13มี.ค.-“ปลัด ศธ.” เข้าแจ้งความเครือญาติ ซี 8 ยักยอกเงินกองทุนเสมาพัฒนาชีวิตเพิ่ม ถ่ายโอนเงินเข้าไปใน 22 บัญชี เล็งยกเครื่อง ระบบตรวจสอบภายใน ศธ. และการดำเนินงานของกองทุนๆฯให้รัดกุมมากขึ้น เตรียม พิจารณาโทษความผิดร้ายแรง ข้าราชการสาว ในที่ประชุม อ.ก.พ.สป. เร็วๆ นี้
เมื่อเวลา 9.30 น. วันที่ 13 มีนาคม ที่สถานีตำรวจนครบาลดุสิต นายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ปลัด ศธ.) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่นิติกรของสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (สป.) เดินทางมาแจ้งความกรณีดำเนินคดีเครือญาติของข้าราชการซี 8 ของ ศธ. พร้อมทั้งนำหลักฐานเอกสารการเปิดบัญชีต่างๆ ของเครือญาติ มอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจประกอบสำนวนการพิจารณาดำเนินคดี หลังพบหลักฐานเพิ่มเติมให้เครือญาติเปิด 22 บัญชีถ่ายโอนเงินจากกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต โดยมี พ.ต.ท.บำเพ็ญ ไวยรจนา สารวัตรสอบสวน สน.ดุสิต รับแจ้งความ
นายการุณ กล่าวว่า ตนได้แจ้งความดำเนินคดีกับเครือญาติของข้าราชการซี 8 ศธ.ที่ไปเปิดบัญชีไว้ 22 บัญชี เพื่อใช้ในการถ่ายโอนเงินจากกองทุนเสมาพัฒนาชีวิตเข้ามาในบัญชีดังกล่าว ซึ่งถือว่ามีผลประโยชน์ร่วมกันในการรับเงินโอนจากกองทุนนี้ เนื่องจากมีหลักฐานชัดเจนว่าการถ่ายโอนเงินจากกองทุนดังกล่าวเข้าบัญชีทั้ง 22 บัญชี มาโดยตลอดเป็นเวลา 10 กว่าปี ดังนั้น ตนเชื่อมั่นว่าเครือญาติทั้งหมดของข้าราชการคนนี้จะต้องมีส่วนร่วมรู้เห็นด้วยแน่นอน ดังนั้นจึงได้มาแจ้งความ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดี
ขณะเดียวกันตนจะมอบหมายให้สำนักนิติการของ สป.ดำเนินการตามระเบียบพิจารณาโทษทางวินัยข้าราชการซี 8 ศธ.ตามกระบวนการต่อไป สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ทำให้ตนและคณะกรรมการกองทุนฯ เห็นว่าจะต้องกลับมาพิจารณายกเครื่องระบบตรวจสอบภายในของ ศธ.และการดำเนินงานของกองทุนฯ อย่างไรบ้าง เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและรัดกุมมากยิ่งขึ้น เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนี้ทำให้เห็นชัดเจนว่าระบบการตรวจสอบอาจจะยังมีจุดบกพร่องอยู่ อีกทั้งเร็วๆ นี้ จะมีการประชุมคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือนของสำนักงานปลัด ศธ. โดยจะมีการเสนอให้พิจารณาโทษความผิดร้ายแรงกับข้าราชการระดับ 8 ทันที เพราะถือว่าเป็นความผิดชัดแจ้งที่เจ้าตัวสารภาพจึงไม่ต้องมีการสอบสวนวินัยอีก และก็ถือว่าเป็นไปตามกฎ ก.พ.ว่าด้วยการดำเนินการทางวินัย พ.ศ.2556
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการขยายการสืบข้อเท็จจริงเรื่องนี้ไปถึงผู้ที่เคยปฏิบัติหน้าที่ ปลัด ศธ. ในช่วงก่อนหน้านี้หรือไม่ ในฐานะละเลยปล่อยให้ข้าราชการในสังกัดยักยอกเงินด้วยหรือไม่ นายการุณ กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องดูตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏในแต่ละช่วงเวลานั้นๆ ซึ่งเท่าที่ทราบปลัด ศธ. แต่ละคนก็อยู่ในตำแหน่งคราวละ 1-2 ปีเท่านั้น อีกทั้งผู้กระทำความผิดก็ได้จัดทำเอกสารเท็จขึ้นมานำเสนอ เพื่อขออนุมัติเงินกองทุนแต่ในละครั้ง ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากที่จะรับรู้ได้ว่าเกิดการยักยอกเงินเกิดขึ้น
ด้าน พ.ต.ท.บำเพ็ญ กล่าวว่า สำหรับการดำเนินคดีกับเครือญาติข้าราชการซี 8 ศธ.นั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถตอบได้ในตอนนี้ ซึ่งจะต้องขอดูพยานหลักฐานต่างๆ ก่อน เนื่องจากบัญชีที่เปิดไว้มีหลายบัญชีมาก อีกทั้งจะต้องดูด้วยว่าเครือญาติของข้าราชการซี 8 ศธ.มีส่วนรู้เห็นในเรื่องนี้ หรือญาติได้ประโยชน์จากส่วนนี้ด้วยหรือไม่ เพราะบางครั้งอาจเห็นว่าเป็นญาติกันอาศัยความคุ้นเคยก็ไม่ได้คิดอะไรจึงไปเปิดบัญชีให้ ซึ่งทั้งหมดจะต้องว่ากันไปตามหลักฐานและต้องดูที่เจตนา ดังนั้น จึงยังไม่สามารถบอกอะไรได้มากกว่านี้ แต่ทุกอย่างจะต้องเป็นไปตามกระบวนกฎหมายอย่างแน่นอน.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |