จับตาสาวกอนค.ไขก๊อก


เพิ่มเพื่อน    

    อนาคตดิ่งเหว! พรรคพ่อฟ้าอาการหนัก 50 อดีตผู้สมัคร ส.ส.ยกโขยงยื่นใบลาออก แฉยับคอร์รัปชันภายใน-ไม่เห็นหัว ส.ส.พื้นที่ ส่งเด็กฟันน้ำนมสายตรงหัวหน้าพรรคคุม ชี้ชะตาแกนนำทิ้งมวลชนเลือกตั้งหน้าหนาวแน่ ยิ่งช้ำหนักโพลตอกหน้าเฉยๆ หากถูกยุบ ด้านพี่ศรีไม่ปล่อยช่อ ร้อง กกต.สอบเงินบริจาค 1 ล้าน 
    มีความเคลื่อนไหวทางการเมืองที่ส่งผลกระทบต่อพรรคอนาคตใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยมีรายงานว่า ในวันจันทร์ที่ 28 ต.ค. อดีตผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่ในหลายพื้นที่ ประมาณ 50 คน เตรียมยื่นใบลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รวมทั้งยังมีแนวโน้มอีกหลายพื้นที่
    ทั้งนี้ มีรายงานว่าสาเหตุหลักมาจากไม่พอใจการบริหารงานของแกนนำพรรค โดยเฉพาะสาขาพรรคในจังหวัดต่างๆ ที่ส่งเจ้าหน้าที่จากส่วนกลางไปควบคุมดูแล ซึ่งคนเหล่านี้มีอายุระหว่าง 24-27 ปี และอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของคนสนิทของนายธนาธรอีกทีหนึ่ง ซึ่งไม่ว่าผู้สมัครในพื้นที่จะทำกิจกรรมอะไร ต้องมีการรายงานให้คนจากส่วนกลางทราบ นอกจากนี้ การจัดกิจกรรมต่างๆ ในพื้นที่ ต้องมีการรายงาน หากมีการเบิกงบ ต้องทำผ่านเจ้าหน้าที่ส่วนกลาง ทำให้เกิดปัญหาด้วยเช่นกัน ขณะที่บางสาขามีการทุจริตภายในเกิดขึ้น เช่น ขอเบิกค่าน้ำมันรถ 1,000 บาท คนส่วนกลางอาจเขียนบิล 2,000 บาท เมื่อผู้สมัครพื้นที่ร้องเรียนก็ไม่สนใจ ส่วน ส.ส.สอบตกภายหลังการเลือกตั้งก็ไม่สามารถต่อโดยตรงกับนายธนาธรหรือนายปิยบุตรได้เลย 
      “ลองคิดดูว่า ผู้สมัคร ส.ส.เขตส่วนใหญ่มีอายุเฉลี่ย 30-50 ปี ต้องคอยรายงาน คอยถาม หรือขออนุญาตกับคนอายุ 24-27 ปีตลอด แล้วแบบนี้ปัญหาจะไม่เกิดขึ้นได้อย่างไร หากแค่เดือนเดียวพอรับได้ แต่มีหลายเขตที่เริ่มหาเสียงกันมาก่อนแล้ว พอปัญหาทับซ้อนกันเรื่อยๆ หลายคนก็ไม่ไหว ทำให้เกิดปัญหาอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้ อย่างในจังหวัดอุบลราชธานี มหาสารคาม ขอนแก่น นครราชสีมา และอีกหลายจังหวัด มีปัญหาลักษณะนี้ทั้งหมด" รายงานข่าวระบุ 
    รายงานข่าวระบุด้วยว่า ในช่วงก่อนการเลือกตั้ง ทางพรรคมีการตั้งเป้าหมายไว้ชัดเจนว่า ในแต่ละพื้นที่จะต้องหาจำนวนสมาชิกได้จำนวนเท่าไรต่อเดือน รวมทั้งยอดขายของที่ระลึกด้วยเช่นกันว่าจะต้องทำยอดได้เท่าไร หากใครทำได้ไม่ตามเป้าหมายก็จะถูกจับตาจากพรรค และเมื่อการเลือกตั้งเสร็จสิ้น บางรายก็อาจจะโดนกดดันให้ลาออกเพื่อเปิดทางให้คนอื่นเข้ามาทำงานแทน 
    รายงานข่าวระบุด้วยว่า ในช่วงการสัมมนาพรรคก่อนการเลือกตั้งในเดือน ธ.ค.2561 นั้น นายธนาธรและนายปิยบุตรกล่าวบนเวทีอย่างชัดเจนว่า ไม่ว่าผลการเลือกตั้งในครั้งนี้จะออกมาเป็นอย่างไร เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังอย่างแน่นอน เว้นแต่คนที่ทรยศ หักหลังพรรคเท่านั้น ทำให้บรรดาผู้สมัครแต่ละคนต่างเดินหน้าหาเสียง ทำงานกันอย่างเต็มที่ 
    รายงานระบุว่า แต่พอหลังการเลือกตั้งจบ แล้วมีการสัมมนาส.ส.ทั้งหมดอีกครั้ง ปรากฏว่านายธนาธรกลับบอกว่าไม่ได้ตั้งพรรคมาให้ใครหาผลประโยชน์ รวมทั้งไม่ได้มีการให้กำลังใจหรือขอโทษใดๆ ทั้งสิ้น พร้อมระบุด้วยว่า อย่ามาเรียกร้องอะไรจากพรรค หรือคาดหวังอะไรจากพรรคทั้งสิ้น แบบนี้หรือคือเรื่องเสรีภาพ เรื่องความเท่าทียม หรือการเปิดโอกาสให้ทุกคนพูดอย่างที่พรรคกล่าวอ้าง ส.ส.สอบตกที่มีตำแหน่งส่วนใหญ่ ก็เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่มีความสนิทสนมกับแกนนำพรรค ลองนับจำนวนดูก็ได้ มีไม่ถึง 50 คนที่ได้ตำแหน่ง แล้วอีก 270 คนล่ะหายไปไหน หากยึดตามคำพูดที่นายธนาธรบอก
    “การกระทำแบบนี้เป็นการสร้างศัตรูทั่วไปหมด อย่างจังหวัดภาคใต้ ส่วนใหญ่ไม่เอาเรื่องการเลือกตั้ง อบจ.แล้ว เพราะพวกเขารู้สึกถูกพรรคหักหลังจากสิ่งที่เกิดขึ้น หลายคนตั้งข้อสังเกตว่า การเลือกตั้งครั้งต่อไป พรรคอนาคตใหม่จะไม่ได้เสียงจากประชาชนมากเท่าการเลือกตั้งครั้งนี้อีกแล้ว เพราะบรรดาแกนนำพรรคทิ้งมวลชนในพื้นที่ไว้ข้างหลังโดยไม่สนใจไยดี หลังได้รับการเลือกตั้ง และหลายคนบอกว่าจะพรรคอนาคตใหม่จะไม่มีทางกลับเป็นเหมือนเดิมอีกแล้ว เพราะฐานมวลชนตามต่างจังหวัดเองก็แตกกับส่วนกลางไปเยอะ” รายงานข่าวระบุ
    รายงานข่าวระบุอีกว่า ในสัปดาห์หน้าจะมีการประชุม ส.ส.พรรคเพื่อเคลียร์ปัญหา โดยเฉพาะกรณีของการโหวต พ.ร.ก.อัตรากำลัง ที่มีทั้ง 7 คนไม่ได้โหวตไปในแนวทางเดียวกันกับพรรค โดย ส.ส.ที่ได้รับการจับตาเป็นพิเศษคือ น.ส.กวินนาถ ตาคีย์ และ น.ส.ศรีนวล บุญลือ ซึ่งกรณีของ น.ส.กวินนาถนั้น เป็นไปได้ยากมากที่จะได้รับโอกาสให้อยู่ในพรรคต่อไป
    อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันจันทร์ ที่อดีตผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่ประมาณ 25 คน เตรียมจะเดินทางไปยื่นหนังสือลาออกที่ กกต. เวลา 10.30 น. ซึ่งเดิมจะมี 50 คนนั้น ปรากฏว่าหลังกระแสข่าวออกมาช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ได้มีตัวแทนของพรรคติดต่อกับอดีตผู้สมัคร โดยการเสนอตำแหน่งอนุกรรมาธิการบางชุด ตำแหน่งผู้ช่วย ส.ส.บางราย เพื่อแลกกับการให้หยุดเคลื่อนไหว โดยมีอดีตผู้สมัครยอมรับในส่วนนี้ประมาณ 10-15 ราย
