ผู้พิทักษ์ป่าออกลาดตระเวนป้องปรามลักลอบตัดไม้และล่าสัตว์ป่าในป่าเขาใหญ่
ในแต่ละวันเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าที่ผืนป่าเขาใหญ่ต้องบุกป่าฝ่าดงออกลาดตระเวน ไม่เพียงแต่รักษาทรัพยากรธรรมชาติ ปราบปรามการกระทำผิดของผู้ลักลอบตัดไม้ทำลายป่าและล่าสัตว์ ยังสำรวจร่องรอยสัตว์ป่าตลอดจนพรรณไม้หายาก ขณะลาดตระเวนต้องเสี่ยงอันตราย บางครั้งเฉียดตายจากการปะทะ หลายครั้งต้องแลกมาด้วยชีวิต
อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่พื้นที่กว่า 1.3 ล้านไร่ ขณะที่มีเจ้าหน้าที่ 460 คน ซึ่งหมายถึงผู้พิทักษ์ป่าต้องทุ่มเทให้กับการออกลาดตระเวนเพื่อให้เดินครอบคลุมทุกตารางนิ้ว เส้นทางลาดตระเวนมีความยากลำบากเดินข้ามเขา ว่ายน้ำข้ามคลอง บนหลังแบกเป้เดินป่าอันหนักอึ้งบรรจุเสบียงในการยังชีพ เพราะต้องใช้ชีวิตในป่าแต่ละครั้ง 5-20 วัน
" การรักษาทรัพยากรธรรมชาติใช้การลาดตระเวนเชิงคุณภาพเพื่อรักษาสมบัติของแผ่นดิน เพื่อย้ำเตือนให้ผู้กระทำผิดเกรงกลัว เพราะมีเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าเฝ้าดูแลตลอด 24 ชั่วโมง ทุกคนมีความพร้อมผ่านการฝึกอบรมลาดตระเวนเชิงคุณภาพ อีกทั้งมีอาวุธป้องกันตัว และอุปกรณ์หรือเทคโนโลยีที่จำเป็นสำหรับผู้พิทักษ์ป่า มีการใช้กล้อง CAPS จับภาพเคลื่อนไหวทั้งสัตว์ป่าไปจนถึงผู้บุกรุกทำลายป่า จากนั้นส่งสัญญาณเข้าศูนย์เครือข่าย นำมาสู่การวิเคราะห์ หากมีผู้ลักลอบทำผิดกฎหมายจะวางแผนลาดตระเวนทันที" ศรุต พิรักษา รักษาการหัวหน้าฝ่ายอนุรักษ์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายอนุรักษ์ทรัพยากร อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ กล่าวถึงภารกิจสำคัญ ผ่านกิจกรรมศึกษาธรรมชาติและสัมผัสชีวิตการทำงานผู้พิทักษ์ป่า ในโครงการ "HANDS FOR HEROES รวมมือเรา เพื่อคนเฝ้าป่า" ปีที่ 2 ที่จัดขึ้น ณ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จ.นครราชสีมา ภายใต้การสนับสนุนของมูลนิธิเอสซีจี
ศรุต พิรักษา รักษาการหัวหน้าฝ่ายอนุรักษ์ อช.เขาใหญ่ บอกเล่าภารกิจสำคัญลาดตระเวนป่า
สูงจากระดับน้ำทะเล 3,700 เมตร คือ พื้นที่ทำงานของผู้พิทักษ์ป่าเขาใหญ่ ศรุตบอกเล่าประสบการณ์ให้ฟังว่า ออกลาดตระเวนทั่วไปใช้เวลาครั้งละ 4 วัน เจ้าหน้าที่จะหาข่าวไปในตัว สำรวจร่องรอยสัตว์ป่าหายาก การทำลายทรัพยากร หากพบรอยเท้าสัตว์ป่าก็เก็บข้อมูลบันทึกพิกัดของพื้นที่ ถ่ายภาพ หรือพบไม้มีค่าก็ทำพิกัด ส่วนลาดตระเวนกรณีพิเศษมีเบาะแสผู้บุกรุก จะส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปสกัดและดักซุ่ม ถ้าโชคไม่ดี จับกุมไม่ได้เร็ววัน ต้องแฝงตัวกางเปลนอนในป่า จนกว่าจะพบผู้กระทำผิด ระหว่างลาดตระเวนต้องสะพายเป้น้ำหนัก 17-20 กิโลกรัมเดินทั้งวัน ถ้าเสบียงหมด ร่างกายอ่อนล้า ต้องสลับเปลี่ยนชุดเจ้าหน้าที่ ถ้าเป็นป่าลึกใช้เวลาเป็นวัน ป่าของเราไม่เคยว่างเว้นเจ้าหน้าที่ การสนับสนุนอุปกรณ์ลาดตระเวนมอบแก่ผู้พิทักษ์ป่าจำเป็นมาก อย่างเขาใหญ่ชุดลาดตระเวนส่วนกลางมี 4 ชุด แต่รอบเขาใหญ่ 28 เขต มี 24 หน่วย กระจายดูแลอยู่ ทุกก้าวเดินอันตราย 4 ปีก่อน มีผู้บุกรุกพื้นที่เข้ามาตัดไม้หอมและไม้พะยูง เกิดการปะทะ เจ้าหน้าที่บาดเจ็บ มีผู้เสียชีวิต อันตรายไม่แพ้กัน คือ กับดักพรานป่า ดักเก้ง ดักกระทิง ถ้าโดนเสียชีวิตได้เลย
นอกจากภารกิจปกป้องป่า ยังสำรวจและบันทึกร่องรอยสัตว์ป่าหายาก
สองปีที่ผ่านมา มูลนิธิเอสซีจีได้จัดทำโครงการ "HANDS FOR HEROES" จัดกิจกรรม Run for Heroes และ Trail for Heroes เพื่อนำรายได้ทั้งหมดจัดซื้ออุปกรณ์ลาดตระเวนเพื่อมอบให้ผู้พิทักษ์ป่าทั่วประเทศ ซึ่งเห็นว่า ผู้พิทักษ์ป่าเป็นกลุ่มคนที่เสียสละทำงานหนักเพื่อปกป้องป่า แต่ยังต้องการสนับสนุนอุปกรณ์ปฏิบติหน้าที่ จึงนำชุดเครื่องแบบลายพราง รองเท้าเดินป่าปกป้องเท้าจากหนามแหลมและสัตว์มีพิษ เป้เดินป่าใช้ยังชีพตลอดการลาดตระเวน กระติกน้ำพกพาแบบกรองน้ำได้ เปลสนามแบบมีมุ้งช่วยให้รอดจากโรคภัยไข้เจ็บ รวมถึงผ้ากันน้ำแห้งเร็วใช้กันแดดกันฝนมอบให้ นอกจากเจ้าหน้าที่ผู้พิทักษ์ป่ามีครอบครัวที่ต้องดูแล จึงมีการมอบทุนการศึกษาแก่บุตรผู้พิทักษ์ป่าในโครงการ "Sharing the Dream Scholarship โดยมูลนิธิเอสซีจี" ปัจจุบันมอบทุนไปแล้วกว่า 500 ทุน ทั้งหมดนี้เป็นการสนับสนุนให้คนเฝ้าป่าทำงานได้ปลอดภัยขึ้นและมีกำลังใจรักษาธรรมชาติ
ภารกิจลาดตระเวนเสี่ยงอันตราย แลกด้วยชีวิต
แม้จะสูญเสียดวงตาหนึ่งข้างจากการประสบอุบัติเหตุระหว่างจับกุมผู้ตัดไม้ แต่ไม่เคยหยุดทำงาน คูณ แต้มทอง หัวหน้าฐานปฏิบัติการเฉพาะกิจบึงไผ่ อุทยานฯ เขาใหญ่ อธิบายถึงหน้าที่ความรับผิดชอบที่ทำมานาน 15 ปี และความเบาใจเมื่อลูกสาว ด.ญ.สุณัฏฐา แต้มทอง ที่ป่วยเป็นโรคธาลัสซีเมีย ได้รับทุนการศึกษาจากทางมูลนิธิเอสซีจีเรียนจนจบปริญญาตรี ว่า เป้าหมายหลักคือเสียสละปกป้องทรัพยากรที่มีคุณค่าของแผ่นดินไม่ให้สูญหายไป และส่งมอบให้แก่คนรุ่นหลัง ฐานปฏิบัติการนี้อยู่กลางป่า มีความอุดมสมบูรณ์ทั้งสัตว์ป่าและพรรณไม้สำคัญ แล้วยังเป็นแหล่งรวมนกเงือก 4 ชนิด จากทั้งหมดกว่า 10 ชนิดของไทย เราพบนกเงือกกรามช้าง นกกก นกแก๊ก และนกเงือกสีน้ำตาลคอขาว เป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ ต้องอนุรักษ์ไว้ ดูแลป่าให้สมบูรณ์ ป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่เป็นแหล่งมรดกโลก เป็นผืนป่าที่สำคัญมีความหลากหลายทางชีวภาพ
" ฐานมีเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า 4 นาย รวมผมด้วย เราทำงานบนพื้นที่ภูเขาสูง ลาดตระเวนทั่ว 4 จังหวัด สระบุรี โคราช ปราจีนฯ และนครนายก ทุกก้าวเต็มไปด้วยอันตราย แต่ไม่ท้อ ขออุทิศชีวิตให้ป่าเขาใหญ่ ถ้าไม่รักษาไว้จะโดนทำลายมากขึ้น ปกติลาดตระเวน 4 คืน 5 วัน ลงมาพัก เจอหน้าลูกและเมีย แล้วก็ต้องกลับขึ้นไปปฏิบัติหน้าที่ใหม่ โชคดีที่ครอบครัวเข้าใจและเป็นกำลังใจให้ ลูกๆ ก็รักธรรมชาติ ซึมซับจากการทำงานของพ่อ น้องแตงกวาลูกสาวได้ทุนหายห่วงไปเยอะ ผมทำงานไกล ก็ห่วง แต่มีหน้าที่ของตัวเอง" คูณกล่าว
เมื่อถามถึงเหตุการณ์ประทับใจในฐานะผู้พิทักษ์ป่า หัวหน้าคนเดิม บอกว่า ได้ช่วยกวางติดบ่วงดักสัตว์นายพราน ตอนนั้นเสียงกวางร้องโหยหวนไปทั่วผืนป่า ขากวางเลือดไหลไม่หยุด ตนช่วยปลดสลิง กวางตัวนั้นหมอบนิ่ง รุ่งเช้ากวางก็กลับเข้าป่าไป เพียงหนึ่งชีวิตที่ช่วยสำคัญมาก อยากดูแลลมหายใจของสัตว์ป่า ไม่อยากให้สูญพันธุ์เหมือนสมัน ฝากทุกคนร่วมมือกันอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ป่าอยู่ได้ คนอยู่ได้ ท้ายสุดอยากขอบคุณทุกการสนับสนุนผู้ดูแลป่า
เชาวลิต เอกบุตร กรรมการบริหารมูลนิธิเอส ซีจี กล่าวถึงการสนับสนุนผ่านโครงการ "Sharing the Dream Scholarship"
ชีวิตผู้พิทักษ์ป่าสำคัญ เชาวลิต เอกบุตร กรรมการบริหารมูลนิธิเอสซีจี กล่าวว่า ผู้พิทักษ์ป่าทั่วประเทศกว่า 20,000 คน มีภาระหน้าที่รับผิดชอบในการปกป้องผืนป่า 102 ล้านไร่ เฉลี่ยแล้วเจ้าหน้าที่หนึ่งคนดูแลพื้นที่กว่า 5,000 ไร่ ภารกิจในการลาดตระเวนก็มีความยากลำบากและเต็มไปด้วยอันตราย เจ้าหน้าที่ส่วนหนึ่งมีลูก แต่ก็ต้องปฏิบัติภารกิจเฝ้าป่า โครงการ "Sharing the Dream Scholarship" ช่วยแบ่งเบาภาระให้ผู้พิทักษ์ป่า สิ่งสำคัญคือ มีกำลังใจปฏิบัติงาน โดยไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง ซึ่งการมอบทุนจะเป็นหลักประกันทางการศึกษาให้แก่ลูกๆ ผู้พิทักษ์ป่า ปีหน้าจะสนับสนุนทุนการศึกษาเพิ่มอีกกว่า 200 ทุน นอกจากนี้ มูลนิธิเอสซีจีเตรียมจัดกิจกรรมวิ่ง "Trail of Heroes" ที่อุทยานแห่งชาติปางสีดา จ.สระแก้ว วันที่ 24 พ.ย.นี้ รายได้จากการดำเนินโครงการจะนำไปจัดซื้ออุปกรณ์ในการลาดตระเวน ก่อนหน้านี้ ทางมูลนิธิได้เคยมอบอุปกรณ์ลาดตระเวนจำนวน 3,635 ชุด มูลค่า 3.7 ล้านบาท แก่ผู้พิทักษ์ป่า อีกทั้งจะขยายความร่วมมือกับกรมอุทยานฯ และพันธมิตรต่างๆ สร้างพลังหนุนผู้พิทักษ์ป่ามากขึ้น
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |