03 พ.ย.2562- นายเชาว์ มีขวด อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง “เมื่อกรรมาธิการ ป.ป.ช.ใช้อำนาจในทางที่ผิด ต้องฟ้องให้ติดคุก มิให้เป็นเยี่ยงอย่าง” มีเนื้อหาว่ากรณีที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ประธานกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบสภาผู้แทนราษฎร ออกมาระบุว่าจะใช้ พ.ร.บ.คำสั่งเรียกของคณะกรรมาธิการ สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา พ.ศ.2554 มาใช้กับนายกรัฐมนตรีและ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หากเชิญครั้งที่ 2 และครั้งที่ 3 แล้วยังไม่มานั้น เคยแสดงความเห็นไปก่อนหน้านี้แล้วว่า กมธ.ชุดนี้แส่ไม่เข้าเรื่อง การเชิญนายกฯ และ พล.อ.ประวิตรมาชี้แจงในประเด็น ครม.ไม่มีอำนาจเสนอร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจําปี 2563 เพราะยังถวายสัตย์ไม่ครบถ้วนไม่ได้เกี่ยวข้องกับบทบาทหน้าที่ของกรรมาธิการ ป.ป.ช. ตามข้อบังคับการประชุมสภา หมวด 5 ข้อ 90(22) ที่ระบุว่า "คณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบมีหน้าที่และอำนาจกระทำกิจการพิจารณาสอบหาข้อเท็จจริงหรือศึกษาเรื่องใดๆที่เกี่ยวกับกระบวนการและมาตรการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ"
“เห็นได้ว่าประเด็นที่กรรมาธิการป.ป.ช. ใช้เป็นเหตุผลในการเชิญนายกรัฐมนตรีและพลเอกประวิตรไม่ได้อยู่ในอำนาจหน้าที่ของกรรมาธิการ การกระทำของกรรมาธิการป.ป.ช.จึงเป็นการดำเนินการที่เกินขอบเขตอำนาจหน้าที่ของตัวเอง”
นายเชาว์โพสต์ต่อว่า ไม่ได้ต้องการปกป้อง พล.อ.ประยุทธ์หรือ พล.อ.ประวิตร แต่เห็นว่ากำลังมีการใช้ กมธ.เป็นเครื่องมือทางการเมืองอย่างน่ารังเกียจ ซึ่งจะทำให้การทำงานของสภาในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติเสื่อมเกียรติไปด้วย เพราะคนเป็น ส.ส.ควรใช้ กมธ.เป็นเครื่องมือในการรักษาผลประโยชน์ให้กับประชาชนไม่ใช่ใช้เพื่อประโยชน์ทางการเมืองของตัวเองและพวกพ้อง ซึ่งแน่นอนว่าหากฝ่ายบริหารประพฤติผิดหรือมีการทุจริตก็อยู่ในวิสัยที่ กมธ.ป.ป.ช.จะตรวจสอบ เชิญมาให้ข้อเท็จจริงได้ แต่ต้องทำตามบทบาทหน้าที่ของตัว ไม่ใช่ทำเกินขอบเขตอำนาจอย่างที่เป็นอยู่ในขณะนี้
"ขอเสนอให้ พล.อ.ประยุทธ์หรือ พล.อ.ประวิตรในฐานะผู้เสียหายแจ้งความดำเนินคดีกับกรรมาธิการ ป.ป.ชที่ลงมติเชิญให้ไปชี้แจงทั้งที่ไม่มีอำนาจ ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายคำสั่งเรียก มาตรา 12 ที่บัญญัติว่า กรรมาธิการผู้ใดปฏิบัติ หรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึง 10 ปีหรือปรับตั้งแต่ 2,000 บาทถึง 20,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งการกระทำของกรรมาธิการ ป.ป.ชเข้าข่ายใช้อำนาจกลั่นแกล้ง ทำให้เกิดความเสียหาย จึงอยากให้มีการดำเนินคดีเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไป ถ้ากรรมาธิการคนไหนไม่เห็นด้วยกับมติที่ออกมาก็ต้องแสดงความเห็นคัดค้านอย่างชัดเจนจะได้ไม่ติดร่างแหไปด้วย”นายเชาว์โพสต์ทิ้งท้าย
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |