สมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะแห่งญี่ปุ่น ทรงประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ประกาศเถลิงถวัลยราชสมบัติต่อพระราชอาคันตุกะที่รวมถึงสมาชิกราชวงศ์ ผู้นำประเทศ และผู้แทนจากมากกว่า 180 ประเทศ และองค์กรทั่วโลกเมื่อวันอังคาร โดยมีพระบรมราชโองการว่าจะทรงเป็นสัญลักษณ์ของประเทศและความสามัคคีของคนในชาติ
นายกฯ ชินโซ อาเบะ นำกล่าวถวายพระพรทรงพระเจริญ เบื้องหน้าพระพักตร์สมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะ ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2562 / Japanese Government / AFP
สำนักข่าวรอยเตอร์และเอเอฟพีรายงานเมื่อวันอังคารที่ 22 ตุลาคม 2562 ว่า พระราชพิธีบรมราชาภิเษกสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่น หรือ "โซกุอิ โนะ เร" ซึ่งจัดขึ้นภายหลังพระราชพิธีเสด็จขึ้นครองราชย์เป็นองค์จักรพรรดิพระองค์ใหม่ของญี่ปุ่นที่จัดอย่างเรียบง่าย เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคมปีนี้ เป็นพระราชพิธีที่มีความซับซ้อนกว่าตามโบราณราชพิธี และเป็นการประกาศสถานะของพระองค์ต่อชาวโลกอย่างเป็นทางการ
พระราชพิธีที่พระราชวังอิมพีเรียลมีพระราชอาคันตุกะและข้าราชบริพารรวมประมาณ 2,000 คนร่วมพิธี ซึ่งรวมถึงเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ มกุฎราชกุมารแห่งอังกฤษ พิธีหลักจัดภายในท้องพระโรงต้นสน โดยสมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะ และสมเด็จพระจักรพรรดินีมาซาโกะ ซึ่งฉลองพระองค์ตามราชประเพณีโบราณ ทรงประทับบนพระราชบัลลังก์ทากามิกูระ ที่มีความสูง 21 เมตร และมีน้ำหนักราว 8 ตัน
สมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะมีพระบรมราชโองการประกาศการเถลิงถวัลยราชสมบัติความว่า พระองค์จะปฏิบัติพระราชกรณียกิจตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ และจะทรงปฏิบัติหน้าที่ตามความรับผิดชอบในฐานะสัญลักษณ์ของชาติและความสามัคคีของประชาชน พระองค์ทรงหวังอย่างจริงใจว่าญี่ปุ่นจะพัฒนายิ่งขึ้น และนำมาซึ่งมิตรภาพและสันติภาพของประชาคมระหว่างประเทศ ตลอดจนสวัสดิภาพและความเจริญของมนุษยชาติผ่านสติปัญญาและความมานะบากบั่นของประชาชน
หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ เป็นตัวแทนนำกล่าวถวายพระพร โดยถวายคำมั่นสัญญาว่าพสกนิกรชาวญี่ปุ่นจะถวายความเคารพองค์พระจักรพรรดิในฐานะสัญลักษณ์ของประเทศและความสามัคคีของพสกนิกร ปิดท้ายด้วยการร้องสรรเสริญบันไซ (ทรงพระเจริญ) 3 ครั้ง ก่อนที่ทหารจะยิงสลุต 21 นัดเพื่อเฉลิมพระเกียรติ
บรรยากาศภายในท้องพระโรงระหว่างพระราชพิธีนั้นค่อนข้างเงียบ โดยมีเพียงเสียงฆ้องและเสียงกลองส่งสัญญาณพิธีช่วงต่างๆ รวมถึงเสียงทุ้มต่ำ ที่ส่งสัญญาณให้พระราชอาคันตุกะจากมากกว่า 180 ประเทศและสถาบันยืนขึ้นเพื่อรับฟังพระบรมราชโองการ หลังเสร็จพิธีเมื่อพระวิสูตรปิดลง สมเด็จพระจักรพรรดิและสมเด็จพระจักรพรรดินีเสด็จพระราชดำเนินออกจากท้องพระโรงอย่างเงียบเชียบ
สมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะ ซึ่งมีพระชนมพรรษา 59 พรรษา ทรงเป็นจักรพรรดิองค์แรกของญี่ปุ่นที่มีพระราชสมภพหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ทรงขึ้นครองราชย์ภายหลังสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ พระราชบิดา ทรงสละราชบัลลังก์เมื่อปลายเดือนเมษายน ซึ่งเป็นการสละราชบัลลังก์ครั้งแรกในรอบ 2 ศตวรรษของราชวงศ์ดอกเบญจมาศ โดยพระองค์ทรงให้เหตุผลว่าการเจริญพระชนมพรรษามากขึ้นเป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติพระราชกรณียกิจ
การเฉลิมฉลองพระราชพิธีบรมราชาภิเษกที่กำหนดไว้ยาวนานหลายวัน โดยได้รับการประกาศให้เป็นวันหยุดราชการ เผชิญปัญหาจากพายุไต้ฝุ่นฮากิบิส ที่กระหน่ำญี่ปุ่นเมื่อ 10 วันก่อนหน้านั้น คร่าชีวิตคนอย่างน้อย 82 คน เพิ่มภาระในการจัดการภัยพิบัติและทำให้รัฐบาลเลื่อนพระราชพิธีริ้วขบวนฉลองบรมราชาภิเษกไปเป็นวันที่ 10 พฤศจิกายน กระนั้นสถานีเอ็นเอชเครายงานว่า รัฐบาลยังคงใช้กำลังตำรวจ 26,000 นาย ในการดูแลความปลอดภัยพิธีเมื่อวันอังคาร.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |