24ต.ค.62-เมื่อเวลา 9.55 น. ที่รัฐสภา เกียกกาย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ในฐานะกรรมาธิการในคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ ปี2563 เดินทางมาประชุมกมธ.และ ให้สัมภาษณ์กรณีมีสิทธิ์เป็นกมธ.งบฯหรือไม่ ว่า รายชื่อของตนได้รับการเสนอชื่อเข้าสู่ที่ประชุมสภาฯ และได้รับการรับรองแล้ว ถ้าใครสงสัยก็คงต้องปล่อยให้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ ตนเข้ามาเป็นกมธ.ในส่วนของบุคคลภายนอกในนามพรรคอนาคตใหม่
เมื่อถามว่ามีข้อโต้แย้งว่านายธนาธรยังมีสถานะเป็น ส.ส.แม้ยังปฎิบัติหน้าที่ไม่ได้ จะสามารถเข้าปฎิบัติหน้าที่ในฐานะคนนอกได้อย่างไร นายธนาธร กล่าวว่า ที่ผ่านมาเคยมีคนถูกตัดสินแล้วเข้าไปเป็นกมธ. และรายชื่อของตนได้รับการรับรองจากที่ประชุมสภาไปแล้ว หากใครที่คิดว่าตนยังมีปัญหาก็ต้องยื่นเรื่องมาที่ฝ่ายกฎหมายของสภาฯ  ถ้าสภาฯว่าอย่างไรพร้อมเคารพคำตัดสิน
ถามต่อว่าการที่มีคนเข้ายื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสถานะกมธ.งบฯ หากผลออกมาเป็นลบจะทำอย่างไร นายธนาธร กล่าวว่า ก็ไม่มีอะไร เดินออกมาก็จบเท่านั้นเอง ไม่ได้ซีเรียส
เมื่อถามว่าขณะนี้มีการตั้งข้อสังเกตถึงขั้นว่าฝ่ายค้านวางยารัฐบาลที่ตั้งนายธนาธร เข้ามาเป็นกมธ.งบฯ เพื่อให้ร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ เป็นโมฆะ นายธนาธร กล่าวพร้อมเสียงหัวเราะ ว่า พรรคอนาคตใหม่เป็นพรรคที่เพิ่งตั้งขึ้นมา ประสบการณ์การทำงานในสภาฯ หรือประสบการณ์ร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ มีน้อย แต่ทางพรรคอนาคตใหม่มีความตั้งใจที่อยากจะส่งเสริมตนให้มีความรู้และประสบการณ์ในการทำงานด้านงบประมาณมากขึ้น จึงมีความคิดเห็นว่าเป็นเรื่องที่ดีที่ตนจะได้เข้าไปอยู่ เพื่อเรียนรู้ในกระบวนการต่างๆ เผื่อวันหน้าวันหลังจะได้มีโอกาสเป็นรัฐบาล จะได้เข้าใจเกี่ยวกับกลไกด้านงบประมาณ นั้นคือวัตถุประสงค์ของเรา
ถามถึงความกังวลที่ถูกเสนอชื่อในฐานะบุคคลภายนอก เท่ากับยอมรับไม่มีสภาพเป็นส.ส.แล้ว  นายธนาธร กล่าวพร้อมหัวเราะว่า  ตนต้องบอกว่าไม่ใช่ เพราะเรื่องของสถานะ ส.ส.ยังอยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญ โดยจะมีการพิจารณาเรื่องนี้ในวันที่ 20 พ.ย. จึงไม่มีอะไรน่าห่วงในเรื่องดังกล่าว
เมื่อถามต่อว่า การเข้ามาเป็น กมธ.งบประมาณฯ ในครั้งนี้จะเข้ามาดูเรื่องอะไรเป็นพิเศษ  หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ก่าวว่า เข้ามาดูเรื่องกระบวนการมากกว่า  เพราะพรรคเป็นพรรคที่เพิ่งก่อตั้งเลยต้องสะสมประสบการณ์และต้องเข้าใจกระบวนการการทำงบประมาณ ดังนั้น พรรคอนาคตใหม่จึงเห็นว่าแกนนำพรรคต้องสะสมประสบการณ์ในครั้งนี้ ส่วนส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่คนอื่นที่เป็น กมธ.งบประมาณฯด้วย ก็คงต้องปกป้องผลประโยชน์ตามที่ถนัด