30 ต.ค.62-นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังพิธีเปิดใช้สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามแม่น้ำเมย/ตองยิน แห่งที่ 2 อย่างเป็นทางการในวันที่ 30 ต.ค. นี้ และพิธีส่งมอบอาคารด่านพรมแดน สะพาน และถนนฝั่งเมียนมา รวมทั้งวัสดุอุปกรณ์และเฟอร์นิเจอร์สำนักงานว่า นับตั้งแต่การเปิดใช้สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามแม่น้ำเมย แห่งที่ 1 ทำให้การคมนาคมขนส่งระหว่างกันของทั้ง 2 ประเทศมีความสะดวกรวดเร็วมากขึ้น
นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมต่อไปยังเมืองย่างกุ้งด้วยระยะทาง 280 กิโลเมตร โดยในปี 2561 มูลค่าการค้าชายแดนระหว่างไทย-เมียนมา สูงถึง 1.9 แสนล้านบาท โดยเฉพาะบริเวณด่านพรมแดนแม่สอด ที่มีมูลค่าการค้าชายแดนสูงถึง 78,000 ล้านบาท และมีจำนวนรถวิ่งผ่านประมาณ 230,000 คัน/ปี หรือโดยเฉลี่ย 630 คัน/วัน โดยหลังจากเปิดใช้สะพาน คาดว่ามูลค่าการค้าชายแดนที่ผ่านด่านพรมแดนแม่สอดจะเพิ่มขึ้นเป็น 100,000 ล้านบาทต่อปี หรือเพิ่มขึ้น 22% และปริมาณรถที่รถวิ่งผ่านจะเพิ่มขึ้นอีก 10% ซึ่งทั้งไทยและเมียนมา ได้โควต้ารถบรรทุกขนส่งสินค้าฝั่งละ 100 คัน
“หากสะพานแห่งที่ 1 และ 2 มีปริมาณการจราจรและรถวิ่งผ่านเพิ่มมากขึ้นนั้น เตรียมศึกษาสร้างสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 3 ในอนาคตด้วย”นายศักดิ์สยามกล่าว
สำหรับโครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเมย-ตองยิน แห่งที่ 2 ถือเป็นสิ่งที่แสดงถึงความสัมพันธ์ใกล้ชิดทั้งระดับรัฐบาลและประชาชนของทั้ง 2 ประเทศ และถือเป็นตัวอย่างของความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่เป็นรูปธรรม โดยสะพานแห่งนี้ถือเป็นเส้นทางเชื่อมต่อไปยังถนนสายแม่สอด-เมียวดี-เชิงเขาตะนาวศรี-กอกะเร็ก เติมเต็มแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมของอาเซียน ทั้งยังช่วยอำนวยความสะดวกด้านการค้าและการลงทุน ยกระดับด่านพรมแดนและส่งเสริมการจัดตั้งเมืองคู่แฝดชายแดน สร้างโครงข่ายคมนาคมเพื่อการขนส่งสินค้าที่ต่อเนื่องตามแนวเส้นทางระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตกที่จะเชื่อมเส้นทางขนส่งสินค้าของเมียนมา ไทย สปป.ลาว และเวียดนาม ซึ่งจะเป็นเส้นทางขนส่งจากทะเลอันดามันไปสู่ทะเลจีนใต้ เปิดประตูการค้าการลงทุนจากเมืองดานัง สู่เมาะลำไย ไปยังภูมิภาคอื่นทั้งจีน อินเดีย และบังกลาเทศ
ด้านนายอู ฮัน ซอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงก่อสร้าง สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา กล่าวว่า ประเทศเมียนมามุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางการทูตกับประเทศเพื่อนบ้านและนานาประเทศมาโดยตลอด ในการนี้จึงได้ก่อตั้งคณะกรรมการร่วมการค้าชายแดนเมียนมา-ไทย เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจและส่งเสริมการค้าของทั้งสองประเทศ ซึ่งสะพานมิตรภาพเมียนมา-ไทย ข้ามแม่น้ำเมย/ตองยิน แห่งที่ 2 นี้ จะช่วยกระชับความสัมพันธ์ระหว่างทั้ง 2 ประเทศ อำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้า เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตและความมั่งคั่งของชุมชนชายแดนทั้งสองฝั่งแม่น้ำ
ขณะที่ นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) กล่าวว่า สะพานมิตรภาพไทย- เมียนมา ข้ามแม่น้ำเมย แห่งที่ 2 ได้รับการอนุมัติงบประมาณการก่อสร้างสะพาน ถนนเชื่อมต่อฝั่งไทยและถนนเชื่อมต่อฝั่งเมียนมา อาคารด่านฝั่งไทยและฝั่งเมียนมา รวมทั้งค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินฝั่งไทย วงเงินรวมทั้งสิ้น 3,900 ล้านบาท แบ่งเป็นค่างานฝั่งไทยจำนวน 2,900 ล้านบาท และค่างานฝั่งเมียนมา จำนวน 1,000 ล้านบาท และในปี 2560 ครม.ได้อนุมัติวงเงินเพิ่มเติมอีกจำนวน 232 ล้านบาท เป็นค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินฝั่งไทยและค่าก่อสร้างอาคารด่านพรมแดนทั้งสองฝั่ง เพื่อปรับรูปแบบด้านสถาปัตยกรรมให้เหมาะสมกับเอกลักษณ์ของแต่ละประเทศ รวมงบประมาณที่ใช้ในการดำเนินการทั้งสิ้น 4,132 ล้านบาท โดยรัฐบาลไทยได้ให้ความช่วยเหลือแบบให้เปล่าแก่รัฐบาลสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ในส่วนของค่าก่อสร้างสะพาน ถนน และอาคารด่านพรมแดนในฝั่งเมียนมา
สำหรับจุดเริ่มต้นของโครงการอยู่บนทางหลวงหมายเลข 12 บริเวณบ้านวังตะเคียน ตำบลท่าสายลวด อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก และบรรจบกับทางหลวงหมายเลข 6 สายเมียวดี-กอกะเร็ก หรือ ทางหลวงอาเซียนหมายเลข 1 ในเมืองเมียวดี ลักษณะโครงการประกอบด้วย 1.สะพานข้ามแม่น้ำเมย ความยาว 760 เมตร 2.ถนนขนาด 4 ช่องจราจร เชื่อมต่อสะพานทั้งสองฝั่ง 3.อาคารด่านพรมแดนทั้ง 2 ฝั่ง มีระยะทางโครงการรวมทั้งสิ้น 21.40 กิโลเมตร แบ่งเป็นระยะทางโครงการในฝั่งไทย 17.25 กิโลเมตร และฝั่งเมียนมา 4.15 กิโลเมตร โดยในส่วนความพิเศษที่ถือเป็นเอกลักษณ์ของ ของสะพานแห่งนี้คือโคมไฟ ที่ผสมผสานศิลปะของทั้ง 2 ประเทศ โดยนำลวดลายและความอ่อนช้อยของลายกนกซึ่งเป็นศิลปะของไทย มาแต่งเติมสีสันตามแบบฉบับของประเทศเมียนมาคือสีทองและสีเขียว เมื่อติดตั้งทั่วทั้งสะพาน จึงปรากฏเป็นภาพสวยงาม และสะท้อนถึงมิตรภาพที่มีมาอย่างยาวนานของทั้ง 2 ประเทศ
ทั้งนี้ สะพานข้ามแม่น้ำเมย แห่งที่ 2 นั้น ตามความเห็นร่วมกันของกรรมาธิการบริหาร และบำรุงรักษาสะพานมิตรภาพ แห่งที่ 2 (ไทย-เมียนมา) เห็นควรให้รถบรรทุกขนาดใหญ่ตั้งแต่ 6 ล้อ รถโดยสารขนาดกลาง และขนาดใหญ่ (13 ที่นั่งขึ้นไป) มาใช้สะพานแห่งนี้ ขณะที่ สะพานมิตรภาพแห่งที่ 1 (ไทย-เมียนมา) จะเป็นเส้นทางสัญจรของรถยนต์ส่วนบุคคล และรถโดยสารขนาดเล็ก ซึ่งสะพานข้ามแม่น้ำเมย แห่งที่ 2 นั้น จะเปิดให้บริการเวลา 6.30-18.30 น. (เวลาเมียนมา ช้ากว่าไทย 30 นาที)
อย่างไรก็ตามในส่วนของอัตราค่าบริการนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการรอประกาศกฎกระทรวง ซึ่งคาดว่าจะใช้ระยะเวลาไม่นาน โดยการใช้สะพาน (ฝั่งไทย) แบ่งเป็น รถ 4 ล้อ (ไม่เกิน 7 ที่นั่ง) ราคา 50 บาท, รถโดยสารขนาดเล็ก (7-12 ที่นั่ง) 100 บาท, รถโดยสารขนาดกลาง (13- 24 ที่นั่ง) ราคา 150 บาท, รถโดยสารขนาดใหญ่ (24 ที่นั่งขึ้นไป) ราคา 200 บาท, รถบรรทุก 4 ล้อ ราคา 50 บาท, รถบรรทุก 6 ล้อ ราคา 250 บาท, รถบรรทุก 10 ล้อ ราคา 350 บาท และรถบรรทุกขนาดใหญ่ (กึ่งพ่วง เทเลอร์) ราคา 500 บาท
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |