ปส.จับยาบ้า 4 ล้านเม็ด-กัญชา 600 กก.มูลค่า 415 ล้านบาท


เพิ่มเพื่อน    

28 ต.ค 62 -  ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด(บช.ปส.) พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (ผบช.ปส.)  พร้อม พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนง,พล.ต.ต.มงคล วรุณโณ รองผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (รอง ผบช.ปส.) ร่วมแถลงผลการจับกุม 10 ผู้ต้องหา คดียาเสพติด ยึดของกลางยาบ้ากว่า 4,000,000 เม็ด กัญชา 600 กิโลกรัม ไอซ์ 3 กิโลกรัม ยาอี 10,000 เม็ด และโคเคน 300 กรัม รวมมูลค่ายาเสพติดและทรัพย์สินที่ได้จากการตรวจยีดกว่า 415 ล้านบาท

พล.ต.ท.ชินภัทร กล่าวว่า คดีแรก จับกุมนายพงษ์ตรี อนันต์กิจเกษตร อายุ 32 ปี,นายชาติชาย แซ่กือ อายุ 25 ปี,นายชัชวาล แซ่ม้า อายุ 42 ปี และนายพิศิษฐ์ แซ่ท้าว อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาในความผิดฐาน”ร่วมกันกับพวกที่หลบหนี มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ครอบครองเพื่อจำหน่าย” จับกุมได้ที่ด่านตรวจป่าไม้ ถนน1083 อ.บ้านโคก จ.อุตรดิตถ์ พร้อมของกลางยาบ้า 4 ล้านเม็ด รถบรรทุก 3 คัน และโทรศัพท์มือถือ 5 เครื่อง

สืบเนื่องจากตำรวจได้ติดตามเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดที่เป็นเครือญาติกัน ได้รับการว่าจ้างจากนายทุนให้ลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ภาคเหนือตอนบน มาส่งให้กับลูกค้าในภาคกลางเป็นประจำ จึงวางแผนสกัดกั้นก่อนจับกุมนายชัชวาล และนายพิศิษฐ์ ได้ที่ด่านตรวจป่าไม้ดังกล่าว ก่อนตามจับกุมนายชาติชาย ได้ที่สามแยกห้วยมุ่น ต.ห้วยมุ่น จ.อุตรดิตถ์ และจับกุมนายพงษ์ตรี ได้ที่สามแยกบ้านห้วยเดื่อ อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ ซึ่งผู้ต้องหากลุ่มนี้ เป็นเครือข่ายลำเลียงยาเสพติดเดียวกับ นายจื้อ แซ่กือ อายุ 37 ปี ที่เคยถูกตำรวจภูธรภาค 7 จับกุมได้พร้อมไอซ์ 596 กิโลกรัม ที่ อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท เมื่อเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา จึงคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนติดตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการที่เหลือ พร้อมยึดทรัพย์ตาม พ.ร.บ.มาตรการฯ ต่อไป

พล.ต.ท.ชินภัทร กล่าวต่อว่า คดีที่ 2 จับกุมนายกิตติวัฒน์ หรือเก่ง กิ่งทอง อายุ 37 ปี และนายธนา หรือหน่อง ทองคำ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาในความผิดฐาน”ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ไว้ครอบครองเพื่อจำหน่ายฯ” พร้อมของกลางกัญชา 200 กิโลกรัม รถกระบะ 1 คัน และโทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง จับกุมได้ที่ปากซอยวัดเทพกัญญาราม ถ.นิตโย ต.ตางโฮง อ.เมือง จ.สกลนคร ภายหลังขยายผลการจับกุมจากตำรวจทางหลวง ว่าจะมีกลุ่มลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากแนวชายแดนภาคอีสานมาส่งให้กับลูกค้าในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ตำรวจจึงวางแผนติดตามจนพบรถกระบะต้องสงสัย ยี่ห้อโตโยต้า ทะเบียน 8กอ1210 กทม. เข้าไปจอดในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งใน อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ก่อนจะมีผู้ขี่รถจักรยานยนต์นำรถกระบะดังกล่าวเข้าไปหมู่บ้านย่านบ้านแพง กระทั่งวิ่งออกมาตามถนนนิตโยด้วยความเร็วสูง ต่อมาตำรวจได้ขอตรวจค้น พบกัญชาของกลางซุกซ่อนในกระบะหลังของรถ โดยมีผ้าใบคลุมปิดบังไว้ จึงจับกุมผู้ขับรถกระบะ พร้อมคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน บก.ปส.2 ดำเนินคดี

พล.ต.ท.ชินภัทร กล่าวอีกว่า คดีที่ 3 จับกุม นายอำพันธ์ บ่าวรักษา อายุ 32 ปี,นายรุ่งโรจน์ สุวรรณท้าว อายุ 29 ปี และนายโกเมนทร์ วัฒนะแสง อายุ 38 ปี ผู้ต้องหาในความผิดฐาน “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ไว้ครอบครองเพื่อจำหน่าย” จับกุมได้ริมถนนนิตโย ใกล้ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งใน อ.พังโคน จ.สกลนคร พร้อมของกลางกัญชา 400 กิโลกรัม ภายหลังชุดสืบสวนทราบเบาะแสของคนร้ายที่กำลังเตรียมนำยาเสพติดจากชายแดนภาคอีสานมาส่งมอบให้ลูกค้าในภาคกลาง ซึ่งได้ขับรถเป็นขบวนทิ้งช่วงกันมาตั้งแต่ อ.กุสุมาลย์ ถึง อ.เมือง จ.สกลนคร โดยมีรถยนต์เก๋งโตโยต้า อีโนว่า สีดำ ทะเบียน 2กข3874 กทม.เข้าไปจอดริมถนนใกล้ปั๊มน้ำมันดังกล่าว เมื่อตรวจค้นพบว่านายอำพันธ์ เป็นคนขับ และมีของกลางกัญชาแห้งอัดแท่งอยู่ภายในรถ จึงจับกุมพร้อมตามสกัดผู้ต้องหาที่เหลือซึ่งได้ขับรถหนีไปก่อนหน้าดำเนินคดี โดยขยายผลตรวจยึดรถยนต์อีก 2 คัน และสมุดบัญชีเงินฝาก 3 เล่ม รวมทรัพย์สินมูลค่า 2 ล้านบาท

ด้าน พล.ต.ต.วัชระ ทิพย์มงคล ผบก.ปส.3 กล่าวว่า คดีที่ 4 จับกุม น.ส.เมลานี เดลา โรม่า เบเนดิกโต(MS.MELANIE DELA ROMA BENEDICTO) ชาวฟิลิปปินส์ อายุ 39 ปี พร้อมไอซ์ 3 กิโลกรัม และโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง ภายหลังเจ้าหน้าที่ได้พบบุคคลต้องสงสัยรายนี้ที่เดินทางมาจากเมืองเวียงจันทร์ ประเทศลาว กำลังจะมุ่งหน้าไปยังกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ได้บรรทุกของต้องสงสัยมาในสัมภาระ เมื่อตรวจสอบพบไอซ์น้ำหนักรวม 3 กิโลกรัม ซ่อนอยู่ในช่องลับของกระเป๋าเดินทาง จึงแจ้งข้อหา “นำยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) เข้ามาในราชอาณาจักรฯ,พยายามส่งออกยาเสพติดฯ และมียาเสพติดฯ ไว้ครอบครองเพื่อจำหน่าย” ก่อนนำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ กก.1 บก.ปส.3 ยังสามารถตรวจยึดยาอี ซึ่งซุกซ่อนมาในชุดหลอดไฟและกล่องบอร์ดแอลอีดี ที่ส่งผ่านพัสดุไปรษณีย์อีก 4 ชิ้น โดยทั้งหมดมีต้นทางจากประเทศโปรตุเกส พัสดุกล่องแรกมียาอี 5,000 เม็ด และโคเคนอีก 300 กรัม ปลายทางผู้รับ จ.ชลบุรี กล่องต่อมาพบยาอีอีก 5,000 เม็ด ปลายทาง จ.ปทุมธานี จึงยึดของกลางทั้งหมดไว้ตรวจสอบก่อนดำเนินคดีตามกฎหมาย.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"