ชาวบ้านโวยไปแจ้งความยามดึกที่โรงพักคลองหลวง ปทุมธานี แต่ไม่มีตำรวจอยู่สักคน ชาวบ้านต้องนั่งหลับนอนหลับบนเก้าอี้ ผบก.เต้น สั่งสอบข้อเท็จจริง ด้าน "บิ๊กแป๊ะ" ก็เดือด กำชับต้นสังกัดต้องมีคำตอบชัดเจน ใครหย่อนยานฟันวินัย
    เมื่อวันที่ 27 ตุลาคมนี้ เกิดกระแสวิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง หลังได้มีผู้โพสต์ภาพและข้อความในสื่อออนไลน์ ระบุว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา เวลาประมาณ 03.00 น. ได้เดินทางไปที่ สภ.คลองหลวง ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เพื่อร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่เมื่อเดินทางไปถึงกลับไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจแม้แต่นายเดียวภายในห้องประจำวัน นอกจากนี้ยังมีประชาชนที่มารอแจ้งความถึงกับนอนหลับที่เก้าอี้รอแจ้งความกันหลายคน เพราะทั้งในห้องพนักงานสอบสวน และห้องประจำวันไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมทั้งไม่มีใครลงมารับเรื่อง
    ขณะเดียวกัน มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอคลองหลวง ได้นำตัวผู้ต้องหาที่จับกุมได้ในคดียาเสพติด มาส่งมอบให้พนักงานสอบสวน แต่กลับไม่มีพนักงานสอบสวนหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจรับเรื่อง จนเวลาผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมง จึงมีเจ้าหน้าที่ตำรวจทำหน้าที่ขับรถพนักงานสอบสวนเดินทางมารับเรื่อง
    เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองเปิดเผยว่า ได้โทรศัพท์ไปยังเบอร์ของนายตำรวจระดับสูงประจำโรงพัก ตามที่มีเบอร์ติดอยู่ที่หน้าห้องประจำวัน พร้อมระบุข้อความว่า ไม่ได้รับความสะดวก ไม่ได้รับความเป็นธรรม ให้สามารถติดต่อได้ แต่เมื่อโทรไปกลับไม่มีคนรับสาย จึงต้องโทรไปที่หมายเลข 191
    ผู้ร้องกล่าวว่า อยากให้ผู้บังคับบัญชาของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดำเนินการตรวจสอบว่าเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ได้อย่างไร เป็นเพราะงานเยอะหรือว่าละเลยการปฏิบัติหน้าที่
    ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. กล่าวว่า ตามที่สื่อออนไลน์นำเสนอข่าวเกี่ยวกับกลางดึกโรงพักแห่งหนึ่งไม่มีตำรวจรับแจ้งความถึงกับต้องนอนรอที่ห้องประจำวันในพื้นที่ จว.ปทุมธานี ว่า  ขณะนี้ พล.ต.ต.ชยุต มารยาทตร์ ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี ได้มีคำสั่งให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้แล้ว ถ้าผลการตรวจสอบพบว่ามีข้อบกพร่องปล่อยปละละเลยในการปฏิบัติหน้าที่ ก็จะดำเนินการในทางวินัยอย่างเด็ดขาดต่อไป
    รองโฆษก ตร. กล่าวอีกว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ได้ย้ำชัด ต้นสังกัดที่เกี่ยวข้องต้องมีคำตอบให้ชัดเจน หากผลการตรวจสอบพบเจ้าหน้าที่ตำรวจนายใดบกพร่อง ให้ว่าไปตามข้อเท็จจริง โดยให้ผู้บังคับบัญชาระดับ ผบก.ภ.จว. และ รองผบก.ภ.จว. มีมาตรการในการสุ่มตรวจ กวดขัน การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในความปกครองบังคับบัญชาของต้นสังกัดด้วย และให้ทุกหน่วยถือเอาความเดือดร้อนของประชาชนเป็นที่ตั้งในการปฏิบัติหน้าที่ บำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้แก่ประชาชน ตามหน้าที่ของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์
    "ที่ผ่านมา ผบ.ตร.ได้มีนโยบายด้านการดูแลความปลอดภัยชีวิตและทรัพย์สิน ให้ทุกหน่วยมีมาตรการในการป้องกันเหตุ ออกตรวจตราดูแลความสงบเรียบร้อย ระงับเหตุให้ทันต่อสถานการณ์ จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในเครื่องแบบและนอกเครื่องแบบ และการอำนวยความสะดวกด้านกระบวนการยุติธรรม ให้แก่ประชาชน จะต้องให้บริการในรูปแบบเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว (One Stop Service) ทั้งยังมีระบบการแจ้งเหตุด่วนเหตุร้าย หรือข้อมูลเบาะแสที่หมายเลขสายด่วน 191 และแอปพลิเคชัน Police I lert U หรือ ศปก.ตร. 1599 ตลอด 24 ชั่วโมง" พ.ต.อ.กฤษณะระบุ.