กองปราบปรามสอบ "เจ๊เกียว-เจ๊พัช" 6 ชม.ยังเชื่อหวย 30 ล้านเป็นของ "ครูปรีชา" จริง  "แผน" หวั่นถูกออกหมายจับ ยื่น กสม.-ร้องอธิบดีศาลอาญาขอให้ไต่สวนคำร้องก่อน ซัด "ฐิติราช-ตร.กองปราบฯ" ขู่จะติดคุกแน่บีบให้การใหม่ว่า "คลับคล้ายคลับคลา" ยันให้การเหมือนเดิมเห็น "หมวดจรูญ" เก็บลอตเตอรี่ แต่ไม่ได้บอกเป็นของใคร
    ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เวลา 10.30 น. วันที่ 12 มีนาคม นางปณัญชยา สุขผล หรือ เจ๊เกียว และ น.ส.พัชริดา พรมตา หรือเจ๊พัช (สองพยานบุคคลปากสำคัญของนายปรีชา ใคร่ครวญ  หรือครูปรีชา ครูชำนาญการพิเศษโรงเรียนเทพมงคลรังษี จ.กาญจนบุรี และนางรัตนาพร สุภาทิพย์ หรือ เจ๊บ้าบิ่น แม่ค้าลอตเตอรี่ 2 ผู้ต้องหาในคดีการอ้างกรรมสิทธิ์สลากกินแบ่งรัฐบาลงวดประจำวันที่ 1 พ.ย.60 มูลค่า 30 ล้านบาท) พร้อมทนายความเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ป.ตามหมายเรียก เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมเกี่ยวกับคดีให้การเท็จจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับโทษทางอาญา โดยใช้เวลาสอบปากคำนานร่วม 6 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ
      มีรายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับการเข้าให้ปากคำอีกครั้งของ น.ส.พัชริดาและนางปณัญชยา พบว่าทั้งคู่ยังคงให้การตามคำให้การเดิม แต่มีให้การเพิ่มเติมในบางส่วนบ้างเล็กน้อย ซึ่งคำให้การโดยรวมแล้วทั้งสองคนยังเชื่อว่าหวยรางวัลดังกล่าวนั้นเป็นของครูปรีชาจริงๆ เหมือนครั้งที่เคยเข้าให้ปากคำพนักงานสอบสวนกองปราบฯ ที่สถานีตำรวจทางหลวง 6 กก. 2 บก.ทล. อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี ก่อนหน้านี้
     ต่อมาเวลา 16.30 น.หลังสอบปากคำเสร็จ นางปณัญชยาและ น.ส.พัชริดาได้รีบขึ้นรถเดินทางจากกองปราบปรามทันที และปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์โดยกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า "วันนี้ของดให้ข่าว 1 วัน"
     ด้าน พ.ต.อ.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบก.ป.กล่าวว่า สำหรับการเชิญตัวนางปณัญชยาและ น.ส.พัชริดา มาให้ปากคำอีกครั้งในวันนี้ เป็นการเชิญมาในฐานะพยานเพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมในบางประเด็นที่ยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับคำให้การในครั้งก่อน และนำไปใช้ประกอบสำนวนคดี ไม่ได้เป็นการเชิญตัวมารับทราบข้อกล่าวหาแต่อย่างใด ส่วนหลังจากนี้จะมีการแจ้งข้อกล่าวหาต่อทั้งสองหรือไม่ยังไม่สามารถระบุได้ คงต้องขอพิจารณาตรวจสอบคำให้การของทั้งสองก่อนว่าทั้งหมดนั้นจริงเท็จเพียงใด
    พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยว่า คดีหวย 30  ล้านที่เป็นข้อพิพาทระหว่างนายปรีชา ใคร่ครวญ กับ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล ขณะนี้สำนวนคดีเสร็จสมบูรณ์ พร้อมสรุปสำนวนและความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาส่งให้พนักงานอัยการพิจารณาภายในสัปดาห์นี้ นอกจากนี้จะเรียกนายฐนุกร เหลืองใหม่เอี่ยม หรือแผน พนักงานขับรถธนาคารแห่งหนึ่งใน จ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นพยานระบุว่าเห็น ร.ต.ท.จรูญก้มเก็บลอตเตอรี่ที่ตลาดเรดซิตี้ในสำนวนของพนักงานสอบสวนภูธรภาค 7 แต่เมื่อกองปราบฯ มาทำคดีนายแผนกลับคำให้การ ไม่ยืนยันคนเก็บลอตเตอรี่คือ ร.ต.ท.จรูญ  จึงทำให้นายแผนตกเป็นผู้ต้องหาให้การเท็จ ซึ่งจะเรียกมารับทราบข้อกล่าวหาในวันพฤหัสบดีที่ 15  มี.ค.นี้ที่ บก.ป. 
