ซีพีเอฟยันสหรัฐอเมริกายกเลิก GSP ไม่กระทบธุรกิจ ย้ำธุรกิจเติบโตตามเป้า ภาวะสุกรดีขึ้นต่อเนื่อง


เพิ่มเพื่อน    

นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ กล่าวถึง กรณีที่สหรัฐอเมริกายกเลิก GSP ในสินค้าจากไทยในอีก 6 เดือนข้างหน้าว่า สินค้าที่บริษัทส่งออกจากประเทศไทยในกลุ่มที่จะโดนตัด GSP มีเพียงบะหมี่เกี๊ยวกุ้งที่มียอดขายประมาณ 0.2% ของยอดขายรวมที่จะต้องเสียภาษีในอัตราประมาณ 6% เท่านั้น

บริษัทได้ปรับเปลี่ยนแนวทางการดำเนินธุรกิจโดยให้ความสำคัญในการขยายธุรกิจในต่างประเทศ โดยเข้าไปลงทุนผลิตเพื่อรองรับการบริโภคในประเทศนั้นๆ ทำให้ยอดขายส่วนใหญ่ในส่วนกิจการต่างประเทศนี้มีสัดส่วนประมาณ 70% ของยอดขายรวม และเป็นกิจการที่มีการเติบโตอย่างดีมาตลอด เช่นเดียวกับการขยายธุรกิจในประเทศอเมริกา ซีพีเอฟได้เข้าไปลงทุนผลิตสินค้าอาหารพร้อมรับประทานและมีการเติบโตตามเป้าที่ตั้งไว้ และยังคงมีโอกาสในการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง

สำหรับภาวะราคาสุกรได้มีการปรับตัวดีขึ้นโดยลำดับ จากการที่มีการปรับตัวลดลงในช่วงที่ผ่านมาจากความกังวลเรื่องโรค ASF ปัจจุบันนี้ราคาสุกรในเวียดนามขึ้นมาอยู่ที่ระดับราคาประมาณ 55,000-57,000 ด่อง ซึ่งถือเป็นระดับราคาที่สูงสุดของปี ส่วนราคาสุกรในไทยก็เริ่มปรับตัวดีขึ้น

นายประสิทธิ์ได้กล่าวถึงผลการดำเนินงานปีนี้ว่า ธุรกิจน่าจะเติบโตได้ตามเป้าหมาย และยังคงมั่นใจปีหน้าผลการดำเนินงานของบริษัทจะเติบโตต่อเนื่อง

นอกจากนั้น ได้เสริมว่า เรื่องมาตรฐานการบันทึกบัญชีเกี่ยวกับ Perpetual Bond ที่บริษัทมีอยู่นั้น ไม่มีผลกระทบต่อผลการดำเนินงานและผลการจัดอันดับเครดิตของบริษัทดังเช่นที่มีหน่วยงานหนึ่งได้ให้ข้อมูลต่อสาธารณะ


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"