19 ต.ค 62 - เมื่อเวลา 13.50 น. น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ อภิปรายว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจและแก้ปัญหาความยากจน จากที่ได้ฟังสมาชิกอภิปรายหลายคนในลักษณะเหรียญด้านเดียว ปัจจุบันรัฐบาลมีหนี้สินมากจริง ซึ่งเกิดจากการกู้ของรัฐบาลที่ผ่านมา การกู้เงินมาบริหารประเทศเป็นความจำเป็น และเกิดขึ้นกับทุกรัฐบาล แต่หนี้สินส่วนหนึ่งเกิดจากปัญหาการทุจริต คอร์รัปชัน โกงจำนำข้าว 6 แสนล้านบาท โกงหวยบนหิน จีทูจี โดยเฉพาะรัฐบาลชุดนายกรัฐมนตรี ที่หนีไปต่างประเทศ สร้างหนี้ไว้ให้กับรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ จนต้องตั้งงบประมาณจำนวน 4.6 หมื่นล้านบาท มาชดใช้หนี้โครงการจำนำข้าวดังกล่าว ส่วนคนโกงก็ไปอยู่ต่างประเทศ ชาตินี้ก็กินไม่หมด
น.ส.ปารีณา กล่าวว่า เราไม่ได้เริ่มจากศูนย์ แต่เริ่มจากติดลบ ปัจจุบันนี้ทุกประเทศทั่วโลกเกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ เกิดจากสงครามการค้าจีน สหรัฐฯ ประเทศไทยก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ เศรษฐกิจตกต่ำเป็นปัญหาทั่วโลก แต่ไทยถือว่าได้รับผลกระทบน้อย รัฐบาลสามารถสร้างเสถียรภาพการเงิน การคลังได้อย่างมั่นคง เห็นชัดเจนค่าเงินบาทแข็งมากที่สุดในภูมิภาคนี้ ทำให้ไทยได้รับความน่าเชื่อถือจากทั่วโลก ปัจจัยภายนอกเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ และในบรรยากาศทั้งหมดนี้เวิด์ล อิคอมนอมิค ฟอร์รั่ม ยังจัดอับดับความสามารถในการแข่งขันของไทยให้อยู่ในอันดับที่ 40 จากทั่วโลก เป็นประเทศที่น่าท่องเที่ยวอันดับหนึ่ง ครองแชมป์อยู่
ส.ส.จังหวัดราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ส่วนปัญหาความยากจนเป็นปัญหาเรื้อรังยาวนานทุกรัฐบาลยังแก้ไม่ได้ จึงไม่เป็นธรมที่จะกล่าวหารัฐบาลนี้เป็นต้นเหตุความยากจน ทั้งนี้ รัฐบาลมีการจัดงบประมาณ และทำนโยบายแก้ไขเศรษฐกิจโดยส่วนหนึ่ง มีการนำภาษีมาช่วยอัดฉีดเงินช่วยเหลือชาวนา ชาวไร่ ผู้มีรายได้น้อย ทั้งการแจกเมล็ดพันธุ์ข้าว ประกันราคาข้าว 15,000 บาทต่อตัน ประกันราคายาง ราคาสินค้าเกษตร เป็นการใช้งบที่ประชาชนรออยู่ โดยเฉพาะประชาชนที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจำนวน 14.6 ล้านคน ซึ่งใช้งบ4 หมื่นล้านบาท สวัสดิการผู้สูงอายุ 7.6 หมื่นล้านบาท คนเหล่านี้รองบประมาณจากรัฐบาลอยู่
"อยากให้ฝ่ายที่เห็นต่างมาร่วมกันเดินหน้าประเทศไทย ไม่ดึงรั้งว่าเมื่อไหร่จะได้เงินตามนโยบาย ก็ขอให้ช่วยกันโหวตให้กับร่างงบประมาณนี้ อย่าดึงรั้งประเทศไทย ขอให้ทุกคนเดินหน้าประเทศไทย ประชาชนรออยู่"นางสาวปวิณา กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ได้ลุกขึ้นขอใช้สิทธิ์พาดพิง ทำให้นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาฯ คนที่ 2 ซึ่งทำหน้าที่ประธานการประชุมในขณะนั้น จึงสอบถามว่า ไม่ทราบว่าจะใช้สิทธิ์พาดพิงในประเด็นใด และผิดข้อบังคับข้อไหน
โดยนายจิรายุ กล่าวว่า ท่านประธานจะปล่อยให้ฝ่ายรัฐบาลพูดแต่เรื่องเก่าๆ ไม่ได้ แต่นายสุชาติไม่อนุญาตให้นายจิรายุใช้สิทธิ์พาดพิง โดยระบุว่า นายจิรายุต้องระบุให้ชัดว่าถูกพาดพิงในประเด็นใด นายจิรายุจึงตอบโต้ว่า ทำไมฝ่ายรัฐบาลพูดเท็จกลางสภาฯ ได้ แต่พวกตนฝ่ายค้านกลับไม่มีสิทธิ์ที่จะชี้แจง
นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ลุกขึ้นประท้วงนายสุชาติว่า ต้องให้นายจิรายุนั่งลง และเคารพคำตัดสินของประธานในที่ประชุม นายสุชาติจึงวินิจฉัยว่า รัฐมนตรีเป็นฝ่ายที่เสนอร่างพระราชบัญญัติงบประมาณ ประเด็นใดที่สมาชิกแสดงความเห็น รัฐมนตรีก็มีสิทธิ์ที่จะชี้แจงได้ ซึ่งกรณีของนายจิรายุไม่ทราบว่าจะชี้แจงประเด็นใด ก่อนที่จะตัดบทให้สมาชิกท่านอื่นได้อภิปรายต่อไป.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |