‘ทอน’โชว์กึ๋นแก้เศรษฐกิจยกก้นตัวเองหั่นเงินเดือนช่วงวิกฤตแทนที่ลดเงินพนักงาน!


เพิ่มเพื่อน    

03 พ.ย.2562 -  ที่สำนักงานใหญ่พรรคอนาคตใหม่ ชั้น 5 อาคารไทยซัมมิททาวเวอร์วันนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) กล่าวตอนหนึ่งในการบรรยายพิเศษ "เศรษฐกิจซบเซาและซึมยาว SME ไทยจะรับมืออย่างไร?"ว่า โดยหลักแล้วกำไรของนิติบุคคลเอกชนจะเป็นภาษีให้กับรัฐบาล ทุกกำไร 1 บาทของห้างร้านรัฐบาลชักเข้ากระเป๋า 20 สตางค์ รัฐบาลจะได้ภาษีไปด้วย ดังนั้นรัฐบาลจำเป็นต้องมีมาตรการเพื่อช่วยเหลือให้บริษัทเอกชนและเอสเอ็มอีมีกำไร ในสถานการณ์ที่เจอเศรษฐกิจซบเซาสิ่งที่กระทบหนักสุด คือ ยอดขายของบริษัท เมื่อยอดขายไม่เป็นไปตามเป้า ผลกระทบจะเกิดทันที ดังนั้นสิ่งที่เอกชนต้องทำเป็นอย่างแรก คือ การต้องรู้และเข้าใจตัวเองด้วยการทำแบบจำลองในทางธุรกิจว่าเราจะอยู่จุดไหน เช่น ถ้ายอดขายลดลงเท่าไหรถึงจะขาดทุนผ่านการใส่ต้นทุนแปรผันกับต้นทุนคงที่ เพื่อจะได้รู้ว่าเราจะถึงจุดที่จะต้องลดค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง

“เมื่อครั้งบริษัทของผมเกิดปัญหาก็ดำเนินการลดเงินเดือนผู้บริหารก่อนเพื่อแสดงความรับผิดชอบ ไม่ใช่เริ่มจากลดเงินเดือนของพนักงาน ดังนั้น ในภาวะวิกฤติกำไรขาดทุนเป็นเรื่องรอง แต่สิ่งที่สำคัญ คือ กระแสเงินสด โดยต้องประมาณการณ์การเก็บเงินสดให้มากที่สุด เพื่อให้บริษัทมีเงินสดในการหมุนเวียนทางธุรกิจและสร้างเสถียรภาพในทางธุรกิจ เนื่องจากเวลาเกิดวิกฤติและงบดุลของบริษัทเริ่มติดลบ จะมีโอกาสน้อยที่สถาบันทางการเงินจะปล่อยเงินกู้ให้อีกครั้ง” 

นายธนาธรกล่าวอีกว่า ถ้าถึงคราววิกฤติจริงๆ อย่าเพิ่งปิดกิจการ เพราะหากยังอยากจะสู้ก็สามารถแปรทรัพย์สินเป็นเงินสดมาหมุนเวียนทางธุรกิจ เช่น ที่ดิน เครื่องจักร และดำเนินการเช่าซื้อเพื่อขอให้ได้สิทธิในการซื้อคืนในภายหลัง นอกจากนี้ ถ้าเป็นบริษัทที่เปิดกิจการมานานควรแปรสินค้าคงเหลือมาเป็นเงินสด หรือเก็บเงินจากลูกค้าเร็วขึ้น หรือบอกเจ้าหนี้การค้าของเราขอชำระการชำระหนี้ช้าลง โดยเดินเข้าไปขอกันแบบตรงๆ ซึ่งจะต้องมีการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกันมาก่อนอย่างสม่ำเสมอ ทั้งหมดเป็นการบริหารการเงินขององค์กรในภาวะวิกฤติ

นายธนาธร กล่าวว่า นอกเหนือไปจากการจัดการเงินสดแล้วยังต้องมีการจัดการภายในองค์กรด้วยเพื่อพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส เช่น การเพิ่มทักษะใหม่ๆให้กับพนักงานของบริษัท เนื่องจากเมื่อยอดขายลดลงแล้วย่อมเท่ากับว่าเวลาการทำงานย่อมลดลงตามไปด้วย จึงมีเวลาเหลือมากพอในการพัฒนาทักษะใหม่ๆเพิ่มมากขึ้น เพราะเมื่อยอดขายกลับมาสูงขึ้น องค์กรก็จะมีประสิทธิภาพเพิ่มสำหรับการแข่งขันทันที

“ในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจในองค์กรของผมมีเครื่องจักรซีเอ็นซีหรือเครื่องกลึงไสกัดเจาะที่ควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์ แต่พนักงานที่อยู่หน้าเครื่องมีอายุเยอะแล้วและเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ไม่ได้ ปรากฏว่าผมเอาพนักงานกลุ่มนี้ไปพัฒนาทักษะเพื่อเขียนโปรแกรมควบคุมเครื่องจักรแทนการใช้คน ปรากฏว่าใช้เวลาสอนอยู่หนึ่งปีเขาก็สามารถทำได้ ทำให้เราได้พนักงานใหม่ขึ้นมาทันที ดังนั้น ในภาวะวิกฤติย่อมมีโอกาสเสมอทั้งการจัดการหลังบ้าน หรือ Back To Basic และการจัดการภายในเพื่อไปข้างหน้า”

สำหรับในแง่ของเศรษฐกิจมหภาคนั้น นายธนาธร กล่าวว่า มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ภาครัฐจะต้องมีความเข้มแข็งเพื่อให้เศรษฐกิจเดินหน้าไปได้ โดยเฉพาะการสร้างอุตสาหกรรมใหม่ ในอดีตประเทศไทยได้เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศแต่ผ่านมา 60 ปีประเทศก็ยังคิดแค่การเปิดรับการลงทุนทั้งๆที่ในประเทศไทยมีสภาพคล่องล้นระบบแล้ว ดังนั้นถ้าภาครัฐสามารถออกกฎหมายเพื่อให้เกิดอุตสาหกรรมใหม่ได้ก็จะนำมาสู่การจ้างงานอีกมหาศาล เช่น การสร้างโรงคัดแยกผลไม้เพื่อพัฒนาผลผลิตทางการเกษตรแบบในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจะทำให้ผลิตผลิตที่ออกขายมีมาตรฐาน หรือการยกเลิกการใช้ลานตากข้าวบนถนนด้วยแรงงานคนซึ่งควบคุมอุณหภูมิและความชื้นไม่ได้ แต่จะใช้เครื่องอบข้าวที่สามารถควบคุมอุณหภูมิและความชื้นได้ เพื่อให้เป็นเกษตรก้าวหน้า เป็นต้น เพราะการก้าวไปเป็นประเทศที่พัฒนาจะต้องมีเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมเป็นของตัวเอง การจะไปอย่างนั้นรัฐต้องลดเลิกการพึ่งพิงเม็ดเงินการลงทุนต่างประเทศ

"การยกเลิกการผูกขาดเป็นเรื่องสำคัญมาก ประเทศที่พัฒนาแล้วย่อมมีกลุ่มทุนใหญ่ระดับประเทศและต้องพากลุ่มทุนเล็กขึ้นมาด้วย โดยกลุ่มทุนใหญ่จะต้องไปแข่งขันในระดับโลกไปพร้อมกันทั้งอุตสาหกรรม แต่ของไทยไม่ใช่อย่างนั้น เพราะเป็นการใช้อาศัยความใกล้ชิดกับผู้มีอำนาจเพื่อสร้างกฎระเบียบบางประการ กลุ่มทุนใหญ่ในไทยไม่ได้เล่นบทบาทในระดับโลกที่ควรจะเล่น ไม่ใช่สะสมทุนในประเทศด้วยการผูกขาดและการใช้เครือข่ายอำนาจรัฐและเบียดเบียนผู้ประกอบการขนาดเล็กในประเทศ ดังนั้นรัฐบาลต้องเข้ามาแก้ไขตรงนี้เพื่อให้อุตสาหกรรมของประเทศเติบโตและเกิดการสร้างงานไปได้" นายธนาธรกล่าว
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"