กมธ.งบ 63 ฝั่งเพื่อไทยแย้งปม "ธนาธร" นั่งกรรมาธิการชง "ชวน" ชี้ขาดไม่ได้ แนะต้องเสนอเข้าสภาโหวตใหม่ "สิระ" ไล่บี้ไขก๊อก กมธ.หรือ ส.ส. ซัดอย่าทำตัวเป็นไส้เดือนถ่วงประเทศ อนค.ตะเพิดกลับให้ลาออกก่อนหยุดสร้างผลงานกร่าง "ศักดิ์สยาม" ลั่นพร้อมแจงซักฟอกไม่ไว้วางใจ ถือโอกาสร่ายผลงาน

    ที่รัฐสภา เกียกกาย เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 วงเงิน 3.2 ล้านล้านบาท กล่าวถึงการตรวจสอบคุณสมบัติการเป็นกรรมาธิการของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ว่าหากยึดตามความเห็นของนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่ระบุว่าควรเป็นหน้าที่ของ กมธ.วิสามัญร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ในการทำหนังสือเพื่อตรวจสอบคุณสมบัตินายธนาธรมาถึงประธาน ไม่ใช่นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนฯ คนที่ 1 โดยคาดว่านายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธาน กมธ.วิสามัญร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ จะนำมาหารือในที่ประชุม กมธ.กันอีกครั้ง ว่าจะทำหนังสือถึงนายชวนเพื่อให้มีการวินิจฉัยสถานะของนายธนาธรหรือไม่ ทั้งนี้ เบื้องต้นนายธนาธรสามารถลงชื่อและร่วมออกความเห็นในที่ประชุมได้ 
    นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เลขานุการ กมธ.วิสามัญร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ คนที่ 4 ในสัดส่วนของพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การเข้ารับตำแหน่งของนายธนาธรได้รับการรับรองจากที่ประชุมสภาอย่างถูกต้องตามระเบียบ ดังนั้นการที่ กมธ.วิสามัญร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ จะทำหนังสือยื่นต่อนายชวนให้ชี้ขาด ในความเห็นส่วนตัวจึงไม่สามารถทำได้เพราะจะขัดกับมติของสภา การที่จะพิจารณาเรื่องนี้จึงต้องรอให้เปิดสมัยการประชุมสภาในวันที่ 1 พ.ย.เพื่อหารือและลงมติในห้องประชุมสภาเช่นเดิม หากเสียงส่วนใหญ่เห็นควรว่าควรถอดนายธนาธรออกจาก กมธ.ก็สามารถส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความได้ 
    ด้านนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ ได้เรียกร้องให้นายธนาธรลาออกจากการเป็นกรรมาธิการชุดนี้ เนื่องจากว่าหากยังปฏิบัติหน้าที่อยู่ แต่ไม่สามารถลงมติในฐานะกรรมาธิการได้ นายธนาธรก็ควรที่จะพิจารณาตัวเองว่ายังมีเกียรติและศักดิ์ศรีหรือไม่ในการดำรงตำแหน่งกรรมาธิการ ซึ่งนอกจากจะไม่ได้ประโยชน์แล้ว ยังสิ้นเปลืองภาษีของประชาชนที่ต้องนำมาจ่ายค่าเบี้ยประชุมให้นายธนาธรอีกด้วย
    "วันนี้สถานะของนายธนาธรไม่ต่างจากไส้เดือนที่มี 2 เพศ ซึ่งถ้านายธนาธรยังอยากเรียกตัวเองว่ามนุษย์ มีเกียรติและศักดิ์ศรี ก็ควรจะยุติปัญหาที่ตนเองได้ อย่าปล่อยให้ตัวเองเป็นตัวถ่วงในการพัฒนาประเทศ จะเอาอย่างไรเลือกเอาสักทางหนึ่ง หากยังยืนยันที่จะเป็นกรรมาธิการก็ลาออกจากตำแหน่ง  ส.ส.ไป ส่วนตัวผมไม่ได้มีปัญหากับนายธนาธรหรือพรรคอนาคตใหม่ แต่ระยะเวลาที่กรรมาธิการชุดนี้จะต้องทำงานอีก 150 วัน จะเกิดเป็นปัญหาในอนาคตจากนายธนาธร จนทำให้เศรษฐกิจของประเทศชะงักจากการที่ พ.ร.บ.งบประมาณฯ ไม่ผ่านการอนุมัติจากสภาหรือไม่" นายสิระกล่าว
    ทั้งนี้ หากตนอยู่ในสถานะเดียวกับนายธนาธรที่เป็นถึงหัวหน้าพรรค ตนจะยอมเสียสละลาออกจากกรรมาธิการและเปิดโอกาสให้ ส.ส.ที่มีคุณภาพในพรรคอนาคตใหม่ได้ทำงานแทน เรื่องนี้มองได้ 2 ข้อ  คือ 1.ในพรรคของนายธนาธรไม่มีผู้ที่มีความรู้ความสามารถอีกแล้ว หรือ 2.นายธนาธรกำลังเอาเก้าอี้กรรมาธิการไปเล่นเกมการเมือง
    ขณะที่นายคารม พลพรกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคอนาคตใหม่? กล่าวตอบโต้ว่า ขอถามนาย?สิระว่าในเมื่อประธานสภาออกมาให้แนวทางเกี่ยวกับการเป็นที่ปรึกษากรรมาธิการของนายธนาธรแล้ว? นายสิระยังไม่หยุดเรียกร้องให้นายธนาธรลาออก? แล้วแบบนี้นายสิระจะใช้แนวทางใดในการยึดปฏิบัติ
    ส่วนที่เป็นห่วงว่าจะสิ้นเปลืองภาษีประชาชนที่ต้องนำมาจ่ายเบี้ยประชุมให้นายธนาธรนั้น? ประเด็นนี้ตนเป็นคนอ่านยังรู้สึกอาย แล้วนายสิระเป็นคนพูดไม่รู้สึกละอายเลยหรือ? ประชาชน?และสังคม?ทราบดีว่าใครที่อยู่ในตำแหน่ง ส.ส.แล้วเปลืองภาษี? ประชาชนจ่ายภาษีให้นักการเมืองไร้ศักยภาพมาตลอด 5 ปี  ?หากนายสิระตระหนักประเด็นนี้จริง แนะนำให้ไปทำงานที่เป็นชิ้นเป็นอันจะดีกว่า? อีกประเด็นที่อยากถามคือ? นายสิระบอกว่ากลัวนายธนาธรทำงานได้ไม่เต็มศักยภาพ หรือกลัวนายธนาธรเป็นอุปสรรคในการอนุมัติงบประมาณแผ่นดินที่ไม่สมเหตุสมผลกันแน่? 
    "สุดท้ายผมเรียกร้องให้คุณสิระสำนึกในภาษีประชาชนอย่างที่ปากพูดและหยุดพฤติกรรมที่ไร้วุฒิภาวะแบบนี้?เสียที ที่ผ่านมาประชาชนคงเห็นผลงานความกร่างกันดีแล้ว ควรจบประเด็นนี้ได้แล้ว? และหากกลัวว่าการทำหน้าที่ของคุณธนาธรจะเปลืองภาษีประชาชน? คุณสิระลาออกเลยครับ รับรองคุ้มค่าภาษีประชาชนและกอบกู้ภาพลักษณ์นักการเมืองได้มากขึ้นอีกด้วย" นายคารมระบุ
    ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีพรรคเพื่อไทยเตรียมจะยื่นญัตติขอเปิดการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีในเดือน  ธ.ค.นี้ ซึ่งมีชื่อนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เป็นหนึ่งในรัฐมนตรีที่จะถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วยว่า ได้พูดคุยกับนายศักดิ์สยามแล้ว ซึ่งนายศักดิ์สยามมีความมั่นใจ เมื่อเรามาดำรงตำแหน่งคณะรัฐมนตรีในระบอบประชาธิปไตยและระบอบรัฐสภา ต้องพร้อมถูกตรวจสอบ พร้อมกับตอบข้อซักถามต่างๆ ให้ชัดเจน
    เมื่อถามว่า ถือว่าเร็วเกินไปหรือไม่เพราะรัฐบาลเข้ามาทำงานได้ไม่กี่เดือน  นายอนุทินกล่าวว่า ไม่เป็นไรถ้าเราทำทุกอย่างด้วยความซื่อสัตย์สุจริต มีเจตนารมณ์และความตั้งใจที่ดี ต้องพร้อมตอบข้อซักถามตลอดเวลา อย่างไรก็ตามอยากให้มองว่าทุกคนทำหน้าที่ของตัวเอง ซึ่งฝ่ายที่มีหน้าที่ตรวจสอบก็มีสิทธิ์ของเขา แต่หากเมื่อถึงเวลาแล้วเขาไม่ตรวจสอบ เท่ากับเขาไม่ได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ดังนั้นทุกอย่างอยู่ที่การกระทำ ถ้าเราทำดี ทำโดยยึดถือประโยชน์ของบ้านเมืองเป็นหลัก ไม่มีอะไรที่ต้องกังวล  ตอบให้ดี ตอบให้ถูก มีหลักฐาน ตัวเลข และสถิติต่างๆ มาชี้แจง ประชาชนจะได้ประโยชน์จากคำถามและคำตอบ รวมถึงจะเป็นประโยชน์แก่บ้านเมือง
    เมื่อถามย้ำว่า คิดว่าฝ่ายค้านจะหยิบยกประเด็นใดมาใช้ในการอภิปรายนายศักดิ์สยาม  รองนายกฯ  กล่าวว่าต้องให้เกียรติเขา ไม่ว่าเขาจะหยิบยกเรื่องใดเราต้องพร้อมตอบทุกเรื่อง แม้ในแต่ละวันกระทรวงต่างๆ มีภารกิจจำนวนมาก รัฐมนตรีทุกคนของพรรคภูมิใจไทยมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่และตำแหน่งของตัวเอง ถ้าตอบอะไรไม่ได้ก็เสี่ยงต่อการถูกลงมติไม่ไว้วางใจ ทั้งนี้รัฐมนตรีทุกคนของพรรคต้องทำงานด้วยความตั้งใจและซื่อสัตย์สุจริต ถ้าทำสิ่งใดแล้วบ้านเมืองและประชาชนได้รับประโยชน์ก็ไม่ต้องระมัดระวังอะไร อย่าโกงก็แล้วกัน
    นายศักดิ์สยามกล่าวว่า ในส่วนของกระทรวงคมนาคมตอนนี้รอฟังข้อมูล เพราะยังไม่รู้ว่าฝ่ายค้านจะอภิปรายเรื่องใด ขณะนี้ยังเดินหน้าทำงานอย่างเต็มที่ ส่วนตัวพร้อมตอบทุกประเด็น ตอนนี้ก็ยังไม่เห็นเหมือนกันว่ามีเรื่องอะไรที่ตนเองทำเพื่อเอื้อประโยชน์กับใคร ก็ดีจะได้ชี้แจงให้หมดว่าทำอะไรไปบ้างแล้ว หากมองในแง่ดีตนจะได้พูด เพราะที่ผ่านมาไม่เคยได้พูดถึงภาพรวม เป็นฝั่งชี้แจงเสียมากกว่า หรือไม่แน่ฝ่ายค้านอาจจะมองว่าตนทำงานมากเกินไป.