รัฐมนตรีคลังของฮ่องกงระบุ การประท้วงต่อต้านรัฐบาลยาวนาน 5 เดือนส่งผลให้เศรษฐกิจของฮ่องกงเข้าสู่ภาวะถดถอยแล้ว และไม่น่าจะบรรลุเป้าหมายการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ตั้งไว้ได้
ตำรวจฮ่องกงปะทะกับผู้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยในย่านจิมซาจุ่ยเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา / AFP
รายงานของรอยเตอร์กล่าวว่า การเปิดเผยแนวโน้มทางเศรษฐกิจที่ย่ำแย่เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาเกิดขึ้นภายหลังการชุมนุมประท้วงเมื่อสุดสัปดาห์เกิดเหตุรุนแรงเช่นเดิม ตำรวจยิงแก๊สน้ำตา, ฉีดน้ำแรงดันสูง และใช้กระสุนยางขับไล่ผู้ประท้วงคลุมหน้าที่ขว้างปาระเบิดขวดและวางเพลิง
ภาพข่าวทีวีเผยภาพที่ผู้ประท้วงรวมตัวกันบนถนนนาธานที่เป็นย่านที่ตั้งของโรงแรมและแหล่งช็อปปิ้งของฝั่งเกาลูนเมื่อวันอาทิตย์ แล้วจุดไฟเผาสิ่งกีดขวางบนถนน โยนน้ำมันในขวดพลาสติกใส่กองไฟบริเวณทางเข้าสถานีรถไฟใต้ดินหลายสถานี ที่สถานีหนึ่ง ผู้ประท้วงกลิ้งถังโลหะที่กำลังติดไฟลงบันไดไปยังตำรวจที่อยู่ด้านล่าง ตำรวจแถลงว่า ตำรวจใช้แก๊สน้ำตา 88 นัดและกระสุนยาง 27 นัดระหว่างการปะทะวันอาทิตย์
พอล ชาน รัฐมนตรีคลังของฮ่องกง เปิดเผยผ่านบล็อกว่า ผลกระทบจากการชุมนุมประท้วงต่อเศรษฐกิจของฮ่องกงนั้นครอบคลุม และการประเมินตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3 เบื้องต้นที่จะเปิดเผยในวันพฤหัสบดีนี้ จะแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจฮ่องกงหดตัวลงเป็นไตรมาสที่ 2 ติดต่อกัน ซึ่งนิยามทางเทคนิคคือภาวะเศรษฐกิจถดถอย
เขากล่าวด้วยว่า น่าจะเป็นเรื่องที่ "ยากสุดขีด" ที่การขยายตัวทางเศรษฐกิจประจำปีนี้จะบรรลุเป้าหมาย 0-1% ที่รัฐบาลคาดการณ์ไว้ก่อนหน้าที่จะเกิดการประท้วง
สถานการณ์ไม่สงบยืดเยื้อส่งผลให้นักท่องเที่ยวไม่กล้ามาเยือนเขตปกครองพิเศษแห่งนี้ จำนวนนักท่องเที่ยวในเดือนตุลาคมลดลงเกือบ 50% ซึ่งชานกล่าวว่าเป็นเรื่อง "ฉุกเฉิน"
ธุรกิจค้าปลีกในฮ่องกงเอง ตั้งแต่ศูนย์การค้าจนถึงธุรกิจของครอบครัว ถูกบังคับให้ต้องปิดกิจการหลายวันในช่วงไม่กี่เดือน แม้ว่ารัฐบาลฮ่องกงจะประกาศมาตรการสนับสนุนผู้ประกอบการขนาดเล็กและขนาดกลางแล้วก็ตาม แต่ชานยอมรับว่า มาตรการเหล่านี้ช่วยลดแรงกดดันได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |