไม่ยื่นประกัน ถูกส่งเข้าเรือนจำอุดรทันที แชร์ใหม่โผล่ที่สุพรรณบุรี เหยื่อทยอยแจ้งความ
ห้วงวันจันทร์ที่ผ่านมา มีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจในคดีแชร์แม่มณี ที่ สภ.เมืองอุดรธานี โดยในช่วงเช้า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดอุดรธานีได้นำตัว น.ส.วันทนีย์ ทิพย์ประเวช อายุ 30 ปี และนายเมธี ชิณภา อายุ 20 ปี สามี ไปยัง กก.สส.ภ.อุดรธานี เพื่อทำการสอบปากคำเพื่อเติม โดยปิดประตูล็อกห้องไม่อนุญาตสื่อมวลชนเข้าถ่ายภาพและรับฟัง มีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนยืนคุมประตูทางเข้าและทางออกอย่างหนาแน่น
มีรายงานว่า การสอบปากคำเพิ่มเติมครั้งนี้ ตำรวจได้สอบเรื่องเส้นทางการเงินและเครือข่ายว่ามีใครเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างไรบ้าง โดยก่อนหน้านี้มีข่าวว่า “เฮียกู้” นายทุนใหญ่ใน จ.อุดรธานี มีส่วนพัวพันกับแชร์แม่มณี
จากนั้นเวลา 09.30 น. กำลังตำรวจสายตรวจ 191 จำนวน 30 นาย พร้อมกับตำรวจชุดสืบสวนตั้งแถวคุ้มกันผู้ต้องหาทั้งสองคน ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาทั้งสองขึ้นรถไปฝากขังที่ศาลจังหวัดอุดรธานี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะผู้ต้องหาทั้งสองเดินออกจากห้องสืบสวน สังเกตได้ว่ามีสีหน้าเคร่งเครียด แตกต่างจากวันก่อน ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม น.ส.วันทนีย์ ว่าอยากจะพูดอะไรบ้างไหม ทั้งสองคนได้แต่ก้มหน้าขึ้นรถตู้ไปโดยไม่กล่าวอะไร
ทนายความของ น.ส.วันทนีย์แจ้งว่า การประกันตัวคงไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะไม่มีหลักทรัพย์มาประกันตัวเนื่องจากโดนยึดอายัดไว้หมดแล้ว
มีรายงานว่า ตำรวจชุดจับกุมได้ควบคุมตัวผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด 4 คน ประกอบด้วย พ่อ ลูกน้อง อดีตทหารเรือ และป้าเจ้าของร้านทำผม ที่มีส่วนช่วยเหลือพา น.ส.วันทนีย์และนายเมธีหลบหนี โดยทาง ภ.จว.อุดรธานีอยู่ระหว่างพิจารณาพยานหลักฐานการกระทำผิด จากการสอบสวน น.ส.วันทนีย์รับว่า อดีตทหารเรือซึ่งรู้จักกับพ่อของตน ช่วยพาหลบหนีโดยเป็นคนให้ที่พัก แนะนำให้ปิดโทรศัพท์มือถือ และปิดบัญชีธนาคาร ส่วนทรัพย์สินของตนขณะนี้มีเพียงบ้านพักในซอยนาคนิวาส 41 มูลค่า 30 ล้านบาท ที่เพิ่งซื้อได้เพียง 6 เดือน บ้านอีกหลังอยู่ในซอยสตรีวิทยา 2 ซอย 10 และมีอาคารพาณิชย์ที่ จ.อุดรธานี อีก 2 แห่ง ส่วนเงินสดไม่มีเพราะถูกอายัดบัญชีไปก่อน
สำหรับการยื่นฝากขัง น.ส.วันทนีย์และนายเมธี ที่ศาลจังหวัดอุดรธานี ทางพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีที่มีผู้เสียหายเป็นจำนวนมาก และมูลค่าความเสียหายสูง ขณะที่ผู้ต้องหาทั้งสองก็ได้ตัดสินใจไม่ขอประกันตัว เนื่องจากถ้าประกันตัวออกไป อีกไม่กี่วันก็ถูกพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ดำเนินคดีอยู่ดี เนื่องจากได้รับเป็นคดีพิเศษแล้ว ศาลพิจารณาแล้ว อนุญาตให้ฝากขังได้ เจ้าหน้าที่จึงนำตัวทั้งสองคนส่งเข้าเรือนจำจังหวัดอุดรธานี
ที่จังหวัดสุพรรณบุรี กลุ่มผู้เสียหายประมาณ 50 ราย เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.อ.สมพร พุกหอม ผกก.สภ.เมืองสุพรรณบุรี ให้ดำเนินคดีกับ น.ส.วิจิตรา คล้ายอุบล อายุ 25 ปี ชาว จ.สุพรรณบุรี ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน ระบุว่าหลอกให้ร่วมลงทุนเงินออมในลักษณะแชร์ลูกโซ่ อ้างว่าได้ผลตอบแทนสูงถึงร้อยละ 60
พ.ต.อ.สมพรกล่าวว่า กลุ่มผู้เสียหายที่มาแจ้งความ เนื่องจากมีการฉ้อโกงประชาชนในลักษณะหลอกลวงลงทุนให้เล่นแชร์และมีผลตอบแทนได้อัตราดอกเบี้ยสูงประมาณ 60-70 เปอร์เซ็นต์ ทำให้มีประชาชนผู้เสียหายจำนวนมาก บางคนก็ได้เงิน บางคนไม่ได้ สุดท้ายผู้ต้องหาคือ น.ส.วิจิตราได้หลบหนีไป กลุ่มผู้เสียหายจึงมีความประสงค์จะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาคือ น.ส.วิจิตรา ซึ่งเป็นเท้าแชร์ โดยหากรวบรวมพยานหลักฐานเสร็จก็จะขออนุมัติออกหมายจับทันที เท่าที่สอบถามไม่น่าจะเกี่ยวหรือเชื่อมโยงกับแชร์แม่มณี เพียงแต่วิธีการคล้ายกันกับแม่มณี และทราบว่ามีผู้เสียหายรวมแล้วนับร้อยราย.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |