สองรูปสองมุม คนละเรื่องเดียวกัน


เพิ่มเพื่อน    

    ดูสองรูปนี้เปรียบเทียบกันแล้วจะเข้าใจการเมืองระหว่างประเทศมากขึ้น
    ถ้าผมเป็นครูสอนวิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จะออกข้อสอบถามนักเรียนว่า
    สองภาพนี้อธิบายมุมมองของการทูต, เศรษฐกิจ, การเมืองและความมั่นคงระหว่างประเทศไทยกับจีนอย่างไร?
    ผมลองตั้งคำถามนี้ใน Facebook ของผมแล้ว ได้คำตอบหลากหลาย แล้วแต่จะมองว่าใครได้ประโยชน์หรือเสียประโยชน์อย่างไร
    แต่ผมมองว่าเป็นความเคลื่อนไหวทั้งสองฝ่ายที่น่าสนใจ และไม่จำเป็นต้องมองในแง่ลบแต่เพียงด้านเดียว ไม่ว่าคุณจะชอบหรือไม่ชอบฝ่ายไหน 
    เพราะหากมองจากข้างนอก อาจจะตีความว่าประเทศไทยนี่ช่างคบหากับทุกฝ่ายได้จริงๆ 
    แต่ความเป็นจริงก็คือว่ารองนายกฯ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ไปเยี่ยมแคร์รี หล่ำ ผู้บริหารสูงสุดของฮ่องกง ก็เพื่อไปให้กำลังใจและแสดงการสนับสนุนเธอ
    อีกทั้งคุณสมคิดก็ยังยืนยันว่าประเทศไทยยังมั่นใจในอนาคตของฮ่องกงและเชื่อว่าอย่างไรเสีย คุณแคร์รี หล่ำ จะสามารถฟันฝ่าอุปสรรคและความวุ่นวายบนเกาะแห่งนั้นได้
    ก็เท่ากับว่ารัฐบาลไทยต้องการแสดงจุดยืนเคียงข้างกับปักกิ่งและรัฐบาลฮ่องกงไม่เสื่อมคลาย
    ยิ่งเห็นเพื่อนตกอยู่ในภาวะลำบากก็ยิ่งต้องแสดงความเห็นอกเห็นใจ ไม่ลังเล ไม่อยู่เฉยๆ เพื่อรอว่าฝ่ายไหนชนะแล้วค่อยแสดงตน
    อย่างนี้จีนถือว่าเป็น "มิตรแท้ในยามยาก"
    แม้ว่า ณ วันที่คุณสมคิดและคณะจากรัฐบาลไทยไปถึงฮ่องกงนั้นกำลังมีข่าวลือทำนองว่ารัฐบาลกลางที่ปักกิ่งกำลังพิจารณาจะหาคนมาแทนแคร์รี หล่ำ เพื่อลดระดับความตึงเครียดระหว่างเธอกับกลุ่มผู้ประท้วงที่บอกว่าไม่มีความศรัทธาต่อเธออีกต่อไป
    รองนายกฯ ไทยก็ยังได้แสดงตนเป็นมิตรกับฮ่องกงและปักกิ่ง จึงน่าจะเป็นภาพทางบวกมากกว่า
    อีกทั้งเป็นการตอกย้ำว่าแถลงการณ์ของสถานทูตจีนประจำประเทศไทยก่อนหน้านี้ เรื่องตั้งข้อสังเกตว่ามี "นักการเมืองไทยบางคน" ได้ไปแสดงอาการสนับสนุนฝ่ายประท้วง ทำให้ปักกิ่งไม่ค่อยสบายใจนั้นไม่เกี่ยวกับท่าทีของรัฐบาลไทย เป็นเรื่องของนักการเมืองฝ่ายค้านมากกว่า
    ส่วนภาพของคุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กับโจชัว หว่อง หนึ่งในแกนนำของฝ่ายประท้วงในฮ่องกงนั้นก็ถูกสถานทูตจีน (โดยไม่ได้เอ่ยชื่อใคร) ระบุว่าเป็นการแสดงออกที่ไม่เหมาะสม
    อีกทั้งผู้บัญชาการทหารบกของไทยก็ได้เอารูปภาพนี้ (ลบหน้าของคุณธนาธรออก) ประกอบปาฐกถาทำนองว่านักการเมืองไทยไม่ควรจะชักศึกเข้าบ้าน ด้วยการไปปรากฏตัวกับคนที่เป็นปฏิปักษ์ต่อมิตรเรา หรืออะไรทำนองนั้น
    คุณธนาธรได้ชี้แจงว่าเขาเจอหว่องเพียงประมาณ 5 นาที เพราะได้รับเชิญไปร่วมการเสวนาเรื่องการเมืองและประชาธิปไตย ไม่ได้สนทนาอะไรกันมากนัก
    แต่คุณธนาธรก็ยอมรับว่าในระหว่างที่เขาพูดบนเวทีนั้น ก็ได้บอกแรงบันดาลใจในการก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่
    ดังนั้นจึงคงไม่ต้องสงสัยว่าคุณธนาธรกับคุณสมคิดมีความเห็นไปคนละทางว่าด้วยการเมืองเรื่องฮ่องกง ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
    จะว่าไปแล้ว ผมว่าการมีสองภาพสองมุมในสองโอกาสระหว่างนักการเมืองไทยกับผู้นำและฝ่ายประท้วงของฮ่องกงนั้น น่าจะเป็นเรื่องดีสำหรับการแสดงความเป็นประชาธิปไตยของประเทศไทยด้วยซ้ำ
    นอกจากภาพของคุณธนาธรกับหว่องแล้ว ผมก็ยังไม่เห็นนักการเมืองไทยไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาลได้แสดงจุดยืนว่าสนับสนุนกลุ่มประท้วงที่ฮ่องกง
    ไม่เหมือนที่สหรัฐฯ และอังกฤษกับสหภาพยุโรป ที่มีแถลงการณ์จากนักการเมืองทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลที่ออกมาหนุนการเรียกร้องประชาธิปไตยที่ฮ่องกง
    จะว่าไปแล้ว นักการเมืองไทยก็ยังไม่ค่อยจะมีประเพณีแสดงความเห็นต่อเหตุการณ์การเมืองในต่างประเทศนัก จะด้วยเหตุผลเพราะไม่สนใจพอหรือเกรงจะกระทบความสัมพันธ์กับประเทศนั้นๆ ก็ตามที
    แต่สองภาพที่ผมนำมาประกอบวันนี้ก็น่าจะเป็นการสะท้อนว่า การเมืองไทยก็มีท่าทีที่หลากหลายต่อการเมืองระหว่างประเทศ เพราะเราเคารพในความเห็นที่แตกต่าง แต่ไม่เข้าไปก้าวก่ายเรื่องภายในของเขา เหมือนกับที่เราไม่ต้องการให้ประเทศอื่นมายุ่มย่ามกับเรื่องภายในของเรา
    ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐฯ, จีน, สหภาพยุโรป หรือแม้แต่เพื่อนสมาชิกอาเซียนอื่นๆ เราก็คาดหวังว่าเขาจะเคารพในความเป็นตัวตนของไทย
    ดังนั้นถ้าผู้นำจีนหรือสหรัฐฯ เห็นสองภาพนี้แล้ว ก็ควรจะต้องเข้าใจและแสดงความเคารพในความเป็น "การเมืองไทย" ของเรา
    ไม่ควรจะออกแถลงการณ์ต่อว่าต่อขานเราเหมือนเราต้องทำทุกอย่างตามที่เขาต้องการ
    เพราะเขาก็ไม่ได้ทำอะไรตามที่เราต้องการทุกอย่างนี่นา
    ส่วนคนไทยกันเองจะสาดใส่กันเพียงเพราะเห็นเขาถ่ายรูปด้วยกันโดยไม่ได้ถามไถ่ที่มาที่ไปก็เป็นเรื่องภายในของเรา
    เราจะวิวาทะกันเองวุ่นวายอย่างไรก็เป็นกิจการภายในของเรา...ใช่หรือไม่ครับท่าน?


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"