ไทยโพสต์ "อิสรภาพแห่งความคิด" หลังปรากฏชื่อ "พรรคพลังประชารัฐ" ไปยื่นขอจัดตั้งพรรคต่อ กกต. โดยแกนนำผู้ริเริ่มก่อตั้งพรรคคือ พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล อดีตสมาชิก สปท. เพื่อน ตท.12 ของ บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับ นายชวน ชูจันทร์ ประธานประชาคมตลาดน้ำคลองลัดมะยม ซึ่งยอมรับว่าเป็นเพื่อนเรียนหนังสือร่วมกันมากับ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ก็ฟันธงกันว่าเป็นพรรคของรัฐบาล คสช.แน่นอน แม้ บิ๊กตู่-สมคิด รวมทั้ง นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม และ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ จะเรียงหน้าปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้อง แต่บรรดานักการเมืองด้วยกันเขารับรู้ถึงความเคลื่อนไหวนี้มานานแล้ว หลังเดือน เม.ย.ก็จะมีความชัดเจนเรื่อยๆ...0

        ทั้งนี้ หาก บิ๊กตู่-สมคิด-อุตตม-สนธิรัตน์ ประกาศยอมรับเมื่อไหร่ก็จะถูกกดดันให้ลาออกจาก รมต.-คสช. เพราะถือเป็นการเอาเปรียบพรรคอื่น จึงต้องยื้อไปสักพัก แต่หากยังไม่ประกาศ "พลังประชารัฐ" ก็จะไร้พลัง ไม่มีแม่เหล็กดึงดูด จึงอยู่ที่ บิ๊กตู่ จะเคาะเมื่อไหร่ ยิ่ง บิ๊กตู่ ย้อนว่า "อยากให้ย้อนกลับไปดูในสมัยก่อน นายกรัฐมนตรีซึ่งก็เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง ประกาศลงเลือกตั้ง ก็สามารถลงไปหาเสียงได้ ในขณะที่ยังเป็นนายกฯ อยู่ด้วยซ้ำไป วันนี้ผมยังไม่ได้เป็นอะไรสักอย่าง แล้วผมก็ไม่ได้หาเสียงด้วย" เหมือนกับหยั่งเชิงว่าตนเองพร้อมเป็น 1 ใน 3 ของผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกฯ ของพรรคการเมือง อาการเดินหน้าก็ยาก ถอยหลังก็แย่ เพราะเกือบ 4 ปีที่ผ่านมา บิ๊กตู่ ยังไม่รู้ว่าประชาชนต้องการปฏิรูปประเทศ จะให้ไปตัดสินใจในการเลือกตั้ง ดูตัวอย่าง ประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ที่ทำให้เศรษฐกิจรุ่งเรือง ปราบปรามทุจริตขั้นเด็ดขาด คนจีนจึงยอมให้แก้รัฐธรรมนูญให้เป็น ปธน.ตลอดไป แล้ว บิ๊กตู่ ทำแบบเขาได้หรือเปล่า ถึงอยากจะเป็นนายกฯ อีก...0

        ในที่สุด ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และ พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. ก็ต้องส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ ในวันที่ 15 มี.ค.นี้ เชื่อว่าสมาชิก สนช.จะลงชื่อส่งศาล รธน.ได้ หลัง นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ.ทำความเห็นแย้งส่งให้ นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช.พร้อมเตือนว่า ร่าง พ.ร.ป.สว.นั้นหากปล่อยให้ถึงเลือกตั้ง ส.ว.แล้วมีคนร้องศาลฯ ตีความว่าขัดจะกระทบโรดแมปทันที กระบวนการที่อยากให้เร็วจะล้มทั้งยืน ทุกอย่างต้องเริ่มใหม่หมด ก็น่าแปลกใจ แม่น้ำ 5 สาย มาจากต้นธารเดียวกัน ทำไมเรื่องนี้ถึงไหลไปคนละทาง หรือว่ามีใครวางยาเพื่อวาระซ่อนเร้นบางอย่างอีก...0

ส่วนเรื่องนี้ก็น่าแปลกใจ หลังตุลาการศาลปกครองกลางพิพากษาให้ เจ๊ติ๋ม-พันธุ์ทิพา ศกุณต์ไชย เจ้าของบริษัท ไทยทีวี จำกัด และโลก้า ชนะคดี กสทช. โดยมีสิทธิบอกเลิกใบอนุญาตประกอบกิจการสถานีโทรทัศน์ทั้ง 2 ช่อง พร้อมให้คืนเงินกว่า 1,500 ล้านบาท ใน 60 วัน แต่ไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหายที่ขอไป 700 ล้าน นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. กลับบอกว่า พอใจกับคำวินิจฉัยของศาล และต้องขอขอบคุณผู้ประกอบการที่หาทางออกให้ผู้ประกอบการทีวีทุกช่อง ทั้งที่คำพิพากษาตบหน้าว่า "กสทช.ไม่ได้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ที่ได้กำหนดไว้ตามกฎหมาย" ซึ่งถือเป็นความบกพร่องของ กสทช.เอง เจ๊ติ๋ม ก็จะอุทธรณ์เรียกค่าเสียหายต่อ แล้ว กสทช.จะอุทธรณ์ทุกประเด็นหรือไม่ จะแสดงความรับผิดชอบอย่างไร มันน่าจะคืนเงินเดือนทั้งหมดเลยดีไหม...0

        ความคืบหน้าคดี นายเปรมชัย กรรณสูต ประธาน บมจ.อิตาเลียนไทย และพวก ลักลอบเข้าป่าล่าสัตว์ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. หอบสำนวนจำนวน 2 แฟ้ม 857 แผ่น มีความเห็นสั่งฟ้อง 9 ข้อหา ส่งมอบให้กับ นายทนง ตะภา อัยการจังหวัดทองผาภูมิ จากนั้นคณะอัยการเปิดแถลงข่าวโดย นางสมศรี วัฒนไพศาล อธิบดีอัยการภาค 7 บอกว่า จะทำให้ดีที่สุด ให้ประชาชนเชื่อมั่น เชื่อถือในองค์กรอัยการ พร้อมตั้งคณะทำงานประกอบด้วย นายสมเจตน์ อำนวยสวัสดิ์ อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 2 ภาค 7 เป็นหัวหน้าคณะ แต่ตราบใดที่ตำรวจยังผูกขาดงานสอบสวนเบ็ดเสร็จ อัยการได้แต่นั่งดูตาปริบๆ เหมือนรอดู นิยาย ที่ตำรวจแต่งขึ้นมา ก็ยากที่จะทำให้การสอบสวนเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ ยุติธรรม จึงมีข้อเรียกร้องให้อัยการมีอำนาจตรวจสอบควบคุมสำนวนคดีตั้งแต่เกิดเหตุ เสือดำจึงจะไม่ตายฟรี และจะไม่มีเหตุซ้ำรอยอีก...0