    วันเดียวกัน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล นำเสนอผลสำรวจภาคสนามเรื่อง คนคิดอย่างไรถ้าอนาคตใหม่ถูกยุบ พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 77.4 รู้สึกเฉยๆ ถ้าพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ และเมื่อจำแนกตามเพศ พบว่าส่วนใหญ่หรือร้อยละ 74.0 ของเพศชาย และร้อยละ 79.8 ของเพศหญิง ที่น่าสนใจคือ แม้ในกลุ่มคนที่อายุต่ำกว่า 20 ปีส่วนใหญ่หรือร้อยละ 81.8 ซึ่งเป็นสัดส่วนที่สูงเป็นอันดับสองรองจากคนช่วงอายุ 40-49 ปี ร้อยละ 83.1 ที่รู้สึกเฉยๆ ถ้าพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ
    อย่างไรก็ตาม ยังมีความคืบหน้ากรณีเงินบริจาคของพรรคอย่างต่อเนื่อง โดยนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ระบุว่า บัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ของ น.ส.พรรณิการ์ วานิช ส.ส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคอนาคตใหม่ ที่ยื่นแบบแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช. เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับเงินบริจาคให้กับพรรคอนาคตใหม่นั้น อาจเป็นเรื่องผิดปกติ เนื่องจากมีเงินฝากไม่กี่หมื่นกี่แสน แต่ไปบริจาคเกินกว่าที่ตนเองมีรายได้อยู่ มันก็เป็นเรื่องผิดปกติวิสัยของคนทั่วไปพึงกระทำ หรืออาจเป็นเทคนิคในการกระจายการบริจาคของนายทุนพรรคตัวจริงเพื่อเลี่ยง ม.66 แห่ง พ.ร.ป.พรรคการเมือง 2561 หรือไม่ หรือเป็นเงินที่ได้มาโดยวิธีการอื่นที่ไม่เป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งต้องยื่นให้ กกต.ตรวจสอบในวันจันทร์นี้ 
     “เพราะการบริจาคเงินเกินกว่ารายได้ที่ตนเองมี ต้องไปชี้แจงให้ กกต.ทราบว่า 1 ล้านบาทมีรายได้มาจากไหน ได้มาอย่างไร มีการเสียภาษีถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ เพราะหากพบว่าเงินดังกล่าวมิใช่ของคุณพรรณิการ์ หรืออาจเป็นเงินที่ได้มาโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ตาม ม.72 ประกอบ ม.74, ม.75 ของ พ.ร.ป.พรรคการเมือง 2561 ซึ่งก็จะมีผลลุกลามไปถึงการถูกยุบพรรคการเมืองที่รับบริจาคตาม ม.92 วรรคหนึ่ง (3)" นายศรีสุวรรณระบุ
    นายอุดม รัฐอมฤต อดีตโฆษก กรธ. กล่าวกรณีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ บริจาคเงิน 10 ล้านบาท ขณะที่ภรรยาบริจาคเงิน 7.2 ล้านบาทว่า ไม่ถือว่าผิด พ.ร.ป.พรรคการเมืองมาตรา 66 เพราะกฎหมายให้สิทธิบุคคลใดบริจาคก็ได้ไม่เกิน 10 ล้านบาท และไม่ได้ห้ามให้ภรรยาบริจาค และไม่ถือว่าเป็นคนคนเดียวกัน เนื่องจากเป็นเงินของแต่ละคนบริจาคออกไป ต่างคนต่างให้ ไม่ได้มีการฉ้อฉลนำเงินเข้ามาเพื่อตัวเองหรือพวกพ้อง เว้นแต่กรณีดังกล่าวมีการไปบังคับให้อีกฝ่ายบริจาคแทนตัวเองจะถือว่ามีความผิดกฎหมาย เช่นเดียวกับในกรณีของการบริจาคของนิติบุคคล หากบริจาคเกินปีละ 5 ล้านบาท จะต้องแจ้งให้ผู้ถือหุ้นรับทราบด้วย มิเช่นนั้นก็จะมีความผิด.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"