ชิลีขยายภาวะฉุกเฉินในกรุงซันติอาโกและอีก 9 แคว้นทางเหนือและใต้ ประธานาธิบดีเซบัสเตียน ปีเญรา ระบุประเทศอยู่ในภาวะสงคราม จลาจลติดต่อกัน 3 วัน คร่าชีวิตแล้วอย่างน้อย 11 ศพ ผู้ประท้วงโดนจับเกือบ 1,500 คน ธุรกิจโรงงานร้านค้าระบบขนส่งมวลชนโดนเผาและปล้นสะดม
ผู้ประท้วงปะทะกับตำรวจปราบจลาจลที่กรุงซันติอาโกเมื่อวันอาทิตย์ / AFP
เอเอฟพีรายงานเมื่อวันจันทร์ที่ 21 ตุลาคม 2562 ว่าประธานาธิบดีปีเญราแถลงทางโทรทัศน์เมื่อคืนวันอาทิตย์ ภายหลังประชุมฉุกเฉินกับพลเอกฮาเวียร์ อีตูร์เรียกา ผู้รับมอบหมายดูแลความสงบเรียบร้อยในเมืองหลวง ว่าชิลีกำลังทำสงครามกับศัตรูทรงพลังที่ไม่ยอมรามือ ศัตรูที่ไม่เคารพใครหรือสิ่งใดและเต็มใจจะใช้ความรุนแรงและก่ออาชญากรรมอย่างไม่มีขีดจำกัด
ผู้นำชิลียืนยันด้วยว่า รัฐบาลได้ขยายภาวะฉุกเฉินครอบคลุมกรุงซันติอาโกและอีก 9 แคว้นในภาคเหนือและใต้ จากทั้งหมด 16 แคว้นของชิลี เช่น วัลปาไรโซ, เตมูโก และปุนโตอาเรนัส กองทัพยังได้ส่งกำลังทหารรักษาความสงบเรียบร้อยในเมืองเป็นครั้งแรกนับแต่ยุคเผด็จการออกุสโต ปิโนเชต์ ที่ปกครองชิลีระหว่างปี 2516-2533
การประท้วงซึ่งมีนักศึกษาเป็นแกนนำ เริ่มต้นเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนหน้านั้นโดยมีชนวนเหตุจากการขึ้นค่าโดยสารระบบขนส่งมวลชนและปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคม แต่สถานการณ์รุนแรงบานปลายเป็นจลาจลตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา ผู้ประท้วงปะทะกับเจ้าหน้าที่ และวางเพลิงสำนักงานใหญ่ของบริษัทไฟฟ้า, ธนาคาร, หนังสือพิมพ์เอลเมร์กูรีโอ, สถานีรถไฟใต้ดิน, ซูเปอร์มาร์เก็ตหลายแห่ง และธุรกิจร้านค้าอื่นๆ ในเมืองหลวง ทหารและตำรวจราว 9,500 นาย ยิงแก๊สน้ำตาและน้ำแรงดันสูงขับไล่
การปะทะที่ลุกลามไปในหลายเมือง ทำให้ปีเญรายอมประกาศยกเลิกนโยบายขึ้นค่าโดยสารระบบขนส่งสาธารณะ และประกาศภาวะฉุกเฉินเมื่อเช้าวันเสาร์ แต่สถานการณ์ยังคงไม่สงบลง และคืนวันเสาร์ พลเอกอีตูร์เรียกาประกาศเคอร์ฟิวยามวิกาลในกรุงซันติอาโก เริ่มมีผลตั้งแต่เวลา 19.00 น. ของวันอาทิตย์ต่อเนื่องถึง 06.00 น. ของวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น แต่กลุ่มคนจำนวนมากยังคงชุมนุมประท้วงในหลายพื้นที่แม้จะถึงเวลาเคอร์ฟิว
เมื่อวันอาทิตย์ ผู้ก่อจลาจลได้เข้าปล้นสะดมและวางเพลิงโรงงานสิ่งทอแห่งหนึ่งในเมืองเรงกา ชานกรุงทางเหนือ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงกล่าวว่า มีคนโดนไฟคลอกเสียชีวิต 5 คนในโรงงานแห่งนี้ ก่อนหน้านั้น อันเดรส แชดวิค รัฐมนตรีมหาดไทยและความมั่นคง ยืนยันว่าการปล้นสะดมและวางเพลิงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ในเครือของวอลมาร์ทที่กรุงซันติอาโกเมื่อเช้ามืดวันอาทิตย์ ทำให้มีผู้หญิงโดนไฟคลอกเสียชีวิต 2 คน เหยื่อที่เป็นหญิงอีกคน ซึ่งเดิมเจ้าหน้าที่เผยว่าเสียชีวิตที่โรงพยาบาลนั้น บาดเจ็บโดนไฟลวก 75% ของร่างกาย
ในวันจันทร์ คาร์ลา รูบิลาร์ ผู้ว่าราชการกรุงซันติอาโก แถลงว่า จำนวนผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์รุนแรงเพิ่มเป็น 11 คนแล้ว โดยพบว่าเมื่อวันเสาร์มีคนเสียชีวิต 3 คน และเมื่อวันอาทิตย์ เสียชีวิต 8 คน ทั่วแคว้นซันติอาโก
ระบบขนส่งมวลชนเกือบทั้งหมดในกรุงซันติอาโกใช้การไม่ได้ในวันอาทิตย์ ร้านค้าปิดกิจการ สนามบินระหว่างประเทศเกิดความโกลาหล เที่ยวบินทั้งขาเข้าและขาออกถูกระงับหรือยกเลิก เนื่องจากลูกเรือและเจ้าหน้าที่ท่าอากาศยานมาทำงานไม่ได้ ทำให้มีผู้คนตกค้างที่สนามบินหลายพันคน
เจ้าหน้าที่รายงานว่า เกิดเหตุการณ์ร้ายแรง 103 เหตุการณ์ทั่วประเทศตั้งแต่วันศุกร์ถึงวันอาทิตย์ มีคนถูกจับกุม 1,462 คน แบ่งเป็นที่เมืองหลวง 614 คน และพื้นที่อื่น 848 คน
ชิลีเป็นประเทศที่มีรายได้ต่อหัวประชากรถึง 20,000 ดอลลาร์ สูงที่สุดในลาตินอเมริกา และปีนี้คาดการณ์ว่าจีดีพีจะขยายตัว 2.5% แต่ตัวบ่งชี้ทางสังคมหลายอย่าง เช่น สาธารณสุข, การศึกษาและบำนาญ เผยให้เห็นว่าชิลีมีความเหลื่อมล้ำทางสังคมสูงมาก.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |