พิจิตร เพ็ชรเกษม โปรวัย 32 ปีจากกรุงเทพฯ ฟอร์มแรงจัดเก็บ 4 เบอร์ดี้ใน 5 หลุมสุดท้ายก่อนจบรอบสอง 6 อันเดอร์พาร์ 65 ขยับขึ้นนำด้วยสกอร์รวม 9 อันเดอร์พาร์ 133 โดยมี ดลภัทรไชย นิยมชน ไล่บี้แค่สโตรกเดียว ในศึกกอล์ฟอาชีพไทยแลนด์พีจีเอทัวร์ รายการสิงห์-เอสเอที นครนายก แชมเปียนชิพ ชิงเงินรางวัลรวม 2 ล้านบาท ณ สนามวอเตอร์มิลล์ กอล์ฟ คลับ แอนด์ รีสอร์ท ระยะ 7,197 หลา จ.นครนายก เมื่อวันที่ 31 ต.ค.ที่ผ่านมา
รอบสองของการแข่งขัน พิจิตร เพ็ชรเกษม ที่เพิ่งกลับมาคืนฟอร์มอีกครั้งเก็บเข้ามา 7 เบอร์ดี้ ซึ่งรวมถึงการทำ 4 เบอร์ดี้ในการเล่น 5 หลุมสุดท้าย ก่อนกลับขึ้นคลับเฮ้าส์ด้วยสกอร์ 6 อันเดอร์พาร์ 65 ขยับขึ้นนำการแข่งขันด้วยสกอร์รวม 9 อันเดอร์พาร์ 133 โดยมี ดลภัทรไชย นิยมชน ตามหลังสโตรกเดียวเท่านั้น
พิจิตร เพ็ชรเกษม นักกอล์ฟวัย 32 ปีที่เคยชนะรายการระดับอาชีพรายการแรกและรายการเดียวของเขาในทีพีซีทัวร์ที่ นารายณ์ฮิลล์ จ.ลพบุรี เมื่อปี 2012 เผยว่า “ดีกว่าที่คิดไว้เยอะเลยครับ ก่อนออกเหมือนลมหนาวจะมา ลมมันจะแรง เราก็เตรียมตัวที่จะคุมลูกให้อยู่ เพราะที่นี่พาร์ 3 จะยาก แล้วหลังๆผมตีเหล็กยาวเพิ่งเริ่มดีขึ้น พอหลุมยากๆเราผ่านได้ หลุมสั้นก็ตีให้อยู่แฟร์เวย์ แล้ววันนี้ช็อตสองตีเข้าไปใกล้เยอะมาก บวกกับลูกพัตต์ค่อนข้างดีเลยครับ อย่างวันแรกก็ดีแต่มีช่วงกลางๆรอบที่พัตต์ไม่ลง แต่มาลงสองหลุมสุดท้าย ฟิลลิงก็เลยกลับมา”
นักกอล์ฟวัย 32 ปีจากกรุงเทพฯ ยังกล่าวถึงการลุ้นแชมป์ไทยแลนด์พีจีเอทัวร์รายการแรกในชีวิตของเขาว่า “ผมไม่ได้มองไปถึงตรงนั้น เรียกว่าอยู่ในช่วงเรียกความมั่นใจดีกว่า เพราะไทยพีจีเอผมตกรอบมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว เพิ่งมาเข้ารอบที่บลูสตาร์เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา แมทช์สมาคมฯปีนี้เพิ่งเข้ารอบ 3 รายการ ตอนนี้ผมพยายามอยู่กับตัวเองว่ากำลังทำอะไรอยู่ ผมก็จะทำแค่นั้น เพราะผมเพิ่งจะกลับมาตีเข้ารอบจะไปทำอะไรแบบที่คนตีแล้วภาพมันชัดคงไม่ได้ อย่างรอบนีออกไปไม่เกินแล้วได้มา 2 เบอร์ดี้ก็รู้แล้วว่าทรงนี้เข้ารอบ แต่ตอนที่อันเดอร์เยอะๆเราก็ไม่รู้ว่ารวมอยู่ที่เท่าไหร่ รู้แค่เกมตรงหน้า แต่บังเอิญช็อตสองมันตีเข้าไปใกล้เยอะแล้วพัตต์ลง”
ทางด้าน ดลภัทรไชย นิยมชน นักกอล์ฟวัย 29 ปีจากนครสวรรค์ แชมป์ไทยแลนด์พีจีเอทัวร์ ที่สิงห์ปาร์ค ขอนแก่น เมื่อปีที่ผ่านมา เข้ารอบสองเก็บเพิ่มอีก 6 เบอร์ดี้โดยไม่เสียโบกี้ ก่อนจบรอบ 6 อันเดอร์พาร์ 65 รวมสองวันตามหลังผู้นำเพียงสโตรกเดียว ซึ่งเจ้าตัวเผยว่า “วันนี้ไดร์ฟ 11 แฟร์เวย์แล้วพัตต์ดีขึ้น วันแรกช็อตก็ใกล้เคียงกันแต่พัตต์ไม่ค่อยลง รอบนี้พัตต์ดีขึ้น พยายามตีขึ้นกรีนในจุดปลอดภัยแล้วโชคดีพัตต์ลง สำหรับรายการนี้พยายามเปิดโอกาสให้ตัวเองได้พัตต์เยอะๆ เพราะที่นี่ต้องสู้กันด้วยพัตต์”
อันดับสามตามเข้ามาเท่ากันสองคน ชลทิตย์ ชื่นบุญงาม และ ธนาธิป เผือกเทศ ที่เก็บเข้ามาคนละ 4 เบอร์ดี้ แบบไม่เสียโบกี้ ก่อนจบรอบคนละ 5 อันเดอร์พาร์ 66 รวมสองวันมีคนละ 7 อันเดอร์พาร์ 135 ตามมาด้วย รณชัย จำนงค์ ที่หวดเข้ามาอีก 3 อันเดอร์พาร์ 68 รวมสองวัน 6 อันเดอร์พาร์ 136 ขณะที่ สุทธิเจตน์ คูห์รัตนพิศาล (67), วินธัย วิวัฒน์สนิทชัย (68) และ สรชัช หรรษาภิบาล (70) ตามหลังหนึ่งแต้มที่สกอร์ 5 อันเดอร์พาร์ 137
ส่วน วุฒิวิทย์ เจริญพรอนุกูล ผู้นำหลังจบรอบแรก เข้ารอบสองตีเกินไป 4 โอเวอร์พาร์ 75 หล่นมาอยู่อันดับสิบสองร่วมกับ แสงชัย แก้วเจริญ (69), เขตตะวัน ปูคะวนัช (69), ปิยะ สว่างอรุณพร (70),ยูอิชิโน นิชิ (70) จากญี่ปุ่น, กัมลาศ นาเมืองรักษ์ (71),ชัพชัย นิราช (72) และ สหัสวรรษ อริยฉัตรเวคิน (71) นักกอล์ฟสมัครเล่น
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |