(แก้ปัญหาท้องไม่พร้อมและลดการทำร้ายเด็กด้วยการกินยาคุมกำเนิด)

เป็นข่าวเศร้าสลดเมื่อแม่วัย 21 ปี ผลักลูกชายอายุ 3 ขวบตกน้ำเสียชีวิต โดยอ้างว่าเครียดที่ต้องแบกรับภาระครอบครัวเพียงลำพัง ทว่ามูลการก่อเหตุหดหู่อาจมีอีกหลายปัจจัยที่กระตุ้นให้แม่ใจบาปทำร้ายลูกน้อยของตัวเอง แต่ถ้าพิจารณากันอย่างถี่ถ้วน เหตุร้ายดังกล่าวไม่ควรจะเกิดขึ้นกับเด็กที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ เพราะยังมีหน่วยงานที่สามารถช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวและแนะทางออกได้ หรือแม้แต่การรู้จักวิธีคุมกำเนิดเพื่อเป็นการป้องกันการทำร้ายเด็กผู้บริสุทธิ์สำหรับคุณแม่ที่ท้องไม่พร้อม...มีมุมมองจากผู้ใหญ่ที่อาบน้ำร้อนมาก่อนในการให้สติกับคนรุ่นลูกหลาน เพื่อลดสถิติความรุนแรงดังกล่าวให้หมดจากสังคมไทย

(ปรียาภา เมืองศิริ)

      เริ่มจากคุณ ป้าปรียาภา เมืองศิริ วัย 65 ปี บอกให้ฟังว่า “ป้าคิดว่าสมัยนี้ก็มีเคสที่เกิดขึ้นคล้ายกับผู้หญิงที่เป็นข่าว แต่อย่าลืมว่าสังคมไทยยังเป็นรูปแบบของเครือญาติ หากมีปัญหาอะไรก็ควรที่จะพูดคุยหรือปรึกษากับเครือญาติพี่น้องหรือเพื่อนสนิทก่อน ทั้งนี้ เพื่อช่วยกันหาทางแก้ไข เช่น ถ้าตกงานและยังต้องรับภาระเลี้ยงลูก จะมีงานอะไรที่สามารถทำได้และนำลูกไปด้วยได้หรือไม่ ก็เป็นการแก้ปัญหาเบื้องต้นเพื่อให้มีรายได้มาเลี้ยงครอบครัวก่อน ไม่ใช่ว่าเมื่อโกรธอะไรมาก็ไปลงกับลูกด้วยความรุนแรงถึงแก่ชีวิต ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เพราะเด็กไม่รู้เรื่อง เรื่องนี้ก็สะท้อนให้เห็นว่าการหันหน้าปรึกษากับครอบครัว หรือผู้ที่สามารถให้การช่วยเหลือได้เป็นสิ่งสำคัญ เพราะการตัดสินใจหุนหันพลันแล่นจะทำให้เกิดผลเสียกับทุกฝ่ายค่ะ”

        ขณะที่ คุณป้าใจ (นามสมมุติ) วัย 63 ปี กล่าวว่า “ส่วนตัวคิดว่าการป้องกันปัญหาแม่ทำร้ายลูกอย่างการรณรงค์ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหันมาให้การช่วยเหลือคุณแม่ที่ท้องไม่พร้อม เช่น การจัดตั้งสถานรับเลี้ยงเด็ก เพื่อแบ่งเบาภาระของครอบครัวเลี้ยงเดี่ยวที่มีปัญหา โดยการฝากเด็กไว้ชั่วคราวจนกว่าผู้ปกครองจะหาทางออกได้และมารับกลับ ตรงนี้น่าจะช่วยลดปัญหาการฆ่าลูกได้ เพราะจะเห็นได้ว่าไม่ใช่เฉพาะเด็กโต แต่เด็กแรกเกิดก็ยังถูกฆ่า และนำไปทิ้งถังขยะตั้งแต่ลืมตาดูโลก ถ้ามีหน่วยงานที่ช่วยแก้ปัญหาเรื่องนี้ก็สามารถลดปัญหานี้ได้แน่นอนค่ะ”

(ป้าสม)

      ด้าน ป้าสม วัย 78 ปี ที่ปัจจุบันเลี้ยงหลาน 2 คน บอกคล้ายกันว่า “หน่วยงานภาครัฐ” น่าจะเป็นตัวช่วยที่ดีสำหรับการแก้ปัญหาคุณแม่ท้องไม่พร้อม “ส่วนตัวป้าอยากบอกว่า แม่ที่ทำร้ายลูกถึงขั้นชีวิตทำได้อย่างไร เมื่อไม่สามารถที่จะเลี้ยงเขาได้ ทำไมจึงไม่ไปขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานรัฐที่ดูแลในส่วนนี้โดยเฉพาะ เขาจะได้ลงมาให้ความช่วยเหลือเด็ก เราเองก็ไม่รู้ว่าคุณมีปัญหาเบื้องลึกเบื้องหลังอย่างไร แต่การทำร้ายเด็กบริสุทธิ์เป็นเรื่องที่ผิดศีลธรรมมากๆ ค่ะ”

      ทว่าปัญหาการท้องไม่พร้อมและการขาดความมั่นใจในตัวเอง จึงทำให้แม่วัยรุ่นขาดสติทำร้ายลูกน้อย มุมมองจาก คุณลุงป้อม (นามสมมุติ) ที่บอกว่า “จากการติดตามข่าวสาร ผู้หญิงคนดังกล่าวมีแฟนหลายคน ประกอบกับตัวเองตั้งครรภ์ไม่พร้อมและถูกฝ่ายชายทิ้ง ทำให้ต้องเลี้ยงลูกเพียงลำพัง จึงมีปมในเรื่องนี้ และสุดท้ายก็มาลงที่ลูก เพราะโกรธที่ฝ่ายชายไม่รักตัวเองจึงพยายามสลัดเด็กทิ้ง การแก้ปัญหานี้ต้องทำให้คุณแม่วัยรุ่นเกิดความมั่นใจในตัวเอง ว่าจริงๆ แล้วเราสามารถเลี้ยงลูกได้ด้วยตัวเอง ไม่จำเป็นต้องพึ่งฝ่ายชายอย่างเดียว พอเขาไม่มีความมั่นใจในตัวเอง ทุกอย่างจึงไปลงกับเด็กไม่รู้อีโหน่อีเหน่ ทั้งที่ปัจจุบันมีทางออกหลายวิธี เพราะบ้านเรามีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้คอยให้คำปรึกษาและให้ความเหลือ เพียงแค่เรามีสติยั้งคิด ปัญหาทุกอย่างก็จะมีทางออกครับ”

(ป้าตุ๊)

      ปิดท้ายกันที่ ป้าตุ๊ วัย 69 ปี ให้มุมมองเรื่องนี้ว่า “การคุมกำเนิด” ช่วยแก้ปัญหาทำร้ายเด็กที่ต้นเหตุ “อันที่จริงแล้วเรื่องนี้จะไม่เกิดขึ้นหากเราให้การศึกษากับแม่วัยรุ่นถึงเรื่องของการคุมกำเนิด รวมถึงการที่คุณแม่คนดังกล่าวอาจจะอยู่ในครอบครัวที่ไม่อบอุ่นนัก จึงทำให้แก้ปัญหาเรื่องนี้ด้วยความรุนแรง ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ส่วนตัวป้าคิดว่าการที่เราทำครอบครัวให้อบอุ่น ก็นำมาซึ่งการปรึกษาหารือ แม่วัยรุ่นก็จะไม่ตัดสินใจบุ่มบ่ามจนลูกเสียชีวิต อีกทั้งการรู้จักป้องกันตัวเองโดยวิธีคุมกำเนิดที่ถูกต้อง ก็เป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุค่ะ”.