28 ต.ค.62- ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาภิเษก พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา นัดแจ้งผลคำสั่งของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าจะมีความเห็นแย้งหรือไม่ในคดีที่พนักงานอัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่, นายไกลก้อง ไวทยการ นายทะเบียนสมาชิกพรรค และ น.ส.จารุวรรณ ศรัณย์เกตุ กรรมการบริหารพรรค ที่พนักงานสอบสวน บก.ปอท. ได้เคยส่งสำนวนพร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งสามในความผิดฐานร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จฯ ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 (แก้ไขฉบับที่ 2 พ.ศ.2560) มาตรา 14 (2) ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 จากกรณีผู้ต้องหาร่วมกันจัดรายการ “คืนวันศุกร์ให้ประชาชน” ผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ ในเพจอนาคตใหม่-The Future We Want และเพจ Thanathorn Juangroongruangkit วิจารณ์กระแสข่าวกรณีพลังดูดของ คสช.
ในวันเวลาเดียวกัน พนักงานสอบสวน บก.ปอท. ได้นัดนายปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อและเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ พร้อมนำสำนวนพร้อมความความเห็นสมควรสั่งฟ้อง มายื่นให้พนักงานอัยการ สำนักงานคดีอาญาพิจารณาสั่งฟ้องในความผิดฐานดูหมิ่นศาล กรณีนายปิยบุตรเคยอ่านแถลงการณ์วิจารณ์ศาลรัฐธรรมนูญ หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยยุบพรรคไทยรักษาชาติ โดยในวันนี้ นายธนาธร เดินทางมาพร้อมกับนายปิยบุตร และนายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความ ภายหลังจากเข้าพบพนักงานอัยการ สำนักงานคดีอาญาเสร็จสิ้นแล้ว
นายกฤษฎางค์ กล่าวว่า ในวันนี้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติยังไม่ส่งความเห็นกลับมาที่อัยการว่าจะมีความเห็นแย้งหรือเห็นด้วยกับคำสั่งไม่ฟ้องของพนักงานอัยการ ถ้ามีความเห็นแย้ง ก็จะต้องส่งอัยการสูงสุดเป็นผู้พิจารณาชี้ขาด แต่ถ้าเห็นด้วยคดีของนายธนาธรจะสิ้นสุดที่สั่งไม่ฟ้อง โดยพนักงานอัยการ ได้เลื่อนนัดแจ้งคำสั่งของสำนักงานตำรวจแห่งชาติอีกครั้งในวันที่ 2 ธ.ค. นี้ เวลา 10.00 น.
นายกฤษฎางค์ กล่าวว่า ในส่วนนายปิยบุตร วันนี้ทาง ปอท. ได้นำสำนวนพร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้องในความผิดฐานดูหมิ่นศาลรัฐธรรมนูญ มายื่นให้อัยการสำนักงานคดีอาญาเพียงข้อหาเดียว ไม่ได้ยื่นในส่วนของความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ซึ่งทางอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญาได้นัดฟังคำสั่ง ในวันที่ 28 พ.ย. นี้ เวลา 10.00 น. ซึ่งใน 1-2 วันนี้ เราจะยื่นคำร้องขอความเป็นธรรมต่ออธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา เพื่อขอให้มีคำสั่งสอบพยานเพิ่มจากที่เราเคยร้องขอในชั้น ปอท. แต่ ปอท.กลับไม่สอบให้ กลับสอบแต่พยานที่มีแนวคิดตรงกันข้ามกับพรรคอนาคตใหม่ เพราะจากที่ดูข้อหามันไม่ใช่ประเด็นที่จะผิดกฎหมาย เป็นเพียงแค่มีความต้องการเอานายปิยบุตรขึ้นศาล เรามั่นใจว่าถ้าเป็นนักกฎหมายได้มาอ่านสำนวนที่ฟ้อง จะรู้ว่าเป็นเรื่องที่เบาหวิว ถ้าเป็นคดีของคนอื่นคงไม่รับฟ้องคดี ส่วนการขอสอบพยานเพิ่มเติม ก็จะเป็นพยานที่เกี่ยวพันในเหตุการณ์
ขณะที่นายปิยบุตร กล่าวว่า ตนมองว่ามาตรา 198 ที่ว่าด้วยเรื่องการดูหมิ่นศาล เปิดโอกาสให้ใครก็ได้เป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษในชั้นพนักงานสอบสวน ซึ่งพล.ต.บุรินทร์ ทองประไพ ฝ่ายกฎหมายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ก็ได้อาสาเป็นผู้ร้องทุกข์ในคดีนี้ ตรงนี้แสดงให้เห็นถึงจุดอ่อนของกฎหมายมาตราดังกล่าว เพราะต่อไปนี้หากมีบุคคลใดวิจารณ์ศาล ก็จะสามารถถูกใครก็ไม่รู้ที่ไม่เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีได้ เรื่องคดีที่ตนและนายธนาธรโดนในวันนี้ รวมถึงอีก 26 คดีที่พรรคอนาคตใหม่โดน ภายหลังจากการตั้งพรรคการเมืองมาได้เพียง 1 ปีเศษ ประชาชนคนทั่วไปสามารถวิเคราะห์กันได้ว่าทำไมถึงได้โดนคดีมากมาย ทั้งที่เรายังไม่เคยได้บริหารแผ่นดินหรือได้รับอำนาจอะไรเลย เป็นเพียง ส.ส. ที่เป็นผู้แทนพูดในสภาแทนประชาชน แต่โดนคดีเต็มไปหมด
"อยากถามว่าทุกคนรู้สึกว่าพวกเราได้ทำผิดกฎหมายและต้องถูกยุบพรรคจริงหรือไม่ หรือว่าเพราะเราไปทำให้กลุ่มบุคคลที่ครองอำนาจอยู่ในขณะนี้ไม่สบายใจ พวกเราถึงต้องโดน ถ้าเชื่ออย่างหลังว่าเราจะต้องโดนเพราะไปขัดผู้มีอำนาจ แบบนี้ถือว่าเป็นเรื่องการเมือง เพราะถ้าไปเปิดกฎหมายอย่างละเอียด จะเห็นได้ว่าสิ่งที่แกนนำพรรคโดน หรือที่นายธนาธรโดนคดีในวันนี้ เรื่องมันควรจบตั้งนานแล้ว จากที่อัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง แต่วันนี้ตำรวจยังไม่ให้คำตอบมาก็ต้องยื้อ ต้องเสียเวลากันต่อไป"
นายปิยบุตร กล่าวว่า ในส่วนของตน พนักงานสอบสวน ปอท. ก็ไม่ได้สั่งฟ้องใน พ.ร.บ .คอมพิวเตอร์ฯ แล้วคนที่ไปแจ้งความอย่าง พล.ต.บุรินทร์ ได้มารับผิดชอบอะไรบ้างหรือไม่ หรือชีวิตมีแค่เดินไปฟ้องตำรวจอย่างเดียว เรื่องจะเป็นอย่างไรต่อไป ไม่รู้อย่างเดียว ภาพรวมทั้งหมดเราเรียกกันว่าการดำเนินคดีเพื่อกลั่นแกล้ง หรือปิดปาก อย่างเรื่องการแจ้งข้อหาของ ปอท.ที่ตนได้อ่านสำนวนก็พบว่าเป็นเพียงข้อกล่าวหาที่เบาหวิว สิ่งที่ พล.ต.บุรินทร์ เอามาแจ้งความตนก็เป็นการถอดเทปแบบผิดๆ ถูกๆ ไม่ตรงกับที่ตนได้พูด สามารถไปเปิดคลิปดูได้ ตนเองเป็นอาจารย์สอนกฎหมาย เคยวิจารณ์ศาลรัฐธรรมนูญมาตลอด ไม่เคยโดนคดีสักครั้งเดียว แต่พอเป็นนักการเมืองกลับโดนคดี
เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าวทิ้งท้ายถึงคดีหุ้นสื่อของนายธนาธรว่า อย่างเรื่อง หุ้นสื่อวี-ลัคฯ ที่จะมีคำวินิจฉัยในวันที่ 20 พ.ย. ซึ่งวัตถุประสงค์ตามรัฐธรรมนูญเรื่องห้ามถือหุ้นสื่อ เพื่อป้องกันอิทธิพลจากนัการเมืองการครอบงำสื่อ แต่ บ.วี-ลัค มีเดียไม่ใช่สื่อและปิดกิจการแล้ว กำลังอยู่ในช่วงชำระเลิกกิจการ และมีการโอนหุ้นกันไปเรียบร้อยแล้ว แต่กลับถูกดำเนินคดี ลองเทียบเคียงกับนักการเมืองที่ไม่มีหุ้นสื่อแต่กับมีคู่สมรสเป็นเจ้าของสื่อ คนๆ นี้กลับไม่โดนอะไรเลย เรื่องนี้จึงต้องพิจารณากันถึงวัตถุประสงค์ของกฎหมาย
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |