พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เผยความในใจว่าเป็นทหารมาหลายสิบปีไม่เคยโดนด่าเหมือนตอนที่มาเป็นนายรัฐมนตรีเพียงแค่ชั่วเวลา 5 ปี เป็นนายกรัฐมนตรีรอบแรกก็โดนด่ามากมายหลายเรื่องแล้ว แต่เมื่อมาเป็นนายกรัฐมนตรีสมัยที่สองนี้ โดนด่ามากกว่าสมัยแรกเสียอีก ดูเหมือนว่าเวลานี้ แม้แต่นายกรัฐมนตรีหายใจก็น่าจะผิด เพราะมีคนคอยจ้องจับผิดทุกเรื่อง
เริ่มต้นตั้งแต่ท่านรับเป็นผู้ที่จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ ก็กระหน่ำด่าว่าท่านเป็นเผด็จการที่ต้องการสืบทอดอำนาจ หลังจากการเลือกตั้ง พรรคพลังประชารัฐสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ และมีการลงคะแนนเสียงเลือกพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี โดยที่มีคะแนนเสียงจาก ส.ส.มากกว่า 250 เสียง ไม่ต้องอาศัยเสียงของ ส.ว. ท่านก็สามารถเป็นนายกรัฐมนตรีได้ ก็ด่าว่าท่านปล้นชัยชนะ ปล้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เรียกฝ่ายรัฐบาลว่าเป็นฝ่ายฝักใฝ่เผด็จการ ช่วยให้มีการสืบทอดอำนาจ และเรียกฝ่ายของตนเองว่าเป็นฝ่ายประชาธิปไตย ทั้งๆ ที่ ส.ส.ทุกพรรคก็มาจากการเลือกตั้งครั้งเดียวกัน ด้วยกติกาภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับเดียวกัน การเลือกตั้งก็เกิดขึ้นในวันเดียวกัน และจนป่านนี้ก็ยังพยายามไม่เลิกที่จะต้องล่มรัฐนาวาของพลเอกประยุทธ์ให้ได้ ไล่ท่านออกไปโดยด่าว่าท่านเป็นปัญหาของประเทศชาติ
นายกรัฐมนตรีไปลงพื้นที่ก็ถูกจับผิดว่าไปผิดที่ผิดทาง ที่ควรจะไปไม่ไป ดันไปที่ที่ไม่ควรจะไป พอไปเข้าจริงๆ ก็หาว่าใช้อำนาจให้คนมาพินอบพิเทา ทั้งๆ ที่นายกรัฐมนตรีถามหา ส.ส.ในพื้นที่ให้มาช่วยกันทำงานดูแลประชาชน ไปหลายชั่วโมงก็หาว่าไปชั่วโมงเดียว มีการรื้อเต็นท์โดยเหตุผลอะไรบางอย่างที่ไม่เกี่ยวข้องกับนายกรัฐมนตรีเลย ก็หาว่ารื้อเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับการเดินทางของนายกรัฐมนตรี ทั้งๆ ที่ท่านไม่ได้เดินทางผ่านทางนั้นเลย การช่วยเหลือราษฎรของท่านต้องทำตามระเบียบของทางราชการ ก็เอาท่านไปเปรียบเทียบกับการช่วยเหลือของดาราที่เป็นเอกชน ท่านจัดรายการทางโทรทัศน์เพื่อระดมทุนช่วยเหลือชาวบ้าน ก็หาว่าท่านไม่รู้จักใช้งบส่วนกลางมาช่วยเหลือชาวบ้าน ดารามาช่วยรับโทรศัพท์เพราะอยากช่วยเหลือชาวบ้านก็หาว่าท่านไปบังคับให้เขามา แค่เรื่องน้ำท่วมเรื่องเดียวก็ด่าได้หลายเรื่องแล้ว
ท่านถวายสัตย์ไม่ครบถ้วน มีคำอธิบายมาจากศาลรัฐธรรมนูญที่มีนัยว่าเรื่องดังกล่าวน่าจะจบได้แล้ว แต่พวกเขาก็ไม่ยอมจบ จะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นที่วิญญูชนทั้งหลายเข้าใจว่าอะไรเป็นอะไร และไม่ควรจะมีหน่วยงานใดมาทำการตรวจสอบหรือวินิจฉัยเรื่องการถวายสัตย์ พวกเขาก็ไม่เลิก เรื่องการแถลงนโยบายโดยยังไม่มีโครงการ ท่านไม่ได้บอกว่างบประมาณจะเป็นเท่าใด จะเอามาจากไหน ก็กล่าวหาว่าท่านไม่ทำตามรัฐธรรมนูญอีก ท่านเข้าสภาชี้แจงแล้วก็ยังไม่ฟังอีก พยายามจับผิดพฤติกรรมในสภาของท่านอีก เพราะรู้ว่าท่านใหม่กับกระบวนการและพิธีการต่างๆ ในสภา ก็พยายามจะเอาเรื่องเล็กๆ น้อยๆ มาด่าท่าน พูดตรงๆ ก็คือการเล่นไม่เลิก พยายามที่จะทำลายความน่าเชื่อถือของนายกรัฐมนตรี คงอยากให้ท่านทนเสียงด่าไม่ไหวแล้วถอดใจลาออกไป เพื่อให้พวกเขาได้มาเป็นรัฐบาลกระมัง
นายกรัฐมนตรีไปต่างประเทศ แสดงปาฐกถาเป็นภาษาไทย (ซึ่งผู้นำหลายประเทศเขาก็ทำกัน) ก็ด่าว่าท่านอีกว่าไม่มีความสามารถด้านภาษาอังกฤษ แต่จริงๆ แล้วการพูดภาษาของตนเองแล้วมีผู้ชำนาญด้านภาษาเป็นล่ามน่าจะดีกว่าความพยายามพูดภาษาอังกฤษผิดๆ ถูกๆ ทั้งคำศัพท์และไวยากรณ์ อย่างที่ผู้นำบางคนของไทยพยายามทำ เราคนไทยเห็นผู้นำพูด Broken English แบบนั้น เรารู้สึกอายมากกว่านายกรัฐมนตรีพูดภาษาไทยเสียงดังฟังชัดด้วยความมั่นใจ
มีความพยายามที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญซึ่งรัฐบาลก็ไม่ได้ขัดข้องอะไร แต่ก็อยากให้เป็นเรื่องของรัฐสภามากกว่าที่จะเป็นเรื่องของฝ่ายบริหาร ก็มาเรียกร้องให้ท่านถือธงนำการแก้รัฐธรรมนูญ พอท่านปฏิเสธก็ด่าท่านอีกว่าไม่จริงใจในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และพูดในทำนองที่ว่าท่านไม่อยากแก้รัฐธรรมนูญเพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้ร่างมาเพื่อให้นายกรัฐมนตรีได้สืบทอดอำนาจ ท่านจึงไม่มีความจริงใจในการจะถือธงนำการแก้รัฐธรรมนูญ และบนเวทีปราศรัยเรื่องแก้รัฐธรรมนูญก็ยังมีคนพูดว่าระหว่างแก้ไขรัฐธรรมนูญกับการไล่นายกรัฐมนตรีออกไป อย่างไหนควรจะเกิดก่อนกัน
เกลียดนายกรัฐมนตรีกันขนาดนี้เพราะอะไร เพราะท่านไปขัดผลประโยชน์อะไรพวกเขาหรือเปล่า การที่พวกเขาพยายามจะเข้ามาเป็นรัฐบาล แต่ไม่อาจจะเป็นได้ เพราะพรรคพลังประชารัฐสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ ทำให้พวกเขาต้องผิดหวัง และมีอาการเมาหมัดแห่งความพ่ายแพ้ ต่อมอิจฉาอักเสบจนกระทั่งมีพฤติกรรมด่านายกรัฐมนตรีทุกเรื่องอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ หรือว่านายกรัฐมนตรีทำอะไรถูกต้องหลายอย่าง จนทำให้อิทธิพลและมนต์เสน่ห์ของพวกเขาหมดไป หรือเป็นเพราะนายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับความเป็นนิติรัฐของประเทศไทย ใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด ทำให้การทำผิดกฎหมายเป็นไปได้ยาก หรือเพราะเขาคิดว่าพลเอกประยุทธ์น่าจะยุติบทบาทหลังการเลือกตั้ง แต่ท่านไม่ยุติ หรือเขาคิดว่าทหารที่ทำรัฐประหาร จะไม่ประสบความสำเร็จในการมาทำงานการเมือง แต่ท่านสามารถทำงานการเมืองได้ดีกว่าที่คาด หรือว่าพวกเขาหวังว่านายกรัฐมนตรีจะเกิดอาการเกรี้ยวกราดเวลาโดนซักในสภา แต่ท่านสามารถควบคุมอารมณ์ได้ ไม่แสดงอาการอย่างที่พวกเขาอยากให้เป็น ทั้งหมดนี้หรือเปล่าที่ทำให้พวกเขาเกลียดนายกรัฐมนตรี จนต้องหาเรื่องมาด่าท่านทุกเรื่อง ไม่ว่าเรื่องเล็กเลือกใหญ่ ถ้ามีโอกาสด่าได้ต้องด่า จริงบ้างเท็จบ้าง ก็ต้องด่า ต้องทำลายความน่าเชื่อถือให้ได้ ต้องล่มรัฐนาวาของท่านให้ได้ แต่ทำยังไงมันก็ยังไม่ล่ม ด่ายังไงท่านก็ยังไม่พอใจ เพราะท่านบอกว่าท่านเป็นกระท้อน ยิ่งทุบยิ่งหวาน เมื่อเป็นเช่นนี้ ฝ่ายค้านที่ผันตัวเองเป็นฝ่ายแค้น จะไม่กระอักเลือดตายเพราะล่มรัฐนาวาไม่ได้หรอกหรือ น่าเห็นใจจริงๆ สำหรับพวกที่แพ้ไม่เป็น ชนะเสียจนชินสินะ.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |