เสียงเชียร์ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นั่งนายกฯ ต่ออีกสมัย เริ่มดังกึกก้องอีกครั้ง หลังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดจดแจ้งจัดตั้งพรรคการเมือง เมื่อ 2 มี.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่บิ๊กตู่ก็ประกาศชัดเจนการเลือกตั้งในเดือน ก.พ.62 นี้

      ขณะเดียวกัน ปฏิกิริยา "บิ๊กตู่" หลังประกาศชัดเจนวันเลือกตั้งแล้ว ก็ใช้โอกาสช่วงเดินสายลงพื้นที่ต่างจังหวัดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ลุยเชิญชวนประชาชนไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งอย่างเต็มปากเต็มคำ ซึ่งก็สร้างความเชื่อมั่นให้กับหลายฝ่ายได้บ้างว่า จะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น

      นั่นก็ส่งผลให้ฟากฝ่ายการเมือง ไม่ว่าจะเป็นก๊วนการเมืองเก่าหรือก๊วนใหม่ๆ ต่างเริ่มตื่นตัว ขยับรับโรดแมปเลือกตั้งนี้

      และที่น่าจับตาเป็นพิเศษ ก็เห็นจะเป็นพรรคการเมืองใหม่ๆ ที่ตบเท้าเข้าแจ้งจดทะเบียนพรรค ซึ่งบางพรรคประกาศหนุนบิ๊กตู่นั่งนายกรัฐมนตรี

      อย่าง “พรรคพลังประชารัฐ” ที่ว่ากันว่าเป็นพรรคของ พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล นายทหารคนสนิทของบิ๊กตู่ ที่ต้องการตั้งพรรคขึ้นมาเพื่อให้เป็นพรรคของ คสช.

      และสนับสนุน บิ๊กตู่ ด้วยการเชิญมานั่งตำแหน่งประธานที่ปรึกษาพรรค เพื่อตัดเสียงวิจารณ์นายกฯ คนนอก

      นอกจากนี้ยังมี “พรรคประชาชนปฏิรูป” ของนายไพบูลย์ นิติตะวัน ที่ชัดเจนมาตั้งแต่ต้นแล้วว่าจะดันบิ๊กตู่เป็นนายกฯ ต่อไป ขณะเดียวกันพรรคพลังธรรม ที่ปัดฝุ่นก่อตั้งเป็น “พรรคพลังธรรมใหม่”

      ก็ไม่ปฏิเสธที่จะสนับสนุนบิ๊กตู่เป็นนายกฯ คนนอกด้วย

      แต่จากเสียงเรียกร้องทั้งหมดนี้ บิ๊กตู่ เองยังวางชั้นเชิงเป็นอย่างดี

      โดยตลอดสัปดาห์ที่มีกระแสพรรคการเมืองชูตัวบิ๊กตู่นั่งนายกฯ บิ๊กตู่เองก็ยังคงเก็บตัวลุยทำงานขับเคลื่อนตามนโยบายของรัฐบาลตามปกติ โดยไม่ให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด

     หลังจากก่อนหน้านี้ บิ๊กตู่ เคยปฏิเสธไปแล้วว่า ยังไม่มีใครติดต่อมา แต่ไม่ว่าพรรคใดจะสนับสนุน ก็ถือเป็นเรื่องส่วนบุคคลที่จะรักใครชอบใคร เชียร์ใคร ซึ่งตนเองก็ยังไม่ได้พิจารณา

      แต่ถ้าจะใช้หลักการอะไรเลือกพรรคการเมืองที่สนับสนุน จะต้องดูทั้งนโยบายพรรค คนที่อยู่ในพรรคว่าเป็นอย่างไร มีความน่าเชื่อถือแค่ไหน มีความบริสุทธิ์ ยุติธรรม รอบรู้แค่ไหน รวมถึงต้องรู้เรื่องงบประมาณของประเทศด้วย

      แต่ถึงกระนั้น เมื่อ บิ๊กตู่ ยังไม่ฟันธง แต่หากมองเกมแล้ว ถ้าบิ๊กตู่เลือกลงไปอยู่พรรคเล็กๆ ที่เป็นหนูช่วยหนุน ให้ราชสีห์ผงาดขึ้นเป็นนายกฯ อีกครั้ง ก็ดูจะไม่สมศักดิ์ศรีหัวหน้ารัฐบาลรัฐประหารเท่าไหร่ เมื่อเทียบกับทางเลือกการเป็น “นายกฯ คนนอก” ที่นั่งเฉยๆ รอฝ่ายการเมืองมาเชิญให้ไปแก้ปัญหา ในเวลาที่ตกลงกันไม่ได้ ซึ่งดูจะมีราคาเสียมากกว่า

      และสุดท้ายต้องไม่ลืมด้วยว่า อำนาจการบริหารประเทศยังอยู่ในมือของบิ๊กตู่ ผู้คุมเกมอยู่เหนือทุกฝ่าย จึงไม่แปลกที่บิ๊กตู่จะเป็นผู้เลือกมากกว่าผู้เล่น และสุดท้ายบิ๊กตู่จะเลือกให้เป็นอย่างไร คงต้องรอดูผลในสนามเลือกตั้งที่จะถึงเร็วๆ นี้!.