ดีเซลบี10 ไม่ลองไม่รู้


เพิ่มเพื่อน    

            ช่วงปลายฝนต้นหนาวของปีนี้ดูจะมีเรื่องวุ่นๆ ให้ลุ้นกับมากมาย ทั้งรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินว่าจะเซ็นไม่เซ็น สุดท้ายก็เรียบร้อยโรงเรียนจีน การรถไฟแห่งประเทศไทย กับกลุ่มซีพี ก็เซ็นสัญญาเดินหน้าโครงการไปเรียบร้อย โล่งไปอีกหนึ่ง แต่อีกหนึ่งก็โผล่มากะทันหัน คือการที่สหรัฐอเมริกาตัดสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (จีเอสพี) สินค้าไทย โดยอ้างเรื่องปัญหาแรงงานนั้น ดูเหมือนเอกชนหลายที่จะได้รับผลกระทบ แต่ก็ไม่มากนัก และยังมีเวลาอีก 6 เดือนในการเตรียมรับมือ ล่าสุด กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ ได้วาง 7 มาตรการรองรับผลกระทบการตัดสิทธิจีเอสพีสหรัฐ พร้อมทั้งเตรียมหา 10 ตลาดใหม่ทดแทน ซึ่งจะเป็นอย่างไรต่อไปก็ต้องจับตาดูกัน

                อีกเรื่องที่คาราคาซังแก้กันไม่ตกสักที เดี๋ยวผลุบเดี๋ยวโผล่  ก็หนีไม่พ้นเรื่องฝุ่น PM2.5 ที่สร้างปัญหาให้กับพื้นที่เมืองใหญ่ๆ อย่างกรุงเทพฯ ที่กำลังประสบปัญหาอยู่ขณะนี้ จะดีขึ้นหน่อย เพราะมีฝนตกลงมาเมื่อวันสองวันนี้ แม้จะทำให้ฝุ่นดูจะลดลงไป แต่ก็เป็นเพียงชั่วคราวเท่านี้ เมื่อลมสงบ ฝุ่นก็มาอีก

                ทำให้ทั้งภาครัฐและเอกชนต่างพยายามหาแนวทางแก้ไขต้นตอของปัญหา ซึ่งกระทรวงพลังงานในฐานะที่เป็นผู้กำกับด้านพลังงานของประเทศก็รณรงค์ส่งเสริมการใช้น้ำมันดีเซล B10 ซึ่งเป็นน้ำมันดีเซลที่มีสัดส่วนผสมไบโอดีเซล (B100) ผสมอยู่ 9-10% แทน B7 เดิม และกำหนดให้ B10 เป็นดีเซลฐานสำหรับรถดีเซลทั่วไป ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 พร้อมทั้งให้ B7 เป็นดีเซลทางเลือกสำหรับรถรุ่นเก่าและรถยุโรป และ B20 เป็นดีเซลทางเลือกสำหรับรถบรรทุกขนาดใหญ่ 

                นอกจากจะช่วยดูดซับน้ำมันปาล์มดิบ หรือซีพีโอได้ประมาณ 2 ใน 3 ของปริมาณการผลิตทั้งหมดของประเทศในปัจจุบัน หรือประมาณ 2.2 ล้านตันต่อปี และสร้างสมดุลปาล์มน้ำมันนี้จะช่วยสร้างเสถียรภาพราคาปาล์มน้ำมัน ทำให้ราคาสูงขึ้น รวมถึงยังช่วยดูแลสิ่งแวดล้อมลดปริมาณการเกิดฝุ่นละออง PM 2.5 และยังประหยัดการนำเข้าน้ำมันดีเซลได้ถึง 3% หรือประมาณ 1.8 ล้านลิตรต่อวัน หรือประมาณ 60 ล้านลิตรต่อปี 

                เรื่องนี้ บมจ.ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก หรือโออาร์ ซึ่งเป็นผู้ค้าน้ำมันรายใหญ่ของประเทศ ได้ประกาศความพร้อมสนับสนุนนโยบายกระทรวงพลังงานที่กำหนดให้น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี10 เป็นน้ำมันประเภทหลักสำหรับรถดีเซลทั่วไป

                โดยโออาร์จะขยายจุดจำหน่ายน้ำมันพีทีที อัลตร้าฟอร์ซ ดีเซล บี10 ภายในสถานีบริการน้ำมันพีทีที สเตชั่น จำนวน 300 แห่งทั่วประเทศภายในปี 2562 และเตรียมความพร้อมให้สถานีบริการน้ำมันพีทีที สเตชั่น ทุกแห่งสามารถจำหน่ายน้ำมันพีทีที อัลตร้าฟอร์ซ ดีเซล บี10 ภายในวันที่ 1 มีนาคม 2563

                อย่างไรก็ตาม ด้วยคุณสมบัติของน้ำมันพีทีที อัลตร้าฟอร์ซ ดีเซล บี10 ที่เผาไหม้สมบูรณ์ ลดควันดำและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ได้ จึงช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม

                นอกจากนี้ ยังมีราคาถูกกว่าน้ำมันดีเซลธรรมดาถึงลิตรละ 2 บาท พร้อมเติมสารเพิ่มค่าซีเทนที่ช่วยเพิ่มกำลังของเครื่องยนต์ และสารทำความสะอาดหัวฉีด ป้องกันการอุดตันของหัวฉีด อีกทั้งสมาคมผู้ผลิตรถยนต์แห่งประเทศญี่ปุ่น (JAMA) ยังรับรองคุณภาพการใช้งาน โดยผู้ใช้รถดีเซลสามารถตรวจสอบรุ่นรถที่ใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี10 ได้จากเว็บไซต์ของกรมธุรกิจพลังงาน

                พร้อมกันนี้ ท่าน รมว.พลังงาน สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ถึงกับออกมาการันตีต่อข้อกังวลที่มีต่อเครื่องยนต์ทางค่ายรถยนต์ที่ได้เข้ามาร่วมกิจกรรมครั้งนี้ต่างร่วมยืนยันว่า ดีเซล B10 สามารถใช้ได้อย่างปลอดภัยกับรถเครื่องยนต์ดีเซลหลายๆ รุ่น อาทิ โตโยต้า อีซูซุ นิสสัน ฟอร์ด เอ็มจี เชฟโรเลต เป็นต้น ส่วนรถรุ่นเก่าและรถค่ายยุโรปก็ยังมีน้ำมันทางเลือก B7 ไว้รองรับ พร้อมทั้งจะทำการตรวจสอบคุณภาพน้ำมันตั้งแต่กระบวนการผลิต จนถึงการจำหน่ายที่สถานีบริการน้ำมัน มั่นใจได้ในคุณภาพของ B10

                ท่าน รมว.พลังงาน การันตีขนาดนี้ ไม่ลองไม่ได้เสียแล้ว.

บุญช่วย  ค้ายาดี

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"