24ต.ค.62-นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวภายหลังการประชุมณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ในภูมิภาค ว่า ที่ประชุมได้หารือถึงการปรับโครงสร้าง ศธ.ในภูมิภาค โดยให้หลักการการดำเนินการเรื่องนี้จะต้องเน้นการกระจายอำนาจสู่ภูมิภาค เพื่อให้เกิดการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด แม้ที่ผ่านมาอาจยังทำงานได้ไม่เต็มที่ แต่ตนเชื่อมั่นว่าหากได้มีการพูดคุยทำความเข้าใจในนโยบายต่างๆ อย่างชัดเจนแล้ว จะทำให้การขับเคลื่อนงานการศึกษาเป็นไปในทิศทางเดียวกันมากขึ้น อีกทั้งจะทำให้การศึกษาในภูมิภาคขับเคลื่อนงานได้ตามที่ส่วนกลางต้องการ เนื่องจากบริบทแต่ละพื้นที่และความต้องการของโรงเรียนแต่ละแห่งก็ไม่เหมือนกัน ทั้งนี้เน้นย้ำว่าเมื่อมีการกระจายอำนาจไปสู่ภูมิภาคและโรงเรียนแล้ว หากการดำเนินการเรื่องใดที่ทำไม่เหมาะสมหรือไม่ถูกต้องกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) สามารถดึงอำนาจมาไว้ที่ส่วนกลางตามเดิมได้ด้วย ขณะเดียวกันอยากให้สภาหอการค้าที่เป็นตัวแทนในคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) ได้ทำงานใกล้ชิดกับสถานศึกษามากขึ้น เพื่อที่จะได้ทราบความต้องการของตลาดในการผลิตผู้เรียนมากขึ้น

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ในที่ประชุมมีการนำคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฉบับที่ 19/2560 เรื่อง การปฏิรูปการศึกษาในภูมิภาคของศธ. และการบริหารงานบุคคลเรื่องการบรรจุแต่งตั้ง และมาตรา 53 ตามพ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลารกทางการศึกษา พ.ศ.2547 มาหารือในด้วยหรือไม่นั้น นายณัฏฐพล กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวต้องเข้าใจว่าในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็น คำสั่ง คสช.ฉบับไหน ก็ตามเราต้องปฏิบัติตาม แต่เมื่อมีการปรับปรุงโครงสร้างเกิดขึ้นเราต้องนำข้อกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องมาดูอยู่แล้ว ซึ่งตนขอย้ำว่าในการปฏิรูปกฎหมายของ ศธ.จะเน้นความไม่ทับซ้อนในการปฏิบัติงานและเพิ่มการป้องกันไม่เกิดการทุจริตคอรัปชั่น อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ตนยังบอกไม่ได้ว่าจะมี กศจ. หรือ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) หรือไม่ เพราะอยู่ในขั้นตอนเริ่มต้นการวิเคราะห์ปัญหาเท่านั้น ดังนั้นระหว่างนี้อยู่ในช่วงของการดูข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องอยู่ แต่ขอให้มั่นใจว่าทุกเรื่องที่ตนปรับปรุงเพื่อมุ่งสู่คุณภาพของเด็กอย่างแน่นอน