วันนี้ นายประลอง ดำรงค์ไทย อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ เปิดเผยว่า จากข้อมูล กทม. ในการจัดเก็บกระทงในเขตกรุงเทพมหานคร ปี 2551 – 2561 พบว่า มีปริมาณ 8-9 แสนชิ้นต่อปี (ยกเว้นปี 2554 และ ปี 2559) และพบว่าการใช้กระทงที่ทำจากธรรมชาติมีแนวโน้มสูงขึ้น คิดเป็นร้อยละ 87- 94.7 กระทงโฟมมีแนวโน้มลดลงจากร้อยละ 13 ลดลงเหลือร้อยละ 5.3 ซึ่งในปี 2561 ที่ผ่านมา มีปริมาณทั้งสิ้น 841,327 ใบ แบ่งเป็นกระทงที่ทำจากวัสดุธรรมชาติ 796,444 ใบ และกระทงโฟม 44,883 ใบ คิดเป็นกระทงจากวัสดุธรรมชาติร้อยละ 94.7 และกระทงโฟมร้อยละ 5.3 จากข้อมูลข้างต้นแสดงให้เห็นว่าประชาชนส่วนใหญ่ลอยกระทงจากวัสดุธรรมชาติแทนการใช้กระทงโฟม ชี้ให้เห็นว่าประชาชนและผู้ค้ากระทง ได้ให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
นายประลอง กล่าวว่า แนวทางการลอยกระทงรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยใช้หลักการ 3R ได้แก่ “ใช้น้อย”(Reduce) คือการลดขนาดของกระทงที่ใช้ ลดจำนวนชิ้น ใช้วัสดุธรรมชาติในการตกแต่งกระทง เพื่อเป็นการประหยัดทรัพยากรและช่วยลดปริมาณขยะ, “ใช้ซ้ำ” (Reuse) คือการนำวัสดุเหลือใช้กลับมาใช้ซ้ำ เพื่อเป็นการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่จำกัดอย่างคุ้ม และสุดท้ายคือ “แปรรูปใช้ใหม่” (Recycle) คือการนำกระทงที่เก็บรวบรวมมาใช้ประโยชน์ โดยกระทงจากวัสดุธรรมชาติจะนำมาใช้ในการหมักปุ๋ยต่อไป
นายประลอง กล่าวต่อว่า เพื่อให้เป็นไปตามนโยบาย ทส. โดยนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ได้ร่วมมือกับห้างสรรพสินค้า 46 แห่ง ดำเนินโครงการ "การงดแจกถุงพลาสติก" ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 และเพื่อเป็นการดูแลและรักษาสิ่งแวดล้อม ลดขยะพลาสติกทั้งบนบกและทะเล ในเทศกาลลอยกระทง ปี 2562 คพ.ขอเชิญชวนคนไทยร่วมลอยกระทง ใส่ใจสายน้ำและสิ่งแวดล้อม โดยใช้กระทงที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และร่วมลดปริมาณกระทง ลดการก่อให้เกิดขยะ ด้วยการลอยแบบ 1 คู่รัก 1 กระทง หรือ 1 ครอบครัว 1 กระทง หรือ 1 แก๊งค์หรือกลุ่ม 1 กระทง หรือการลอยกระทงออนไลน์จะช่วยให้การลอยกระทงสร้างมลพิษน้อยที่สุด และขอความร่วมมือประชาชนพกถุงผ้าใส่สิ่งของแทนถุงพลาสติก แม่ค้างดแจกถุงพลาสติกหูหิ้วและพลาสติกที่ใช้ครั้งเดียว เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมและลดปริมาณขยะที่เกิดขึ้นด้วย