    ส่วนนางดุษฎี ถิ่นทุ่งทอง หรือกุ้ง เจ้าหน้าที่ศาลให้การเป็นประโยชน์ต่อหมวดจรูญ จึงยังไม่เข้าข่ายให้การเท็จ ส่วนพยานคนอื่นๆ ของนายปรีชาทั้ง น.ส.พัชริดา พรมตา และนางปณัญชญา สุขผล ที่เป็นพยานปากสำคัญ ตำรวจจะเรียกมาสอบปากคำเพิ่มเติมว่าเข้าข่ายให้การอันเป็นเท็จในลักษณะเดียวกับนายแผนหรือไม่
      พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก.กล่าวถึงความคืบหน้าคดีลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 มูลค่า 30  ล้านบาทนี้ว่า ตำรวจทำงานตามพยานหลักฐานที่ปรากฏ ไม่ได้คิดไปเอง แต่ไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้ เพราะเป็นเรื่องของสำนวน ยืนยันว่าจะดำเนินคดีนี้ให้ดีที่สุด และทุกคดีที่จะทำหลังจากนี้โดยไม่ต้องกังวลว่าตำรวจจะเข้าข้างคนผิด
     ส่วนกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์เหตุใดจึงไม่ขอศาลออกหมายจับ พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี (ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี) นั้น เป็นการทำงานตามขั้นตอนกฎหมายของพนักงานสอบสวน และขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ออกมาแสดงความคิดเห็น ซึ่งคณะพนักงานสอบสวนมีข้อมูลและรายละเอียดทุกอย่างแต่ไม่สามารถเปิดเผยต่อสังคมได้
     พล.ต.ท.ฐิติราชกล่าวว่า ประเด็นที่พนักงานสอบสวน กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) แจ้งข้อหาปฏิบัติหน้าที่มิชอบตามมาตรา 157 เนื่องจากคดีเริ่มจากความเชื่อ ไม่ใช่การทุจริต จึงขอให้สังคมไม่ต้องกังวลและกดดันการทำงานของตำรวจ เพราะจะทำให้เสียกำลังใจ
     พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผบก.ปปป.กล่าวถึงความคืบหน้าภายหลังการสอบปากคำ พล.ต.ต.สุทธิ  พวงพิกุล อดีต ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี ที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาตามมาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ว่า  ทีมทนายความขอรวบรวมหลักฐานภายใน 15 วันก่อนยื่นให้พนักงานสอบสวน ยืนยันว่าตำรวจสามารถเอาผิด พล.ต.ต.สุทธิได้แน่นอน แม้ว่าทีมทนายจะไม่เอาพยานหลักฐานมาให้ พนักงานสอบสวนก็มีหลักฐานเพียงพอที่จะส่งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ทันภายใน 30  วันแน่นอน
    ทั้งนี้พนักงานสอบสวน ปปป.จะเรียกนายปรีชา ใคร่ครวญ มารับทราบข้อกล่าวหา ฐานสนับสนุนให้พล.ต.ต.สุทธิกระทำความผิด ในช่วงเช้าวันพฤหัสบดีที่ 15 มี.ค.นี้
    ขณะเดียวกัน เวลา 15.00 น. ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นายฐนุกร เหลืองใหม่เอี่ยม หรือแผน อายุ 46 ปี ซึ่งเป็นพยานของนายปรีชา ในคดีแย่งสิทธิสลากกินแบ่งรัฐบาล รางวัลที่ 1 มูลค่า 30 ล้านบาท ได้เดินทางมายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่ออธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา
     โดยหนังสือร้องขอความเป็นธรรมมีเนื้อหาสรุปว่า ตนเคยให้การเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ว่าไม่เคยรู้จักกับครูปรีชา สาเหตุที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมาสอบสวนตนเองนั้น เนื่องจากตนเคยเล่าให้พนักงานธนาคารด้วยกันฟังว่า กรณีที่เป็นข่าวทางสถานีโทรทัศน์และสื่อมวลชน ตนเห็นผู้ชายกับผู้หญิงซึ่งหมายถึงหมวดจรูญ (ร.ต.ท.จรูญ วิมูล) เก็บสลากกินแบ่งรัฐบาลได้บริเวณหน้าศาลพระพรหม ประมาณ 20 เมตร ในตลาดนัดเรดซิตี้ ก่อนที่กองสลากจะประกาศออกรางวัล ตนสามารถจำรูปร่างหมวดจรูญได้ แต่ผู้หญิงรู้เพียงว่ารูปร่างเตี้ยกว่าหมวดจรูญ สลากดังกล่าวจะมีเลขอะไรบ้างนั้น ตนไม่ทราบ ซึ่งได้ให้การต่อพนักงานสอบสวนภูธรภาค 7 ไปตามความจริง
    ต่อมา พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก.ได้ให้เจ้าพนักงานตำรวจกองปราบปรามโทรศัพท์แจ้งให้ไปพบพนักงานสอบสวน สภ.พนมทวน ซึ่งตนก็ไปพบตามนัด พล.ต.ท.ฐิติราชและตำรวจกองปราบฯ ได้มาล้อมและบอกว่าถ้าให้การเช่นเดิมติดคุกแน่ เพราะเป็นการให้การเท็จ แนะนำตนให้การใหม่ว่า "คลับคล้ายคลับคลา" และให้การตามที่แนะนำจะไม่ติดคุก ตนจึงหลงเชื่อ    ต่อมาเมื่อได้ดูข่าวทางสื่อมวลชนว่าพนักงานสอบสวนจะออกหมายจับ ตนจึงเกิดความกังวลมาร้องขอความเป็นธรรม และยังคงยืนยันว่าที่เคยให้การต่อกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 นั้นถูกต้อง ตรงกับความเป็นจริงและไม่ได้ปรักปรำใคร
      หากกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางและกองบังคับการปราบปรามยื่นคำร้องขอให้ศาลออกหมายจับตนเอง ขอศาลได้โปรดนัดไต่สวนคำร้อง ทั้งนี้ ตน ครูปรีชา และหมวดจรูญ ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ซึ่งการให้ปากคำตนก็ไม่ได้ให้การยืนยันกับตำรวจว่าหวยเป็นของใคร ขอศาลได้โปรดคุ้มครองพยาน
    ภายหลังยื่นหนังสือต่อเจ้าหน้าที่งานสารบรรณศาลอาญาแล้ว นายฐนุกรได้เดินทางไปยังสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ศูนย์ราชการฯ เพื่อยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมที่มีเนื้อหาในลักษณะเดียวกัน.