กกต.เปิดบัญชีเงินบริจาคพรรคการเมือง 3 เดือนรวด ชาติพัฒนาติดลมบนยอดอู้ฟู่ ส่วนพรรคลุงกำนันต่ำเตี้ยแค่ 2 หมื่นบาท สำรวจย้อนหลัง “อนาคตใหม่” แม่ยาย-เมียหัวหน้าพรรคแห่บริจาค อึ้ง! โฆษกช่อมีเงินติดบัญชีไม่ถึงแสน แต่หอบเงินสดบริจาคถึง 1 ล้านบาท ศรีสุวรรณเล็งขยี้ ส่วน “ปิยบุตร” ไม่เคยให้แม้แต่น้อย ทะแม่งปี 2561 “ธนาธร-รวิพรรณ” ทุ่มให้ 17.2 ล้านบาท
มีรายงานจากเว็บไซต์คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) www.ect.go.th ได้เผยแพร่ข้อมูลการบริจาคแก่พรรคการเมืองประจำเดือนเมษายน, พฤษภาคม และมิถุนายน 2562 แล้ว ทั้งนี้ในเดือน เม.ย.นั้น มี 7 พรรคการเมืองที่ได้รับการบริจาค โดยพรรคชาติพัฒนา (ชพน.) มีผู้บริจาคตั้งแต่ 5,000 บาทมากที่สุด รวม 25,999,850 บาท, พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) มียอด 1,360,000 บาท, พรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) 20,000 บาท, พรรคอนาคตใหม่ (อนค.) 2,425,000 บาท โดยนายวินท์ สุธีรชัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค อนค. บริจาคสูงสุด 2 ล้านบาท, พรรคกรีน 100,000 บาท, พรรคประชานิยม 2,910,000 บาท โดย พล.ต.อ.ยงยุทธ เทพจํานงค์ หัวหน้าพรรคประชานิยม บริจาคสูงสุด 2 ล้านบาท และพรรคพลังปวงชนไทย 2,074,980 บาท โดยมีนายนิคม บุญวิเศษ หัวหน้าพรรค บริจาค 1,000,000 บาท
เดือน พ.ค. มีพรรคการเมืองได้รับการบริจาคทั้งสิ้น 9 พรรค โดยพรรคประชาภิวัฒน์ ได้รับบริจาค 499,480 บาท, พรรคเสรีรวมไทย 1,230,000 บาท, พรรค ปชป. 205,000 บาท, พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย 151,000 บาท, พรรคกรีน 200,000 บาท, พรรคประชากรไทย 5,000 บาท, พรรคพลังปวงชนไทย 30,000 บาท, พรรคอนาคตไทย 16,000 บาท และพรรค อนค. 9,127,562 บาท โดยผู้บริจาคมากที่สุดคือ นางศาลินา อริยะสันติชัย 4,000,000 บาท, นายโชติพงษ์ โชตินุชิต 3,000,000 บาท และนายพีรวิชญ์ วรรณวิทยาภา 2,000,000 บาท
และในเดือน มิ.ย. มี 11 พรรคการเมืองที่ได้รับการบริจาคประกอบด้วย พรรค ชพน. 2,680,273.97 บาท, พรรคประชาภิวัฒน์ 900,000 บาท, พรรค ปชป. 50,000 บาท, พรรคพลังปวงชนไทย 56,400 บาท, พรรคอนาคตไทย 14,000 บาท, พรรคประชานิยม 700,000 บาท, พรรคประชากรไทย 315,000 บาท, พรรคอนาคตใหม่ 6,453,000 บาท โดยนายพิชเยนทร์ หงษ์ภักดี แคนดิเดตผู้สมัครชิงนายก อบจ.นนทบุรี บริจาคสูงสุด 2,000,000 บาท และนายนิติพัฒน์ แต้มไพโรจน์ เหรัญญิกพรรค บริจาค 1,900,000 บาท, พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย 100,000 บาท, พรรคเพื่อไทย 18,000,000 บาท โดยมีนายทวีศิลป์ ชินะพัฒนวงศ์ 6,000,000 บาท และห้างหุ้นส่วนจํากัด กลุ่มบ้านตาลพัฒนา 4,000,000 บาท และพรรคภูมิใจไทย (ภท.) มียอดบริจาครวม 21,000,000 บาท โดยบริษัท วัชรขจร จํากัด 5,000,000 บาท, ห้างหุ้นส่วนจํากัด ภูริธนา 5,000,000 บาท และห้างหุ้นส่วนจํากัด หินบุรีรัมย์ 5,000,000 บาท
ทั้งนี้ เมื่อตรวจสอบย้อนหลัง โดยเฉพาะกรณีพรรคอนาคตใหม่นั้น พบว่าเมื่อเดือน มี.ค.2562 มียอดบริจาคทั้งสิ้น 65,000 บาท ส่วนในเดือน ก.พ.2562 ไม่มียอดบริจาค และเดือน ม.ค.2562 มียอดบริจาคถึง 7,172,999 บาท ซึ่งผู้บริจาคมากที่สุดคือ นางวนิดา แดงทองดี 5,000,000 บาท โดยนางวนิดาเป็นแม่ภรรยานายธนาธร
“ช่อ”ทุ่มบริจาค1ล้านบาท
สำหรับในช่วงปี 2561 พรรค อนค.ได้ยื่นจดแจ้งชื่อจัดตั้งพรรคต่อ กกต.เมื่อวันที่ 15 มี.ค.2561 และรับการรับรองจาก กกต.มีสถานะเป็นพรรคการเมืองอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 3 ต.ค. ซึ่งในบัญชีการบริจาคพบว่านายธนาธรได้บริจาคเงินให้พรรคจำนวน 8 ล้านบาท ในวันที่ 26 ต.ค. ต่อมาในเดือน พ.ย. มียอดบริจาคมากถึง 10,500,000 บาท ประกอบด้วย นายธนาธร 2,000,000 บาท, น.ส.จารุวรรณ ศรัณย์เกตุ กรรมการบริหารพรรค 1,000,000 บาท, นายรณวิต หล่อเลิศสุนทร รองหัวหน้าพรรค 1,000,000 บาท, นายนิติพัฒน์ 3,000,000 บาท, น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรค 1,000,000 บาท, นายรณวิต หล่อเลิศสุนทร รองหัวหน้าพรรค 1,000,000 บาท, น.ส.จารุวรรณ 500,000 บาท, นายนิติพัฒน์ 500,000 บาท และ น.ส.จารุวรรณ 500,000 บาทอีกครั้ง
ในเดือน ธ.ค.2561 มีผู้บริจาคทั้งสิ้น 17 ราย วงเงินรวม 13,910,000 บาท โดยรายชื่อที่น่าสนใจ คือ นางรวิพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ ภรรยาที่บริจาคถึง 3 ครั้ง ยอดรวม 7,200,000 บาท โดยบริจาคครั้งแรกเมื่อวันที่ 11 ธ.ค.2561 จำนวน 2 ล้านบาท วันที่ 12 ธ.ค.2561 บริจาค 4 ล้านบาท และ 13 ธ.ค.2562 บริจาคอีกครั้ง 1.2 ล้านบาท ซึ่งเมื่อรวมจำนวนการบริจาคให้พรรคการเมืองของครอบครัวนายธนาธรมีทั้งสิ้น 17,200,000 บาท
สำหรับพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 ในมาตรา 66 เรื่องบริจาคให้แก่พรรคการเมืองนั้นระบุว่า บุคคลใดจะบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด ให้แก่พรรคการเมืองมีมูลค่าเกินสิบล้านบาทต่อพรรคการเมืองต่อปีมิได้ และในกรณีที่บุคคลนั้นเป็นนิติบุคคล การบริจาคเงินทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดให้แก่พรรคการเมืองไม่ว่าพรรคเดียวหรือหลายพรรคเกินปีละห้าล้านบาท ต้องแจ้งให้ที่ประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นทราบในการประชุมใหญ่คราวต่อไปหลังจากบริจาคแล้ว
ทั้งนี้ ยังมีการตั้งข้อสังเกตในการบริจาคเงินในช่วงเดือน พ.ย.2561 ซึ่งมีบรรดากรรมการบริหารพรรคร่วมบริจาคนั้น โดยเฉพาะในรายของ น.ส.พรรณิการ์ ที่เป็นการบริจาคเงินถึง 1 ล้านบาท โดยเมื่อสอบถามถึงเรื่องดังกล่าว น.ส.พรรณิการ์ชะงักไปช่วงหนึ่งก่อนระบุว่า เงินบริจาคให้พรรค 1,000,000 บาทนั้นเป็นเงินส่วนตัว และเป็นการบริจาคตามที่เอกสารชี้แจง โดยไม่ใช่เงินจากส่วนอื่นแต่อย่างใด เช่นเดียวกับกรณีการชี้แจงรายการทรัพย์สินที่ได้ชี้แจงกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ไปแล้วเช่นกัน ส่วนรายละเอียดต่างๆ นั้นขอให้ยึดตามที่เอกสารที่เปิดเผยออกมาได้เลย
ขณะเดียวกัน ในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินที่ยื่นต่อ ป.ป.ช. กรณีเข้ารับตำแหน่ง ส.ส. วันที่ 25 พ.ค.2562 ที่ยื่นเมื่อ 23 ส.ค.2562 นั้น น.ส.พรรณิการ์ระบุว่ามีทรัพย์สิน 3,319,567.78 บาท ประกอบด้วย เงินฝาก 4 บัญชี ยอดรวม 91,006.87 บาท (ไม่มีเงินสด) เงินลงทุน 8 รายการ 864,000.91 บาท ยานพาหนะ รถยนต์ 2 คัน ยี่ห้อคัมรี กับรถตู้โตโยต้าอัลพาร์ด รวม 1,400,000 บาท ทรัพย์สินอื่น อาทิ เครื่องปรับ รวม 12 รายการ 964,500 บาท หนี้สิน เบิกเกินบัญชี 24,051 บาท หนี้สินที่มีหลักฐานเป็นหนังสือ 686,461 บาท (หนี้ผ่อนรถตู้อัลพาร์ด ทำสัญญา 24 ม.ค.2560) รวมหนี้สิน 710,512 บาท มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 2,609,055.78 บาท
ศรีสุวรรณเตรียมขยี้
น.ส.พรรณิการ์แจ้งมีรายได้ต่อปี 1,365,990.84 บาท ประกอบด้วยเงินเดือน ส.ส. 1,362,720 บาท, รายได้จากทรัพย์สิน ดอกเบี้ยเงินฝาก 270.84 บาท, เงินคืนจากประกันชีวิต 3,000 บาท, ค่าใช้จ่ายส่วนตัว 600,000 บาท ค่าอุปการะบิดามารดา 324,000 บาท รวมค่าใช้จ่าย 924,000 บาท
นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย กล่าวถึงข้อสังเกตกรณีการบริจาคเงินของ น.ส.พรรณิการ์ ที่มีบัญชีเงินฝากเพียง 91,066 บาท แต่กลับทุ่มเงินบริจาคให้พรรคถึง 1 ล้านบาทว่า เป็นเรื่องผิดปกติ มีเงินฝากไม่กี่หมื่นกี่แสน แต่ไปบริจาคเกินกว่าที่ตนเองมีรายได้อยู่ มันก็เป็นเรื่องผิดปกติ เรื่องนี้ต้องร้องให้ กกต.ตรวจสอบ มันอาจเกี่ยวพันไปถึงกฎหมายฟอกเงินด้วย เพราะบริจาคเงินเกินกว่ารายได้ที่ตนเองมี ต้องไปชี้แจงให้ กกต.ทราบว่า 1 ล้านบาทมาจากไหน ได้มาอย่างไร มีการเสียภาษีถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ วันจันทร์ที่ 28 ต.ค.ก็อาจต้องไปร้อง กกต.ให้ดำเนินการไต่สวนสอบสวนแสวงหาข้อเท็จจริง
ทั้งนี้ ยังมีการตั้งข้อสังเกตอีกว่า ในการบริจาคของพรรคอนาคตทั้งหมด 8 ครั้งนั้น กลับไม่มีรายชื่อของนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่บริจาคแม้แต่ครั้งเดียว โดยหากดูในบัญชีทรัพย์สินที่แจ้งต่อ ป.ป.ช.นั้น นายปิยบุตรและภรรยามีทรัพย์สินรวมทั้งสิ้น 9,984,857.80 บาท หนี้สินรวม 2,310,236.65 บาท ทำให้มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 7,674,621.15 บาท.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |