บันทึกหน้า 4


เพิ่มเพื่อน    

ยุทธศาสตร์ นิ่งสงบ...สยบความเคลื่อนไหว ได้ถูก น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) นำมาใช้ ในยามนี้ หลังถูก ศรีสุวรรณ จรรยา ยื่นเรื่องคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตรวจสอบการบริจาคเงินให้พรรค 1 ล้านบาทเมื่อปี 2561 ซึ่งไม่สอดคล้องฐานานุรูปเมื่อเทียบกับรายได้ที่แสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินกับ ป.ป.ช.เมื่อวันที่ 23 ส.ค.2562 และ ยิ่ง สำนักข่าวอิศรา เผยแพร่การยื่นแบบแสดงภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด.91) ในปี 2561 ที่บริจาคเงินให้กับพรรคเพียง 500 บาทเท่านั้น ก็ยิ่งเป็นการมัดตราสัง น้องช่อ จนทำให้เจ้าตัวและบรรดา สาวก ต้องหันมาใช้ ความนิ่งเงียบ ในการรับมือ ...๐

ต้องเรียกว่าเป็น ยุทธศาสตร์ใหม่ ที่ส้มหวานและบรรดาแฟนคลับนำมาใช้ จากที่ มักจะออกมาตอบโต้ทันควันในโลกออนไลน์ทั้งจากตัวของผู้ถูกพาดพิงและบรรดา ซอมบี้สีส้ม ที่ตามไปอาละวาดราวีผู้คิดต่าง เสมอมา ซึ่งน่าคิดว่าเพราะ สนิมเกิดแต่เนื้อในตน ที่ทำให้บรรดาสาวกมีดวงตาเห็นธรรมแล้ว หรือดำริสั่งการจาก บิ๊กแกนนำ ...๐ แต่ที่แน่ๆ ดูเหมือนกรณีของ ช่อ อาจเป็นจุดตายน้ำตื้น เหมือนที่ ชูชาติ ศรีแสง อดีตผู้พิพากษาศาลฎีกาโพสต์เฟซบุ๊กสะกิดเตือนไว้ งานนี้เลยทำให้ ช่อ ต้องซุ่มเงียบ เพราะอาจถึง หัวเลี้ยวหัวต่อในการตัดสินใจทางการเมืองที่สำคัญว่าจะ ฮาราคีรี ตัวคนเดียว หรือจะทำให้พรรคกลายเป็นอดีตไป แต่ไม่ว่าเลือกทางใดก็เชื่อว่าจุดจบนั้นก็ไม่แทบต่างกัน เพียงแต่จะช้าหรือเร็วเท่านั้น เพราะเรื่องของ ตัวเลข นั้นโกหกไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นตัวเลขที่ผ่านมาแล้วเสียด้วย ...๐

ไม่แน่งานนี้เราอาจได้เห็นทางเลือกที่ 3 ออกมาก็ได้ โดยเป็นการอ้างเหตุผลว่าด้วยการ ถูกหวยรวยเบอร์ หรือเป็นเงินได้จาก การพนัน ในบ่อนต่างประเทศ หรือแม้กระทั่งการขายวัตถุโบราณที่เป็นมรดกตกทอดมาก็เป็นได้ แต่คำถามก็ยังมีอยู่อีกว่า จาก ฐานะ ของ คุณช่อ จะศรัทธาพรรคอนาคตใหม่เหมือนบรรดาสาวกจานบินที่มี 100 ให้ 90-99 เลยหรือ ...๐ หันกลับมาส่องพฤติกรรมของ ตี๋เต้ มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ที่สถาปนาตัวเองเป็นผู้นำฝ่ายค้านอิสระในสภา ที่ได้ ลองของ เครื่องตรวจระเบิดของรัฐสภาว่าไม่สามารถทำงานได้จริง ซึ่งตอนแรกก็แถลงข่าวสร้าง ฮีโร่ ขึ้นมา แต่เมื่อถูก นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎรระบุว่าจะถูก เช็กบิล อย่างพฤติกรรมดังกล่าว ตี๋เต้ ก็พลิ้วแถลงทันควันว่าเป็นแค่ ไนโตรเจนผง ซึ่งเป็นสารเคมีเท่านั้น!!! เรียกว่าพลิกกลับไปกลับมายิ่งกว่าละครน้ำเน่าเสียอีก ที่สำคัญยังสะท้อน พฤติกรรม ของทั่น ส.ส.มงคลกิตติ์ว่าเป็นคนอย่างไร เมื่อดูจากเล่นขายของครานี้ ...๐

ไม่ต่างจากกรณี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ในฐานะประธาน กมธ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ยังรั้นที่จะเรียก น้องตู่และพี่ป้อม มาสอบถาม รวมทั้งยังได้ฟาดงวงฟาดงาไปยัง ดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่ทำหนังสือสอบถามมายัง กมธ.ต่ออำนาจในการเรียกว่าไม่เหมาะสม และไม่ควรเข้ามายุ่ง!!! พิโธ่! จะเชิญ นายกฯ เมื่อ เลขาธิการนายกฯ สอบถามถึงความชัดเจนในเหตุผลและอำนาจ กลับบอกเป็นบุคคลที่ 3 ชาวบ้านเขาก็ได้แต่มึนงงว่าเป็นบุคคลที่ 3 ตรงไหน ก็ในเมื่อเชิญ นาย เลขาฯ นายก็ต้องทำหน้าที่ตรวจทานก่อนใช่หรือไม่อย่างไร แล้วถ้าเขาถามกันว่า แล้ว กมธ.ป.ป.ช.นั้นจะเรียกว่าเป็นบุคคลที่ 3 หรือไม่อย่างไรในหัวข้อที่จะสอบถามทั้งเรื่อง งบประมาณ และ ถวายสัตย์ปฏิญาณ...๐

การอ้างเพียงมีอำนาจตามรัฐธรรมนูญมาตรา 129 วรรค 4 ถ่ายเดียวแต่ไม่รู้ขอบเขตของ กมธ.นั้น มองได้ว่าเป็น แค่การ ตีรวน หรือไม่ก็เป็นชวนทะเลาะแบบไม่ยอมแพ้เหมือนเด็กๆ นั่นแล เพราะในความเป็นจริงประเด็นเรื่อง ถวายสัตย์ฯ นั้น ปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส.และเลขาธิการพรรคส้มหวาน ในฐานะประธาน กมธ.การกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน ที่เป็นผู้เปิดประเด็นยังคงมีความชอบธรรมที่จะเรียกร้องมากกว่าด้วยซ้ำ ซึ่ง กมธ.ของปิยบุตรยังไม่ได้ดำเนินการเลย หากต่อไปใครเป็นแค่ กมธ.ก็เรียกทุกคนแบบเหวี่ยงแหได้แบบนี้ก็คงไม่ต้องมี กมธ. 35 ชุดให้เปลืองงบประมาณกันหรอก มีแค่ชุดเดียวก็เพียงพอแล้ว จริงไหม ...๐

...ท.ศักดิ์


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"